ช่วงเดือนแห่งการเฉลิมฉลองอย่างนี้ หลายที่มีการจัดเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ขณะที่หลายคนก็มักจะได้รับขนมเค้ก คุกกี้ ช็อกโกแลตจากคนรู้จักมาเป็นของขวัญ แต่ทว่าถ้าเผลอกินเพลินจนหมดทั้งกล่อง เพราะพ่ายแพ้ความอร่อยละก็ รับรองว่าหลังจากนี้คำว่า "อ้วนลงพุง" มาเคาะประตูเรียกแน่นอน
![ขนม ขนม]()
- กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ บรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
- หากจำเป็นต้องปรุงอาหารเลี้ยงคนจำนวนมาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่เสี่ยงต่อการเกิดท้องเสียได้ง่าย เช่น ลาบ ยำ พล่าต่าง ๆ หรืออาหารที่ปรุงด้วยกะทิ ลดรสหวาน มัน เค็ม
- หลีกเลี่ยงการกินขนมหวานประเภทเค้ก คุกกี้ เพราะหากกินในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อกันเป็นประจำโดยไม่มีการควบคุม จะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลของสารอาหารชนิดต่าง ๆ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไป เช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดโรคอ้วนลงพุงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
เค้ก-คุกกี้ ของอร่อย ๆ แบบนี้กินได้แค่ไหน ?
สำหรับการกินขนมหวาน อย่าง เค้ก คุกกี้ นั้น ช่วงเทศกาลนาน ๆ ทีแบบนี้ก็ไม่ได้มีใครห้ามหรอกนะจ๊ะ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะส่วนผสมของขนมพวกนี้ทำมาจากแป้ง น้ำตาล เนย ไข่ และไขมัน แถมยังมีรสหวานเสียด้วย ซึ่งจะทำให้เรากินเพลินเกินปริมาณโดยไม่ได้ระมัดระวัง แบบนี้น้ำหนักตัวเพิ่มเอาได้ง่าย ๆ เลยล่ะ
โดยจากข้อมูลของกรมอนามัย ระบุว่า ขนมเค้ก 1 ชิ้นเล็ก ที่มีขนาด 35 กรัม ให้พลังงานมากถึง 140 กิโลแคลอรี ในขณะที่คุกกี้ 1 ชิ้น ที่มีขนาด 10 กรัม ให้พลังงานตั้ง 51 กิโลแคลอรี ดังนั้น หากกินเค้กติดต่อกัน ในปริมาณ 1 ปอนด์ต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานถึง 1,600 กิโลแคลอรี ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเค้กอย่างเดียวเกือบเท่ากับที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารอื่น ๆ วันละ 1,600-2,000 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว ทำให้เรากินอาหารได้ไม่หลากหลาย
![คุกกี้ปีใหม่ คุกกี้ปีใหม่]()
นอกจากเรื่องน้ำหนักตัวที่ต้องระวังแล้ว เรื่องวันหมดอายุของเค้กก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
เพราะตัวเค้กที่มีส่วนผสมทั้งไข่ เนย แป้ง และน้ำตาล
มักเสียง่ายหากเก็บไว้ในที่ร้อนหรือเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ส่วนหน้าเค้กส่วนใหญ่จะทำด้วยไขมันและน้ำตาล
แม้ว่าจะเสียยากกว่าตัวเนื้อเค้กแต่หากเก็บไว้นานอาจเหม็นหืนและมีเชื้อราขึ้นได้
จึงควรกินให้หมดทันทีหรือกินตามวันหมดอายุที่ได้ระบุไว้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเผลอกินเค้ก คุกกี้ หรืออาหารจัดเลี้ยงจนเกินปริมาณไปแล้ว ก็อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของไขมัน โรคอ้วนลงพุงจะได้ไม่ตามมาเป็นของขวัญปีใหม่ที่ไม่มีใครอยากได้เลย จริงไหมคะ ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย

งานนี้
กระปุกดอทคอมเลยขอนำข้อมูลจากกรมอนามัยที่ได้แนะนำวิธีการรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลให้ได้คุณค่าทางโภชนาการและไม่เสี่ยงลงพุงมาบอกกัน
ด้วยเทคนิคดี ๆ แบบนี้เลย
- ควรกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ หรือปรุงด้วยเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ปลา หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
- กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ บรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
- หากจำเป็นต้องปรุงอาหารเลี้ยงคนจำนวนมาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่เสี่ยงต่อการเกิดท้องเสียได้ง่าย เช่น ลาบ ยำ พล่าต่าง ๆ หรืออาหารที่ปรุงด้วยกะทิ ลดรสหวาน มัน เค็ม
- หลีกเลี่ยงการกินขนมหวานประเภทเค้ก คุกกี้ เพราะหากกินในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อกันเป็นประจำโดยไม่มีการควบคุม จะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลของสารอาหารชนิดต่าง ๆ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไป เช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดโรคอ้วนลงพุงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง

สำหรับการกินขนมหวาน อย่าง เค้ก คุกกี้ นั้น ช่วงเทศกาลนาน ๆ ทีแบบนี้ก็ไม่ได้มีใครห้ามหรอกนะจ๊ะ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะส่วนผสมของขนมพวกนี้ทำมาจากแป้ง น้ำตาล เนย ไข่ และไขมัน แถมยังมีรสหวานเสียด้วย ซึ่งจะทำให้เรากินเพลินเกินปริมาณโดยไม่ได้ระมัดระวัง แบบนี้น้ำหนักตัวเพิ่มเอาได้ง่าย ๆ เลยล่ะ
โดยจากข้อมูลของกรมอนามัย ระบุว่า ขนมเค้ก 1 ชิ้นเล็ก ที่มีขนาด 35 กรัม ให้พลังงานมากถึง 140 กิโลแคลอรี ในขณะที่คุกกี้ 1 ชิ้น ที่มีขนาด 10 กรัม ให้พลังงานตั้ง 51 กิโลแคลอรี ดังนั้น หากกินเค้กติดต่อกัน ในปริมาณ 1 ปอนด์ต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานถึง 1,600 กิโลแคลอรี ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเค้กอย่างเดียวเกือบเท่ากับที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารอื่น ๆ วันละ 1,600-2,000 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว ทำให้เรากินอาหารได้ไม่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม ถ้าเผลอกินเค้ก คุกกี้ หรืออาหารจัดเลี้ยงจนเกินปริมาณไปแล้ว ก็อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของไขมัน โรคอ้วนลงพุงจะได้ไม่ตามมาเป็นของขวัญปีใหม่ที่ไม่มีใครอยากได้เลย จริงไหมคะ ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย