
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นักวิจัยสหรัฐฯ ประสบผลสำเร็จในการสร้างโคลนนิ่งตัวอ่อนของมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งนำไปผลิตเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาผู้ป่วยได้ ขณะที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลด้านการขัดต่อศีลธรรม
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เว็บไซต์เอ็นพีอาร์ มีรายงานว่า ชูกราต มาตาลิพอฟ นักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์และสุขภาพของออเรกอน สหรัฐฯ และทีมนักวิจัย ได้เผยความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของวงการวิทยาศาสตร์ เมื่อพวกเขาสามารถโคลนนิ่งตัวอ่อนของมนุษย์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งตัวอ่อนนั้นสามารถนำมาผลิตสเตมเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยได้
นับตั้งแต่มีการค้นพบเซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากเพราะเซลล์ต้นกำเนิดนั้นสามารถที่จะนำมาเปลี่ยนเป็นเซลล์ภายในร่างกายได้ทุกชนิด และมันก็เป็นที่สุดของศาสตร์การรักษาโรค เพราะสามารถรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยได้นับตั้งแต่ โรคเบาหวาน อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หรือแม้กระทั่งการบาดเจ็บที่เส้นประสาทไขสันหลัง และเป็นเวลาหลายปีแล้วที่นักวิทยาศาสตร์พยายามจะใช้เทคนิคการโคลนนิ่งมาสร้างเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน ซึ่งเป็นแหล่งพันธุกรรมที่สามารถเข้ากับร่างกายของผู้ป่วยได้ และช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายของพวกเขาปฏิเสธเซลล์เหล่านั้น
และนั่นจึงทำให้ความสำเร็จของชูกราต มาตาลิพอฟ และทีมวิจัยเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หลังจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกผ่านความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน แต่ถึงอย่างนั้น งานวิจัยในครั้งนี้ก็ยังอยู่บนความขัดแย้งทางด้านศีลธรรมอยู่ดี โดย ดร.จอร์จ ดาเลย์ นักวิทยาศาสตร์ด้านเซลล์ต้นกำเนิดจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมงานวิจัยนี้เผยว่า แม้มันจะเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของแวดวงวิทยาศาสตร์ แต่มันก็เป็นการมุ่งหน้าไปสู่ความขัดแย้งด้านศีลธรรมอีกครั้งเช่นกัน
ทั้งนี้เพราะงานวิจัยนี้ เป็นการสร้างและทำลายเซลล์ของมนุษย์โดยมีจุดประสงค์เพื่อการทดลอง ซึ่งเป็นสิ่งปฏิปักษ์ต่อศีลธรรม อีกทั้งยังเป็นที่กังวลว่า นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เทคนิคการโคลนนิ่งตัวอ่อนนี้ เพื่อเป็นแนวทางไปสู่การโคลนนิ่งมนุษย์ได้
นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิตโคลนนิ่งตัวอ่อนของมนุษย์นั้น ทีมนักวิจัยได้สรรหาสตรีที่ประสงค์จะบริจาคไข่เพื่อแลกกับเงินชดเชย ก่อนที่จะนำดีเอ็นเอออกจากไข่นั้น แล้วนำเซลล์ผิวหนังจากบุคคลต้นแบบมาฉีดเข้าไปในไข่แทน ซึ่งจะทำให้ดีเอ็นเอภายในไข่มีลักษณะเช่นเดียวกับบุคคลต้นแบบ จากนั้นจึงใช้วิธีการผสมผสานระหว่างสารเคมีและวงจรไฟฟ้า มากระตุ้นให้ไข่เกิดการแบ่งตัว แทนการนำใช้อสุจิมาทำปฏิกิริยากับไข่ จากนั้นนักวิจัยก็จะนำตัวอ่อนที่ได้มาเปลี่ยนเป็นเซลล์ต้นกำเนิด โดยไม่ปล่อยให้ตัวอ่อนนั้นเจริญเติบโตและคลอดเป็นมนุษย์
ด้านศาสตราจารย์ด้านการแพทย์คนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยชิคาโกเผยว่า เทคโนโลยีนี้ เป็นการตั้งใจทำลายมนุษย์เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อมนุษย์อีกคนหนึ่ง และเขาก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ผิดต่อศีลธรรมเช่นนี้จะถูกนำมาพัฒนาได้ถึงขนาดนี้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างตัวอ่อนมนุษย์นี้ยังได้ใช้วิธีการเดียวกันกับที่เคยใช้ในการโคลนนิ่งแกะดอลลี่ ซึ่งนั่นทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงขึ้น เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการโคลนนิ่งมนุษย์ขึ้นจริง ๆ ซึ่งก็เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่ามีผู้คนมากมายที่ต้องการจะทำให้มนุษย์โคลนนิ่งเกิดขึ้นมา และมันก็น่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น นักวิจัยก็ได้โต้แย้งว่า ตัวอ่อนที่สร้างขึ้นนั้นไม่มีประสิทธิภาพพอจะกำเนิดมนุษย์ เพราะมีไม่ได้รับการปฏิสนธิตามธรรมชาติ และการทดลองของพวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาจะไม่พัฒนามันให้กลายเป็นทารกอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ด้านนักวิจัยท่านอื่น ๆ ต่างเห็นพ้องว่างานวิจัยในครั้งนี้ มีประโยชน์ที่ได้รับซึ่งมีค่ามากกว่าความกังวลด้านศีลธรรมดังกล่าว เพราะเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก