สั่งสอบองค์การเภสัชฯ สต็อกวัตถุดิบผลิตยาพารา 130 ตัน หวั่นด้อยคุณภาพ


ยาพารา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          รมว.สาธารณสุข สั่งสอบ กรณีองค์การเภสัชฯ สต็อกวัตถุดิบผลิตยาพาราเซตามอล จากจีนกว่า 130 ตัน ตั้งแต่ปี 2554 พร้อมให้หน่วยงานกลางเข้าตรวจสอบ หวั่นยาไม่ได้คุณภาพ

          สืบเนื่องจากการนำเสนอข่าวโรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบในการผลิตยาพาราเซตามอลให้องค์การเภสัชกรรม หรือ อภ. ซึ่งหลายล็อตพบปัญหาต้องส่งเคลมบริษัท โดยในปี 2554-2555 พบวัตถุดิบมีปัญหา 19 ล็อต จาก 2 บริษัท แต่ อภ. ยืนยันว่า ไม่ได้นำวัตถุดิบมีปัญหามาผลิตยาขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ขณะเดียวกันพบว่า อภ. ได้สต็อกวัตถุดิบเอาไว้จำนวนมากโดยเช่าโกดังเก็บไว้นั้น

          เมื่อวานนี้ (14 กุมภาพันธ์) น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชฯ เข้าชี้แจงว่า เมื่อก่อนผลิตยาพาราเซตามอลเอง ตอนหลังไปจ้างผลิตโดยสั่งวัตถุดิบจากจีน แต่ไม่ได้คุณภาพและตรวจพบวัตถุดิบปนเปื้อน จึงใช้สต็อกขององค์การเภสัชฯ ก่อน 10 ตัน เพราะผลิตอยู่เดือนละ 10 ตัน โดยสต็อกวัตถุดิบมี 130 กว่าตัน

          ส่วนเรื่องการสต็อกยาเอาไว้ ทั้งที่ไปจ้างผลิตนั้น องค์การเภสัชฯ แจงว่า จะเปิดโรงงานผลิตยาพาราเซตามอลเองก็เลยซื้อมาเมื่อปี 2554 แต่การเปิดโรงงานล่าช้า คาดว่าจะเปิดได้เดือนมีนาคมนี้ ดังนั้นตนจึงให้องค์การเภสัชฯ ชี้แจงเพิ่มเติมในหลายประเด็นว่า ทำไมปิดโรงงานผลิตล่าช้า สต็อกที่มีอยู่ปลอดภัยหรือไม่เพราะใช้วัตถุดิบจากจีนเช่นกัน ทำไมซื้อมาล่วงหน้า เพราะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ถ้าซื้อปลายปี 2555 จะผลิตปี 2556 พอรับได้

          นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนจะให้คนกลางคือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าไปนับวัตถุดิบและตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบทั้งหมด และหาผู้รับผิดชอบด้วย ถ้าตรวจพบว่าไม่ปลอดภัย ก็ให้คืนสินค้า คืนเงิน และให้ อย. เข้าไปควบคุมวัตถุดิบ

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ลงไปดูวัตถุดิบในการผลิตพาราเซตามอลของ อภ. ที่คลังสินค้าบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพว่า ตอนนี้ยังนำวัตถุดิบมาตรวจไม่ได้ เพราะถ้าไปเปิดวัตถุดิบในที่ที่สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เดี๋ยววัตถุดิบจะเสีย และนำไปใช้ต่อไปไม่ได้ ดังนั้นเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่จะขนวัตถุดิบดังกล่าวไปที่ อภ. ประมาณ 200 กว่าถัง ถังละ 50 กิโลกรัม เพื่อเก็บตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเป็นคนเปิดถังวัตถุดิบ ทาง อภ. แค่ขนมาให้ดูเท่านั้น ดังนั้นการเปลี่ยนวัตถุดิบคงทำไม่ได้ ส่วนที่มีผู้สื่อข่าวถามว่า วัตถุดิบเก็บไว้ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชนิดของแต่ละวัตถุดิบ ซึ่งปกติจะมีวันหมดอายุบอกไว้ที่ถัง และขึ้นอยู่กับวิธีเก็บด้วย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สั่งสอบองค์การเภสัชฯ สต็อกวัตถุดิบผลิตยาพารา 130 ตัน หวั่นด้อยคุณภาพ โพสต์เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 17:11:07
TOP
x close