พยาธิใบไม้ตับ ภัยร้ายกลายเป็นมะเร็งคร่าชีวิตคุณพ่อไมค์ ภิรมย์พร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ  CutelyBearEntTV1 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          หลังจากที่ "ไมค์ ภิรมย์พร" นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้สูญเสียคุณพ่อของเขาด้วยโรค "มะเร็งท่อน้ำดี" ไปเมื่อช่วงปลายปีก่อน ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของคุณไมค์เป็นคนแข็งแรง และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอาการอะไรบ่งบอกว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งท่อน้ำดีเลย มีเพียงอาการปวดท้องเล็กน้อยเท่านั้น... แต่สุดท้าย คุณพ่อของไมค์ก็จากโลกนี้ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุของมะเร็งนั้น ใครเลยจะรู้ว่า ต้นเหตุมาจากพยาธิตัวเล็ก ๆ อย่าง "พยาธิใบไม้ตับ" เท่านั้นเอง

          โดยค่ำคืนวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 รายการวีไอพี ได้เชิญ ไมค์ ภิรมย์พร มาบอกเล่าเรื่องราวการเสียชีวิตของคุณพ่อ และอุทาหรณ์เกี่ยวกับการรับประทานอาหารแบบสุก ๆ ดิบ ๆ จนเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ และกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีที่คร่าชีวิตคุณพ่อของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ


          ไมค์ ภิรมย์พร เผยว่า คุณพ่อเข้ารับการรักษาได้ไม่นาน เพราะกว่าจะทราบว่าป่วยก็พบว่าเป็นมะเร็งในระยะที่ 4 แล้ว ส่วนสาเหตุก็เนื่องมาจากพฤติกรรมการกินของคุณพ่อที่ชอบกินอาหารแบบสุก ๆ ดิบ ๆ เรียกได้ว่า กินแทบจะทุกมื้อเลยทีเดียว

          "จริง ๆ พ่อเป็นคนแข็งแรง ตามทัวร์คอนเสิร์ตผมเป็นประจำ มาอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ ขึ้นเหนือล่องใต้ท่านไปหมด พ่อมีแฟนคลับของเขาเองด้วยนะ เพราะเป็นคนคุยสนุก หลังคอนเสิร์ตซาผมก็มาทำไร่อ้อย ทำนา พ่อก็มาช่วย แต่ในขณะนั้นผมก็ยังมีงานคอนเสิร์ตอยู่ ซึ่งพ่อช่วยดูแลให้ผมตอนผมไปคอนเสิร์ต หลัง ๆ มานี่ พ่อบ่นปวดท้องบ่อย ๆ ทานอะไรก็แน่น จุก ขับถ่ายก็ผิดปกติ พอไปหาหมอก็บอกเป็นโรคกระเพาะ แต่กลับบ้านกินยาก็ไม่หาย ไปหาอีกทีก็บอกว่าพ่อเป็นไส้ติ่ง ก็จับตัดไส้ติ่งแต่ก็ยังไม่หาย จนกระทั่งผมเห็นท่าไม่ดี เพราะพ่อปวดแบบทรมานมาก ๆ เลยพอไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาล ก็พบว่า พ่อมีก้อนเนื้อที่ตับ น้ำที่ปอดเยอะผิดปกติ ลำไส้มีผังพืดเยอะมาก วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดี และขณะนั้นมะเร็งก็ลามไปที่ปอดที่ไส้แล้ว"

          สำหรับวิธีการรักษา คุณหมอบอกว่ามันไม่หายแน่นอนเพราะมันเป็นอยู่ในระยะที่ 4 แล้ว ซึ่งมีวิธี 2 วิธีที่จะบรรเทาอาการก็คือ การส่องกล้องเข้าไป และก็การผ่าตัด แต่การส่องกล้องนั้นค่อนข้างเสี่ยงกว่า เพราะคุณพ่อต้องกลืนแป้งเข้าไป หากจุดไหนเป็นแผลแล้วแป้งไหลเข้าไปในช่องท้องก็อาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต สำหรับกรณีผ่าตัดคุณหมอก็บอกว่า 50/50 ก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจให้คุณพ่อกินยาปฏิชีวนะบรรเทาอาการไปก่อน จนกระทั่งคุณพ่อเจ็บแบบทนไม่ไหว จึงปรึกษาคุณหมอให้ผ่าตัดเลย ซึ่งคุณหมอใช้เวลาในการผ่าตัดนานถึง 6-7 ชั่วโมง หลังจากนั้นคุณพ่อก็ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูนาน 1 เดือน และก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา


          นักร้องลูกทุ่งคนดัง กล่าวต่อว่า หากย้อนไปดูพฤติกรรมการกินของพ่อ คุณพ่อตนอายุ 73 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดอุดรธานี และตั้งแต่ตนเกิดมาก็ไม่เห็นคุณพ่อป่วยหนัก อย่างมากก็แค่เป็นหวัดเท่านั้น เพราะคุณพ่อทำไร่ทำนา เป็นคนแข็งแรง สำหรับอาหารโปรดของคุณพ่อก็คือของดิบ ปลาดิบพวกปลาน้ำจืดมีเกล็ด ก้อยดิบ เนื้อดิบ กินแบบใส่ข้าวคั่วขยำ ๆ รวมกัน แบบไม่ผ่านความร้อนเลยสักนิด ตอนนั้นตนก็เตือนว่าอย่ากินพวกเนื้อเยอะเพราะพ่ออายุมากแล้วกลัวว่ามันจะย่อยยาก และก็บอกว่าให้เลิกกินของดิบ ๆ แต่ตนก็เตือนจนไม่รู้จะเตือนอย่างไรแล้ว ขนาดตอนที่พ่อเริ่มปวดท้องใหม่ ๆ ตนทำข้าวต้มให้ก็ไม่กิน แอบไปกินลาบดิบ ๆ ตามงาน ตามบ้านอื่น

          และจากเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียคุณพ่อในเวลาอันรวดเร็วนั้น ไมค์ ภิรมย์พร จึงขอปวารณาตนร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุข ช่วยกันรณรงค์ให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน เลิกกินของดิบ โดยตนเดินไปหาทางกระทรวงสาธารณสุขเองเลย ว่าขอเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะอยากจะเป็นกระบอกเสียงอีกเสียงหนึ่ง ที่นำประสบการณ์ชีวิตจากคุณพ่อมาเล่าให้พี่น้องให้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการรับประทานอาหารดิบ ๆ ในโครงการที่มีชื่อว่า "สุขทั่วหน้ากินปลาสุก"

          เขาเผยอีกว่า สถิติการเป็นโรคมะเร็งในท่อน้ำดีของชาวอีสาน มีสูงถึงร้อยละ 18 ส่วนในภาคเหนือร้อยละ 8 ขณะที่ภาคกลางมีร้อยละ 3 ซึ่งพยาธิใบไม้ตับส่วนมากมาจากปลาเกล็ดขาวน้ำจืด และมีอายุถึง 25 ปี ซึ่งตนในเข้าร่วมรณรงค์ในฐานพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกับร้องเพลง "ปลาร้าสุก ๆ" และ "สุกก็แซ่บ" เพื่อเตือนใจให้พี่น้องชาวอีสานและชาวเหนือเลิกกินอาหารสุกดิบ ๆ และจากการร่วมรณรงค์ก็เห็นว่าชาวบ้านสนใจมากพอสมควร แต่บางรายก็ยังมีความเชื่อว่า กินของดิบ ๆ จะทำให้มีพละกำลัง หรือการเอาไข่มดแดงคลุกไปกับเนื้อดิบ ๆ ความเปรี้ยวของไข่มดแดงจะฆ่าพยาธิให้ตายได้ ซึ่งเรื่องเล่านี้ก็ต้องค่อย ๆ อธิบายและปรับเปลี่ยนความเชื่อว่าไม่มีอะไรฆ่าพยาธิได้นอกจาก "ความร้อน" เท่านั้น

          "ผมไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น ในเรื่องนี้ผมทำด้วยใจ ด้วยจิตอาสา และด้วยความตั้งใจ เพราะอยากเห็นชาวเหนือชาวอีสานเลิกกินของดิบ ๆ ไม่อยากเห็นใครต้องทรมานเพราะโรคนี้ ซึ่งกุศลดังกล่าวที่ผมทำให้ชาวบ้านทุกคนสุขภาพดี ก็หวังว่าจะส่งไปยังคุณพ่อของผม อยากให้ท่านได้กุศลในครั้งนี้ด้วย ส่วนโครงการนี้ผมก็คงเข้าร่วมไปเรื่อย ๆ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ก็จะช่วย อย่างเช่นหากไม่จัดกิจกรรมวันไหนผมมีคอนเสิร์ต ก็จะพูดเตือน และนำเอาเพลงที่รณรงค์ไปร้องให้แฟน ๆ ฟังด้วย"


          นอกจากนี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งท่อน้ำดี และพยาธิใบไม้ตับให้ฟังว่า การกินปลาดิบ ๆ ก็เหมือนกินพยาธิตัวอ่อนเข้าไป และเติบโตเป็นพยาธิตัวแก่อยู่ที่ท่อน้ำดีในตับ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง

          พยาธิใบไม้ตับนั้น จะฝังตัวอยู่ในปลาเกล็ดขาวน้ำจืด ซึ่งตัวอ่อนของมัน จะเจริญเติบโตในกระเพาะ ในลำไส้ และแทรกตัวไปในท่อน้ำดี จากนั้นจะสืบพันธุ์ ผสมพันธุ์ และปล่อยไข่ออกมาทางอุจจาระ ซึ่งหากมีการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ก็จะเติบโตขึ้นเป็นระยะที่สอง ต่อจากนั้นก็จะไปไชปลาอีก จนกลายเป็นวัฏจักรที่ไม่จบไม่สิ้น

          สำหรับอาการนั้น ขณะที่เป็นพยาธิจะค่อนข้างดูอาการยาก นอกจากอาจจะจุก ๆ แน่น ๆ ท้องอืดบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นมากพยาธิก็จะอุดตันเป็นดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลือง ต่อจากนั้นก็พัฒนาเป็นมะเร็ง ซึ่งเป็นอาการที่รุนแรง เริ่มต้นด้วยการแน่นท้องทางด้านขวา ในระยะนี้หมอก็จะวินิจฉัยได้ยากหน่อย หลังจากนั้นก็จะมีอาการมีน้ำในท้อง หรือเรียกกันว่าท้องมาร ส่วนระยะสุดท้ายคือระยะมะเร็งแตกกระจาย ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการไม่เกิน 6 เดือน และส่วนใหญ่จะเสียชีวิตทั้งหมด

          เรียกได้ว่า "พยาธิใบไม้ตับ" เป็นพยาธิตัวเล็ก ๆ แต่แฝงไปด้วยมหันตภัยที่ร้ายแรง เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งท่อน้ำดี ที่คร่าชีวิตคนไทยปีละกว่า 2 หมื่นรายเลยทีเดียว วิธีป้องกันโรคนี้ ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่รับประทานอาหารที่สุก ถูกสุขลักษณะเท่านั้น ก็ปลอดภัยไร้พยาธิ ไร้มะเร็งแล้วล่ะ