ถ้ามีวิธีช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อหลังมื้ออาหารให้ทำตามง่าย ๆ ก็น่าจะดีนะคะ หลายคนที่เคยทรมานกับอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจะได้กินอาหารอร่อย ๆ โดยไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไป สบายใจกับทุกมื้ออาหารไปเลย
อ๊ะ ! แล้วอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจำเป็นต้องรักษา หรือบรรเทาด้วยยาอย่างเดียวจริง ๆ หรือเปล่า ? ขอบอกตรงนี้เลยว่า แค่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารตามวิธีที่เว็บไซต์ all women stalk เขาแนะนำมา อาการท้องอืด ท้องเฟ้อที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ หลังมื้ออาหาร คงไม่มีวันได้แอ้มเราแน่ ๆ เลย
1. เคี้ยวอาหารช้า ๆ
ถ้าสังเกตดูดี ๆ จะเห็นได้ว่า คนที่มีอาการท้องอืดหลังมื้ออาหาร ส่วนมากจะเป็นคนที่กินอาหารเร็วกว่าคนอื่น โดยที่ไม่รู้ว่าการกินอาหารเร็ว ๆ แบบไม่ได้เคี้ยวให้ละเอียดก่อน จะเป็นหนึ่งในสาเหตุก่ออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ฉะนั้นเพื่อป้องกันความทรมานหลังมื้ออาหาร ก็เปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ช้าลงสักหน่อย อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเคี้ยวอาหารให้ได้ 15 ครั้งเป็นอย่างต่ำ
นอกจากนี้ถ้าดื่มน้ำผลไม้สดร่วมด้วย ควรอมน้ำผลไม้ไว้ในปากสักพักก่อนกลืนลงคอ เพื่อให้น้ำลายเข้าไปจัดการย่อยเอนไซม์ในน้ำผลไม้ก่อนส่งตรงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งจะสามารถช่วยลดกระบวนการย่อยอาหาร พร้อมกันนั้นก็ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ด้วย
2. เลี่ยงรับประทานผลไม้กับเนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ใช้เวลาย่อยนานกว่า 5 ชั่วโมง ในขณะที่ผลไม้ใช้เวลาย่อยเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่า เมื่อเรารับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เนื้อสัตว์จะกลายเป็นตัวขัดขวางการย่อยผลไม้ไปในทันที และน้ำตาล+เอนไซม์ในผลไม้ก็จะออกอาละวาด ปั่นป่วนท้องเราให้เกิดอาการอืด และเฟ้อในเวลาต่อมา ดังนั้นหากอยากรับประทานผลไม้ แนะนำให้กินก่อนเนื้อสัตว์ประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำดีกว่าค่ะ
3. เคี้ยวเมล็ดเทียนข้าวเปลือกหลังมื้ออาหาร
เทียนข้าวเปลือก (Fennel Seeds) เป็นสมุนไพรที่มีรสขม สามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเมล็ดเทียนข้าวเปลือกยังมีฤทธิ์ขับลมในกระเพาะอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ในตัว พร้อมกันนั้นยังช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วยนะจ๊ะ
4. ผักใบเขียวอย่าให้ขาด
ผักใบเขียวมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ข้อนี้หลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้ลึกถึงขั้นว่า เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างดี การเผาผลาญก็จะกระเตื้องขึ้น แก๊สและลมในกระเพาะ สาเหตุของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อก็จะหมดไป คราวนี้ปัญหาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อก็จะไม่มากวนใจแน่นอน
5. ลดปริมาณน้ำตาล
น้ำตาลทุกชนิด ทุกรูปแบบ ล้วนมีส่วนทำให้ช่องท้องเราปั่นป่วน แถมยังกระตุ้นแก๊สในกระเพาะได้อย่างเร็วเลยนะคะ ถ้าไม่เชื่อลองบริโภคน้ำตาลให้น้อยลงดูก็ได้ แล้วคุณจะสังเกตได้เลยว่า อาการท้องอืด ท้องเฟ้อจะค่อย ๆ บรรเทาลง และหายไปในที่สุด
6. โป๊ยกั๊กช่วยได้
โป๊ยกั๊ก (เครื่องทำพะโล้) หรือ Anise Seed ก็เป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ขับลมในกระเพาะอาหาร กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้สบาย ๆ ส่วนวิธีกิน ถ้าใจแข็งพอจะเคี้ยวโป๊ยกั๊กหลังมื้ออาหารที่คุณจัดเต็มก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยปลื้มกับกลิ่นเครื่องพะโล้อย่างนี้ ใส่ผสมลงไปในอาหารสักอย่างเพื่อดับกลิ่นให้จางลงสักนิดก่อนรับประทานน่าจะเวิร์กกว่าเนอะ
7. ดื่มชาสมุนไพร
สำหรับคนที่คิดว่าการเคี้ยวสมุนไพรสด ๆ ฮาร์ดคอร์เกินไป ลองตัวเลือกอย่างชาสมุนไพร เช่น ชาขิง, ชาเปปเปอร์มินต์ หรือชาเทียนข้าวเปลือกก็ได้นะคะ เพราะจัดว่าเป็นเคล็ดลับเด็ดในการช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังมื้ออาหารได้เช่นกัน จิบชาสมุนไพรเบา ๆ หลังมื้ออาหารเที่ยง หรือมื้อเย็น แค่นี้ก็ช่วยลดความทรมานจากอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้แล้วจ้า
ใครที่เคยทรมานกับอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หลังที่จัดหนักกับมื้ออาหารกันมาแล้ว คงไม่อยากจะกลับไปเจอกับอาการเหล่านี้อีกแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นอย่าลืมนำวิธีแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อที่เราแนะนำไปใช้กันด้วยนะจ๊ะ