โรค Sleep Texting หรือโรคละเมอแชท ชื่อแปลกหน่อยแต่ขอยืนยันตรงนี้เลยว่า เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เราแล้วจริง ๆ
สังคมก้มหน้าขยายวงกว้างขึ้นทุกที ไปไหนมาไหนเราจึงได้เห็นคนก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟนกันเป็นแถว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้เยอะ แม้เราจะต้องแลกกับผลร้ายต่อสุขภาพบางอย่าง ซึ่งเป็นเหมือนดาบคมที่สองของความทันสมัยเหล่านี้บ้างก็ตาม
แต่ครั้นจะปล่อยตัวให้ถลำลึกกับเทคโนโลยี หรือสมาร์ทโฟนแบบเลยตามเลยก็คงไม่ดีเท่าไร เพราะตอนนี้โรคละเมอแชท (Sleep Texting) กำลังคุกคามสุขภาพของเราอย่างหนักเลยล่ะค่ะ ทั้งทำให้นอนหลับไม่สนิท ฝันร้าย แถมเสี่ยงกับภัยสุขภาพอื่น ๆ อีกมาก ดังนั้น วันนี้เรามารู้จักโรคละเมอแชท (Sleep Texting) กันก่อนดีกว่า จะได้รู้ทันและป้องกันโรคนี้ได้อยู่หมัด !
อาการของโรคละเมอแชท (Sleep Texting) มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟนเกินเหตุ จนสร้างความวิตกกังวลต่อข้อความที่ถูกส่งมา ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมตอบสนองกับข้อความที่แจ้งเตือนเข้ามาโดยทันที รวมไปถึงอาการติดโซเชียลเน็ตเวิร์กทุกชนิดร่วมด้วย
ทั้งนี้คนที่มีอาการละเมอแชท จะไม่รู้สึกตัวขณะที่กดส่งข้อความ เพราะเป็นสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ซึ่งก็น่าเป็นห่วงตรงที่อาจจะส่งข้อความที่เสี่ยงต่อการเข้าใจผิด และส่งให้ผิดคน ผิดกาลเทศะ หรือเวลาได้ น่าหวาดเสียวไม่น้อยเลยเนอะ
ส่วนในเรื่องของสุขภาพ ก็แน่นอนว่าอาการติดโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน จะทำให้เรามุ่งความสนใจไปที่เครื่องมือสื่อสารเหล่านี้แทบจะทุกนาที แม้กระทั่งเวลาจะหลับก็ยังเอามือถือไปจิ้มเล่นเรื่อยเปื่อย และหลับไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ที่ยังคามือ หรือวางนิ่งอยู่ข้างตัว ดังนั้นเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ามา สมองที่ยังยึดติดกับโทรศัพท์อยู่ทุกขณะจิต ก็จะปลุกร่างกายที่หลับใหลให้อยู่ในสภาวะละเมอ แล้วกดส่งข้อความไปโดยอัตโนมัติ และในช่วงนี้ร่างกายก็จะนอนหลับไม่สนิทเต็มที่ เป็นเหตุให้พักผ่อนไม่พอ กระทบมาถึงระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้สะสมความเครียด เสี่ยงเป็นโรคอ้วน ฝันร้าย กระทบต่อการเรียนและการทำงาน
อีกทั้งการติดแชทมากเกินไป ยังอาจจะส่งผลกระทบไปถึงความสัมพันธ์ด้วยนะคะ เนื่องจากข้อความที่ส่งผ่านกันไปมา ไม่สามารถหอบเอาความรู้สึกนึกคิดในขณะที่พิมพ์ข้อความของเราแนบไปด้วยได้ บางทีก็อาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิดกันได้ ทำลายความรู้สึกโดยไม่เจตนาก็นักต่อนักแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แพทย์ก็แนะนำว่า ลองอยู่ห่างจากสมาร์ทโฟนบ้างก็ดี และพยายามปิดการติดต่อสื่อสารในขณะที่นอนหลับด้วย วิธีนี้จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคละเมอแชทได้ และฟื้นฟูสุขภาพการนอนหลับของเราให้เต็มอิ่ม ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมความสดชื่นแจ่มใส ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นจ้า