ผลไม้ที่ไม่ควรกินตอนท้องว่าง หากไม่อยากเสียสุขภาพก็ต้องเลี่ยงให้ไกล ก่อนจะระคายเคืองลำไส้ !
เวลาหิว ๆ หาอะไรทานไม่ได้ หลายคนมักแอบเปิดตู้เย็นหยิบผลไม้มาทานรองท้อง ซึ่งก็ช่วยให้อยู่ท้องได้บ้างล่ะ แต่ว่า...ถ้าจะทานผลไม้อะไรก็ต้องเลือกหน่อยนะคะ อย่างผลไม้บางชนิดต้องเลี่ยงไว้ก่อนเลย เพราะถ้ากินขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้
เรื่องนี้ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ให้ข้อมูลเรื่องการกินผลไม้ตอนท้องว่างมาว่า มีหลายคนพูดกันว่าการกินผลไม้ก่อนอาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารต่าง ๆ ในผลไม้ได้อย่างเต็มที่ แต่จริง ๆ แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่เป็นหลักฐานมาสนับสนุนว่า การกินผลไม้ตอนท้องว่างจะช่วยให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้นจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรกินตอนท้องว่าง ๆ นั่นก็คือ
* มะละกอ เพราะเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก จึงไม่ควรทานตอนท้องว่าง
* สับปะรด ส้ม มะนาว มีรสชาติเปรี้ยว ทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้
แล้วในหนึ่งวันควรทานผลไม้มากน้อยแค่ไหน? นพ.พรเทพ ก็ระบุว่า ในหนึ่งวันควรกินผลไม้ให้ได้มื้อละ 1-2 ส่วน ตามแต่ละประเภท เช่น มะละกอสุก 6 ชิ้นพอคำ, เงาะ 4 ผล, ฝรั่งครึ่งผล, สับปะรด 6 ชิ้นพอคำ, กล้วยน้ำว้า 1 ผล, ชมพู่ 2 ผลขนาดใหญ่, มังคุด 4 ผลขนาดกลาง, ส้มสายน้ำผึ้ง 1 ผล เป็นต้น
ทั้งนี้ มีรายงานทางคลินิกและระบาดวิทยา ชี้ชัดว่า หากใครทานผลไม้เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ป้องกันมะเร็งบางชนิด และช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากในผลไม้มีใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ เมื่อกินเข้าไปจะเกิดการพองตัวเป็นเจลแทนพื้นที่บางส่วนในกระเพาะอาหารทำให้รู้สึกอิ่ม อีกทั้งกากใยยังไปกักน้ำตาลและคอเลสเตอรอล ช่วยลดการดูดซึมได้ จึงไม่แปลกที่จะเรากินผลไม้ตอนท้องว่างเข้าไปแล้วจะรู้สึกอิ่ม ส่งผลให้กินอาหารมื้อหลักหลังจากนั้นในปริมาณที่ลดลงตามไปด้วย
ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ก็ต้องทานผลไม้ให้มาก ๆ เพราะในผลไม้ยังมีใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเร่งให้อาหารที่กินเข้าไปผ่านไปตามทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้เร็ว ช่วยลดการดูดซึมหรือสัมผัสสารมะเร็งที่ปนเปื้อนเข้ามาและเพิ่มมวลอุจจาระ ลดปัญหาท้องผูก แต่ก็ควรกินผลไม้ให้หลากหลายสลับกันไป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์อย่างสมดุล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก