สธ.จัดบิ๊กคลีน 20 ร.ร.ใน กทม. ป้องกันโรค มือ เท้า ปาก

ถกไวรัสวิทยา หวั่นเด็กเกิน 14 ปี ติดเชื้อเรื่องใหญ่ (ไทยโพสต์)

          ไพจิตร์ ลั่นโรคมือ เท้า ปาก ปีนี้ป่วยไม่เกิน 18,000 รายแน่ กำชับทุกจังหวัดเข้มดูแลให้คนตายน้อยสุด! หมอจุฬาฯ แนะจับตาหากเด็กเกิน 14 ปีติดเชื้อจะน่าวิตก ด้านกรมควบคุมโรค รับ มีเด็กโตติดเชื้อ แต่เป็นส่วนน้อย ชี้เป็นเพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน

           สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ยังคงเป็นกระแสต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี โดยนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการป้องกันว่า ได้ให้กรมควบคุมโรคตั้งวอร์รูมรับแจ้งกรณีสถานการศึกษาหรือสถานรับเลี้ยงเด็กมีเด็กป่วยมากผิดปกติแล้ว เพื่อเข้าไปดูแลควบคุมป้องกันโรคอย่างใกล้ชิด ส่วนการปิดโรงเรียนในหลายพื้นที่นั้น ถือเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด แต่ที่น่าห่วงคือ สถานที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันมาก เช่น สวนสนุก จึงขอความร่วมมือผู้เกี่ยวข้องดูแลความสะอาดสถานที่ด้วย

           นายวิทยา ยังยืนยันข่าวเด็กเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีว่า ไม่ได้เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 และในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ สธ.จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์

           ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. กล่าวหลังประชุมทางไกลผ่านจอภาพกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และกุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ ในเรื่องนี้ว่า ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดทราบถึงสถานการณ์การระบาดว่ามีผู้ป่วยกว่า 13,000 ราย ผู้ป่วยกระจัดกระจายจังหวัดละ 5 คน 10 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด ตามมาด้วยภาคกลาง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และคาดว่าในปีนี้จะพบผู้ป่วยทั้งหมดไม่เกิน 18,000 ราย โดย 90%จะเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี

           "ได้กำชับให้ทุกจังหวัดใช้ 2 มาตรการรองรับ ได้แก่ 1.การควบคุมป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย พุ่งเป้าไปที่โรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็ก และ 2.ป้องกันผู้ป่วยเสียชีวิตให้น้อยที่สุด" นพ.ไพจิตร์ กล่าว และว่า ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กป่วยในช่วงนี้ ขอให้ใช้มาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และให้เด็กหยุดพักอยู่บ้าน 7-10 วัน จะสามารถช่วยไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้

           ขณะที่ พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ยอมรับว่า โรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค แต่รักษาได้ตามอาการ โดยผู้ปกครองต้องสังเกตอาการ หากเด็กมีไข้ 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้นควรไปหาแพทย์ ซึ่งโรคมือเท้าปาก และไข้เลือดออกนั้น อาการที่แสดงออกในช่วงแรกจะคล้ายกัน แต่จะเริ่มแตกต่างกันในวันที่ 3 ที่มีแผลขึ้น

           ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อไวรัสขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ในวันที่ 20 กรกฎาคม จะมีการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อไวรัสจากสถาบันต่าง ๆ และนักระบาดวิทยา เพื่อประเมินสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้น่ากังวลนิดหน่อย แต่ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกเกินไป เพราะเราได้เตรียมความพร้อมรับมือตั้งแต่แรก ต่างจากกัมพูชาและเวียดนามที่สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรงกว่า เพราะประมาทในการรับมือ

           นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการระบาดของโรคตอนนี้ เพราะเหมือนกับการระบาดทุก ๆ ปีอยู่แล้ว แต่ต้องจับตาและเฝ้าระวัง 2 เรื่อง คือ การระบาดในกลุ่มเด็กว่ามีภาวะสมองอักเสบ น้ำท่วมปอด และเสียชีวิตหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่พบ และ 2.การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 14 ปีขึ้นไป ซึ่งปกติจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ แต่ก็มีโอกาสเกิดโรคได้ และถ้าเมื่อไหร่เกิดโรคในกลุ่มนี้ขึ้นมาแสดงว่าเชื้อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงของรหัสพันธุกรรม

           "ถ้ามีการเกิดโรคในผู้ใหญ่ เรายอมให้ได้เฉพาะคนที่อยู่ในครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ๆ เป็นโรคอยู่ก่อนแล้ว และอาการต้องเกิดตุ่ม เกิดแผลเฉพาะที่ผิวหนังเท่านั้น ถ้าเมื่อไหร่เกิดผลแทรกซ้อนที่สมองแล้วเรื่องใหญ่เลย ผมจึงจะเสนอให้ที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อไวรัสสถาบันต่าง ๆ ให้เฝ้าระวังในกลุ่มผู้ใหญ่ด้วย" นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

           ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า ขณะนี้โรคมือ เท้า ปาก ได้ขยายวงกว้างไปสู่เด็กโตด้วย แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นในกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี โดยพบเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยราว 1% ส่วนเด็กอายุ 10-14 ปี พบ 3.21% สาเหตุเพราะเด็กกลุ่มนี้ไม่มีภูมิคุ้มกัน เพราะไม่เคยรับเชื้อเอนเทอโรไวรัสชนิดนี้มาก่อน เมื่อดูแลสุขอนามัยไม่ดีพอ ก็มีสิทธิ์ติดเชื้อโรคได้

           ทั้งนี้ แพทย์ได้จัดกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อมือ เท้า ปาก ได้ง่ายไว้ 3 กลุ่ม คือ

           1.กลุ่มคนรับยากดภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะการรับยาสเตียรอยด์ หรือ กลุ่มผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ 
           2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ โดยเฉพาะเอดส์
           3.กลุ่มคนที่ร่างกายไม่แข็งแรง มีโรคทางพันธุกรรม หรือพิการมาแต่กำเนิด รวมทั้งเด็กที่ขาดสารอาหาร

หมอ คาด เชื้อมือ เท้า ปาก ที่กัมพูชา กลายพันธุ์จากจีน

            ศ.ดร.พิไลพรรณ พุธวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า "เรายังไม่มีข้อมูลเชื้อไวรัสโรคมือ เท้า ปาก ที่ระบาดอยู่ในกัมพูชาตอนนี้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ที่จีน และระบาดมายังเวียดนาม

            ปัญหาคือ ถ้าเด็กป่วยคนมักจะคิดว่าเป็นไข้เลือดออก เพราะมีอาการเริ่มต้นคล้าย ๆ กัน กว่าจะจับทางได้ว่าเป็นโรคมือ เท้า ปาก ก็หลายวันแล้ว ยิ่งตอนนี้เป็นหน้าฝน ยิ่งต้องระวังเพราะมีทั้งโรคไข้เลือดออก โรคมือ เท้า ปาก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันทั้งนั้น" ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา กล่าว

กทม.พบเด็กกรุงติดเชื้อแล้ว 22 โรงเรียน

           ด้าน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมการทำความสะอาดพื้นที่ของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 พบการติดเชื้อโรคมือ เท้า ปาก ในโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ 22 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวได้ปิดทำความสะอาดและเปิดเรียนตามปกติแล้ว 19 โรงเรียน โดย กทม.ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักอนามัยลงพื้นที่ดูแลความสะอาดพื้นที่และเครื่องเล่นทุกชนิดในแหล่งชุมชน เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น รวมถึงแนะนำผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ ระยะนี้ไม่ควรนำบุตรหลานเข้าไปเล่นเครื่องเล่นสาธารณะที่มีเด็กเล่นเป็นจำนวนมาก

           "หากไม่พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น คาดว่าภายใน 1-2 เดือน จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงเรื่อย ๆ และหมดไป" พญ.มาลินี ระบุ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก