เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ ที่นิคมฯ บางปู ล่าสุด ไฟเริ่มลด ควันเริ่มเบาบางแล้ว ประชาชนเริ่มทยอยกลับบ้าน ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ เร่งตรวจวัดค่ามลพิษ หวั่นสูดดมเข้าไปเป็นอันตรายถึงชีวิต แนะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไว้ก่อน
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มีนาคม 2557 ได้เกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ เนื้อที่ 400 ไร่ ใน ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ โดยเพลิงได้ลุกลามอย่างหนักกินพื้นที่บริเวณกว้าง ทำให้เกิดควันปกคลุมไปรอบรัศมีหลายกิโลเมตร เป็นเหตุชาวบ้าน 200 กว่าครัวเรือนต้องรีบเก็บข้าวของอพยพไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ อบต.แพรกษา เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็เร่งระดมกันมาช่วยดับไฟ แต่จนถึงช่วงเช้าวันนี้ (17 มีนาคม 2557) ก็ยังไม่สามารถดับไฟได้นั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาเหตุไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ กลุ่มควันได้เริ่มเบาบางลงแล้ว เนื่องจากกระแสลมได้เปลี่ยนทิศจากทางตะวันตกมายังทิศตะวันออก ส่วนเพลิงที่ลุกไหม้บริเวณกองขยะนั้น ขณะนี้เปลวเพลิงลดลงแล้ว ส่วนกลุ่มควันก็กลายเป็นสีขาวเทา แต่เจ้าหน้าที่คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันไฟจึงจะสงบลงอย่างสิ้นเชิง
หลังจากสถานการณ์ไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ ควันไฟเริ่มเบาบางลง ก็ทำให้ชาวบ้านที่อพยพออกจากพื้นที่ไปเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้านพักของตัวเองแล้ว โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีอาสาสมัคร อบต.แพรกษา ได้ใช้รถตรวจการณ์วิ่งออกตรวจตามหมู่บ้าน เพื่อป้องกันทรัพย์สินของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีชาวบ้านบางกลุ่มไม่ยอมอพยพออกไป เพราะกลัวทรัพย์สินสูญหาย จึงยอมนอนดมควันอยู่ภายในบ้าน
ขณะที่ นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุ ไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ และกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางเจ้าของบ่อขยะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายในเรื่องอาหารและเครื่องใช้ พร้อมกันนี้จะมอบหมายให้ อบต.แพรกษา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เนื่องจากบ่อขยะดังกล่าวเคยถูกสั่งระงับการใช้งานไปแล้ว แต่กลับยังมีการลักลอบนำขยะเข้ามาทิ้ง
ด้าน นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ทางกรมควบคุมมลพิษได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดมลพิษในอากาศหลังไฟไหม้บ่อขยะ สมุทรปราการ เพราะการเกิดไฟไหม้ขนาดใหญ่เช่นนี้ ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของกลุ่มควันและกลิ่น และทำให้เกิดก๊าซพิษ ซึ่งจะฟุ้งไปได้ไกลแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับทิศทางลม ทั้งนี้ หากประชาชนสูดดมเข้าไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองดวงตา และยังมีก๊าซบางชนิดที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ในส่วนของการป้องกันเบื้องต้นนั้น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แนะนำว่า ประชาชนที่อยู่ใกล้พื้นที่ไฟไหม้และควันควรใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเด็ก คนชรา ผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมทั้งผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคความดัน ควรอยู่ให้ห่างจากการสูดดมก๊าซพิษพวกนี้ เพราะอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมมลพิษ จะเร่งตรวจวัดค่ามลพิษในอากาศบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ หากพบว่ามีค่าสูงเกิน จะประกาศเตือนประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบต่าง ๆ ต่อไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

