7 อันตรายของอาหารจังก์ฟู้ดที่สาว ๆ ควรรู้

          อาหารจังก์ฟู้ด หรือ อาหารขยะ ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า ไม่น่ากินสักเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจว่าบางคนชอบในความอร่อย และความสะดวกสบายของมัน โดยเฉพาะสาว ๆ เวิร์กกิ้งวูเมนที่ไม่ค่อยมีเวลานั่งกินอาหาร อาหารจังก์ฟู้ดจึงเป็นตัวเลือกที่แสนจะเย้ายวนใจให้หลายคนซื้อกินเสมอ

แฮมเบอร์เกอร์

           แต่คุณไหมว่า จังก์ฟู้ดไม่ใช่แค่ทำให้เราอ้วนเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียอื่น ๆ ต่อสุขภาพมากมายเลยนะคะ ลองมาดูกันดีกว่าว่า อันตรายเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

1. ทำให้แก่เร็ว
 
          ได้ชื่อว่าเป็นอาหารขยะ เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความอ้วน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า มันยังทำให้เราแก่เร็วขึ้นด้วย! นั่นก็เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำตาล แป้ง และสารกันบูดทั้งหลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สารอินซูลีนที่อยู่ในร่างกายเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไปยับยั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ก่อให้เกิดการเร่งการเจริญเติบโตเกินไป

          พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำให้แก่เร็วขึ้น ผิวคล้ำเสียได้ง่ายขึ้น ริ้วรอยหรือตีนกาเริ่มถามหา นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดกระบวนการ Glycation ที่จะไปทำลายคอลลาเจนในร่างกายเราโดยตรง ทำให้คอลลาเจนเกิดภาวะแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึงกระชับอย่างที่สาว ๆ ปรารถนา

2. รอบเอวขยาย
 
          คุณสาว ๆ หลายคนอยากใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่งเพื่อออกไปแฮงค์เอ้าท์ปาร์ตี้ แต่พอใส่ไปแล้ว โอ๊ะ โอ..ดันติดพุง รูดซิปไม่ได้ซะงั้น! ทีนี้ คุณสาว ๆ จะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันอ้วนขึ้นหรือนี่ ฉันไปทำอะไรมาหนอถึงได้อ้วนขึ้นแบบนี้...

          ในกิจวัตรประจำวันของคุณสาว ๆ หลายคนชอบกินอาหารจังก์ฟู้ด ดื่มน้ำอัดลมเป็นชีวิตจิตใจ นั่นแหละค่ะ สาเหตุหลักเลย เนื่องจากในกรรมวิธีการผลิตอาหารขยะจะมีจำนวนของโซเดียม หรือ เกลือแร่ ชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอยู่มากเกินความต้องการของร่างกายมนุษย์ และโซเดียมที่ว่านี้จะทำให้เราเกิดอาการ "บวมน้ำ"

          หลายคงงว่า โซเดียมทำให้เกิดอาการบวมน้ำอย่างไร? อาหารประเภทที่มีโซเดียมเป็นส่วนผสมอยู่สูงจะดูดซับน้ำออกจากร่างกายเราเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดแคลนน้ำและต้องเร่งผลิตน้ำออกมาชดเชยส่วนที่ถูกดูดซึมไปอย่างรวดเร็ว และยิ่งในน้ำอัดลมด้วยแล้ว มันยิ่งไปทำปฏิกริยากับฟองอากาศยิ่งทำให้แย่ลง นั่นทำให้คุณจะบวมบริเวณหน้าท้องและก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคุณใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่งไม่ได้นะจ๊ะ
 
3. มีอาการท้องผูก
 
ท้องผูก

          ในชีวิตอันเร่งรีบของสาว ๆ เวิร์กกิ้งวูแมนทั้งหลาย หลายคนไม่มีเวลากินอาหารเช้าซึ่งเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดของร่างกาย สาว ๆ จึงมักหันไปกินขนมปัง เพราะเป็นอาหารที่สามารถทำให้อิ่มได้ในเวลาอันรวดเร็ว

          แต่ความจริงแล้วอาหารประเภทขนมปัง ถือว่าเป็นอาหารขยะ โดยเฉพาะขนมปังขัดขาวที่ผ่านกระบวนการฟอกสีที่ทำให้สูญเสียวิตามินไป อีกทั้ง ไม่มีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการขับถ่าย ทำให้ท้องผูกได้ง่าย ๆ เลย เพราะงั้นหลายคนจึงหันมากินเลือกข้าวกล้องที่ไม่ผ่านการขัดสี กินขนมปังโฮลวีต แทน 
 
