เดินออกกำลังกาย มีประโยช์มากมายกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรง ก็ลุกออกจากที่นั่งแล้วมาเดินกันเลย
เดิน เบิร์น ไขมัน
การเดินนั้นแทบจะเป็นวิธีการออกกำลังกายเดียวที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันโดยที่คุณก็แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าคุณรู้จักการเดินที่ถูกวิธี รับรองว่าหุ่นสวยแน่ ๆ ว่าแต่จะเดินอย่างไรให้เบิร์นไขมันอย่างได้ผล เรามีคำแนะนำมาฝากกัน
* ใส่ใจกับการวางท่า ทำให้ไหล่และแผ่นหลังอยู่ในภาวะที่สบาย สายตามองตรงไปข้างหน้า ปรับระดับคางให้เชิดในระดับตรง
* สังเกตอัตราหัวใจ ควบคุมให้อัตราการเดินสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ พยายามเดินให้กระฉับกระเฉง อัตราการเต้นของหัวใจที่ดีจะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
* ถ่วงน้ำหนัก สวมเสื้อกล้ามที่มีน้ำหนักสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็หากระเป๋าเป้มาสะพายหลังระหว่างเดิน จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือของหนักด้วยมือ หรือหาอะไรมาถ่วงข้อเท้าขณะเดิน
* แกว่งแขนเป็นวงสวย ขณะเดินพยายามให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แกว่งวงแขนไปข้างหน้าและข้างหังโดยให้องศาข้อศอกอยู่ในระดับคงที่
* เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ลองเกร็งกล้ามเนื้อท้องบ่อย ๆ ในขณะที่เดินจะช่วยลดพุงได้
* สะโพกส่ายพองาม เวลาเดินกล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะเคลื่อนย้ายไปด้วย เพียงควบคุมส่วนสะโพกให้ส่ายไปตามจังหวะการเดินอย่างพองาม จะช่วยให้กล้ามเนื้อสะโพกเฟิร์มขึ้น
* เกร็งขาอ่อนส่วนหลัง การสร้างกล้ามเนื้อให้เกิดขึ้นบริเวณขาอ่อนส่วนหลังขณะเดินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งเสริมให้หุ่นของเราฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น โดยเฉพาะเชพส่วนสะโพก
* ยกเข่าเป็นจังหวะ ขณะเดินให้ยกเข่าเป็นจังหวะ เมื่อเดินไปได้ระยะหนึ่งต้องหยุดพักเข่าบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
* สาวก้าวยาว ๆ เดินด้วยเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อทั้งส่วนในละนอกบริเวณข้อเท้า
* เดินบนพื้นไม่เรียบ หมายความว่าให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินอยู่บนผืนหญ้า ผืนทราย ผืนกรวด พื้นหิน หรือพื้นทางเดินที่ถูกจัดขึ้นไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการเดิน
* เท้ากับการเดิน เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสเป็นพื้นเป็นส่วนแรก ก่อนจะปรับเท้าให้โค้งเพื่อส่งน้ำหนักไปที่เท้าส่วนหน้านิ้วเท้าจะช่วยผลักให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างสมดุล
เดินดี ๆ มีกำไร
เมื่อนำการเดินมาแจกแจงว่าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง เราก็พบว่าประโยชน์ของการเดินนั้นมีมากมายเกินหน้ากระดาษจริง ๆ แต่พอจะสรุปโดยย่อได้ว่า
* เพิ่มสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดความตึงเครียด ความโกรธ ความเหนื่อยล้า และความวิตกกังวล
* ลดอาการเจ็บป่วย
* เพิ่มกล้ามเนื้อส่วนแขนและไหล่ แถมซิกแพ็คให้ด้วยในผู้ชาย
* เสริมสร้างกระดูกและกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
* อวัยวะส่วนขาแข็งแรงขึ้น
* บรรเทาอาการต้อหิน
* ป้องกันการเป็นอัลไซเมอร์ได้มากกว่าคนปกติ
DID YOU KNOW?
