
สพฉ. เตือนภัยเงียบเดินทางช่วงสงกรานต์ เปิดแอร์นอนในรถและปิดกระจก เสี่ยงเสียชีวิต (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
เลขาธิการ สพฉ. เตือนภัยเงียบในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปิดกระจกและเปิดแอร์นอนในรถ อาจทำให้เสียชีวิตจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ แนะก่อนเดินทางควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อม
เทศกาลสงกรานต์เปรียบเหมือนปีใหม่ของไทย และเป็นวันที่บุตรหลานจะเดินทางไป-กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อไปรดน้ำดำหัวและขอพรผู้ใหญ่ในครอบครัวเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งทำให้เทศกาลสงกรานต์นั้นมีประชาชนเดินทางไกลเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2557 นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงของการเดินทางกลับบ้านของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นอกจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว ยังมีภัยเงียบที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องคือ การจอดพักรถริมข้างทางแล้วเปิดแอร์เพื่อนอนหลับพักผ่อน ซึ่งในช่วงต้นปี 2557 ที่ผ่านมานี้ได้มีผู้ขับขี่รถต้องเสียชีวิตจากการเปิดแอร์นอนในรถแล้วหลายราย
อันตรายจากการสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์นอนไปด้วยนั้นถือเป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม เพราะการเปิดแอร์พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้และปิดกระจกรถมิดชิดทั้งสี่ด้านนั้น จะทำให้ระบบแอร์ของรถยนต์ซึ่งจะต้องดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนภายในรถ จะดูดเอาควันจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามา ซึ่งในไอเสียรถยนต์มีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก
เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ ได้กล่าวถึงอันตรายของการสูดดมก๊าซคาร์บอนไซด์ว่า อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่องซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจเต้นผิดปกติ
เนื่องจากมีฮีโมโกลบินน้อยกว่าปกติ และมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งเมื่อระบบแอร์ของรถยนต์ดูดก๊าซเหล่านี้เข้ามาเมื่อเรานอนหลับอยู่ เราก็จะสูดดมก๊าซเหล่านี้เข้าไปด้วยและจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยทำให้เราค่อย ๆ หมดสติจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตไปในที่สุด

นพ.อนุชา จึงมีข้อเสนอแนะสำหรับการเดินทางไกลของประชาชนในเทศกาลสงกรานต์ว่า






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