4. เกิดอาการกรดไหลย้อน
 
          หลาย ๆ คนชอบกินอาหารประเภทจังก์ฟู้ดหนัก ๆ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ในมื้อเย็น บางคนกินมื้อดึกเลยก็มี และที่สำคัญกินแล้วก็เข้านอนเลย นั่นแหละค่ะสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการกรดไหลย้อน ที่หลายคนกำลังทรมานกับอาการแสบร้อนในทรวงอก เนื่องจากกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร เพราะอาหารจังก์ฟู้ดทั้งหลายมีไขมันอิ่มตัวสูงเกินไปซึ่งจะใช้เวลานานในการย่อยมากกว่าอาหารปกติ ทำให้กระเพาะอาหารปล่อยกรดเกินมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรดเกินเหล่านี้ก็จะไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารนั่นเอง
 
5. อารมณ์แปรปรวนช่วงประจำเดือนมา
 
อารมณ์แปรปรวน

          สาว ๆ หลายคนเวลามีประจำเดือนจะรู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากสาวอารมณ์ดีกลายเป็นสาวขี้โมโหภายในพริบตา นั่นก็เพราะเกิดอาการ PMS ค่ะ อาการพีเอ็มเอสที่ผู้หญิงแสดงออกมาทั้งหมดมีพฤติกรรมหลากหลายกว่า 150 อาการ ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟช่วงมีประจำเดือน

          เพราะอะไรนะหรือ? คุณสาว ๆ รู้หรือไม่ว่า กาแฟที่เราชอบกินกันนั้นเป็นตัวการที่ดีที่ทำให้เกิดอาการพีเอ็มเอสเลยล่ะ เพราะส่วนใหญ่สาว ๆ ชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาล ซึ่งน้ำตาลจะทำให้สารอินซูลินที่อยู่ในร่างกายเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลต่อการทำงานของสมองที่ควบคุมด้านอารมณ์อยู่ และพอมาเจอกับการมีประจำเดือนที่ฮอร์โมนไม่ปกติอยู่แล้ว ยิ่งทำให้สาว ๆ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เหวี่ยงกันเป็นประจำนั่นเอง
 
6. ปวดหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ
 
          ฮอตดอก แฮม ไส้กรอก ชีส ถือว่าเป็นอาหารจังก์ฟู้ดที่ชอบกินเหลือเกิน แต่อาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของ Tyramine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีผลต่อเลือดอยู่มาก และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด cheese reaction ซึ่งจะมีอาการ คือ ปวดศีรษะอย่างแรง อาเจียน ตัวร้อน เจ็บหน้าอก กล้ามเนื้อกระตุก ความดันเลือดสูงมากจนเกิดอันตรายได้ อาการต่าง ๆ เหล่านี้เกิดเนื่องจากฤทธิ์โดยตรงของ tyramine ที่อยู่ในอาหารจังก์ฟู้ดที่กล่าวไปข้างต้น

          รู้แบบนี้แล้ว หลายคนที่มักปวดหัวโดยไม่ทราบสาเหตุก็ลองหยุดกินอาหารเหล่านี้ดูนะจ๊ะ แทนที่แต่ละครั้งที่ปวดหัว มักจะกินยาแก้ปวดให้ระงับอาการปวดไป ก็ยิ่งไปทำลายอวัยวะส่วนอื่นอีกนะเออ
 
7. เสี่ยงต่อสภาวะซึมเศร้า
 
โรคซึมเศร้า

          ผลวิจัยออกมาแล้วนะคะว่า คนที่ชอบกินอาหารจังก์ฟู้ดเป็นจำนวนมากจะมีความเสี่ยงต่อสภาวะซึมเศร้าได้มากกว่าปกติ ที่ถึงแม้อาจไม่ถึงขั้นร้ายแรง แต่ก็ทำให้คุณอารมณ์เศร้าหมอง หรืออารมณ์ไม่ดีได้ตลอดเวลา ถ้าคุณสาว ๆ เป็นเช่นนี้แล้ว รับรองได้เลยว่า คุณผู้ชายทั้งหลายไม่กล้าเข้าใกล้แน่นอนค่า

          เห็นผลเสียของอาหารจังก์ฟู้ดแล้ว เชื่อว่ามื้อต่อไป อาหารจังก์ฟู้ดคงไม่อยู่ในสายตาของคุณสาว ๆ แล้วใช่ไหมล่ะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 อันตรายของอาหารจังก์ฟู้ดที่สาว ๆ ควรรู้ อัปเดตล่าสุด 12 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13:31:48 23,445 อ่าน
TOP
x close