* ชาวยุโรปในแถวสแกนดิเวีย หรือทางขั้วโลก ใช้วิธีการเดินเพื่อเผาผลาญไขมันเกือบ 50%
* การเดินเร็วหรือจ็อกกิ้งและการเดินขึ้นลงบันไดช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการเดินปกติ
* เพียงแค่ 30 นาทีต่อวัน ใน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่คุณใช้เวลากับการเดิน ก็สามารถช่วยเพิ่มขีดความสุขและสุขภาพที่ดีได้แล้ว
* การเดินสามารถป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้ถึง 31% ในผู้หญิง
Amazing Number
* 7,192 คือ ค่าเฉลี่ยของจำนวนก้าวในการเดินต่อวันของผู้ชาย
* 5,210 คือ ค่าเฉลี่ยของจำนวนก้าวในการเดินต่อวันของผู้หญิง
* 100 คือ แคลอรี่ที่สะสมในร่างกายสามารถถูกเผาผลาญได้ด้วยการเดินเป็นระยะทาง 1 ไมล์
* 150 คือ ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการว่ายน้ำและการปั่นจักรยาน
* 100 ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการยกน้ำหนัก
* 200 ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการไถลโรลเลอร์สเก็ต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การดำเนินชีวิตที่ช้าลงด้วยการเดินให้อะไรดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะทางด้านสุขภาพ มีผลวิจัยมากมายช่วยนั่งยัน นอนยัน ได้ว่าการเดินนั้นเป็นยาขนานเอกสำหรับสุขภาวะในร่างกายที่หลายคนอาจมองข้าม ด้วยเหตุนี้ นิตยสาร 24/7 จึงขอเป็นเพื่อนเดินอยู่ข้าง ๆ เพื่อที่จะค่อย ๆ สะกิดให้คุณเห็นว่าการเดินนั้นหนาช่างมหัศจรรย์จริง ๆ
เดิน เบิร์น ไขมัน
การเดินนั้นแทบจะเป็นวิธีการออกกำลังกายเดียวที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันโดยที่คุณก็แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าคุณรู้จักการเดินที่ถูกวิธี รับรองว่าหุ่นสวยแน่ ๆ ว่าแต่จะเดินอย่างไรให้เบิร์นไขมันอย่างได้ผล เรามีคำแนะนำมาฝากกัน
* ใส่ใจกับการวางท่า ทำให้ไหล่และแผ่นหลังอยู่ในภาวะที่สบาย สายตามองตรงไปข้างหน้า ปรับระดับคางให้เชิดในระดับตรง
* สังเกตอัตราหัวใจ ควบคุมให้อัตราการเดินสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ พยายามเดินให้กระฉับกระเฉง อัตราการเต้นของหัวใจที่ดีจะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
* ถ่วงน้ำหนัก สวมเสื้อกล้ามที่มีน้ำหนักสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็หากระเป๋าเป้มาสะพายหลังระหว่างเดิน จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือของหนักด้วยมือ หรือหาอะไรมาถ่วงข้อเท้าขณะเดิน
* แกว่งแขนเป็นวงสวย ขณะเดินพยายามให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แกว่งวงแขนไปข้างหน้าและข้างหังโดยให้องศาข้อศอกอยู่ในระดับคงที่
* เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ลองเกร็งกล้ามเนื้อท้องบ่อย ๆ ในขณะที่เดินจะช่วยลดพุงได้
* สะโพกส่ายพองาม เวลาเดินกล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะเคลื่อนย้ายไปด้วย เพียงควบคุมส่วนสะโพกให้ส่ายไปตามจังหวะการเดินอย่างพองาม จะช่วยให้กล้ามเนื้อสะโพกเฟิร์มขึ้น
* เกร็งขาอ่อนส่วนหลัง การสร้างกล้ามเนื้อให้เกิดขึ้นบริเวณขาอ่อนส่วนหลังขณะเดินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งเสริมให้หุ่นของเราฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น โดยเฉพาะเชพส่วนสะโพก
* ยกเข่าเป็นจังหวะ ขณะเดินให้ยกเข่าเป็นจังหวะ เมื่อเดินไปได้ระยะหนึ่งต้องหยุดพักเข่าบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
* สาวก้าวยาว ๆ เดินด้วยเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อทั้งส่วนในละนอกบริเวณข้อเท้า
* เดินบนพื้นไม่เรียบ หมายความว่าให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินอยู่บนผืนหญ้า ผืนทราย ผืนกรวด พื้นหิน หรือพื้นทางเดินที่ถูกจัดขึ้นไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการเดิน
* เท้ากับการเดิน เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสเป็นพื้นเป็นส่วนแรก ก่อนจะปรับเท้าให้โค้งเพื่อส่งน้ำหนักไปที่เท้าส่วนหน้านิ้วเท้าจะช่วยผลักให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างสมดุล
เดินดี ๆ มีกำไร
เมื่อนำการเดินมาแจกแจงว่าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง เราก็พบว่าประโยชน์ของการเดินนั้นมีมากมายเกินหน้ากระดาษจริง ๆ แต่พอจะสรุปโดยย่อได้ว่า
* เพิ่มสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดความตึงเครียด ความโกรธ ความเหนื่อยล้า และความวิตกกังวล
* ลดอาการเจ็บป่วย
* เพิ่มกล้ามเนื้อส่วนแขนและไหล่ แถมซิกแพ็คให้ด้วยในผู้ชาย
* เสริมสร้างกระดูกและกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
* อวัยวะส่วนขาแข็งแรงขึ้น
* บรรเทาอาการต้อหิน
* ป้องกันการเป็นอัลไซเมอร์ได้มากกว่าคนปกติ
DID YOU KNOW?
* ชาวยุโรปในแถวสแกนดิเวีย หรือทางขั้วโลก ใช้วิธีการเดินเพื่อเผาผลาญไขมันเกือบ 50%
* การเดินเร็วหรือจ็อกกิ้งและการเดินขึ้นลงบันไดช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการเดินปกติ
* เพียงแค่ 30 นาทีต่อวัน ใน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่คุณใช้เวลากับการเดิน ก็สามารถช่วยเพิ่มขีดความสุขและสุขภาพที่ดีได้แล้ว
* การเดินสามารถป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้ถึง 31% ในผู้หญิง
Amazing Number
* 7,192 คือ ค่าเฉลี่ยของจำนวนก้าวในการเดินต่อวันของผู้ชาย
* 5,210 คือ ค่าเฉลี่ยของจำนวนก้าวในการเดินต่อวันของผู้หญิง
* 100 คือ แคลอรี่ที่สะสมในร่างกายสามารถถูกเผาผลาญได้ด้วยการเดินเป็นระยะทาง 1 ไมล์
* 150 คือ ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการว่ายน้ำและการปั่นจักรยาน
* 100 ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการยกน้ำหนัก
* 200 ก้าวที่เราเดินเท่ากับ 1 นาทีของการไถลโรลเลอร์สเก็ต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก