Go Bananas ไม่ต้องอด ก็ผอมได้...กินกล้วยสิ ! (Lisa)
อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่หนุ่ม ๆ สาว ๆ ชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนยืนยันว่า แค่ปอกกล้วยเข้าปากก็ผอม เพรียว และสวยได้ง่าย ๆ บางคนลดได้ 1.7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์ เริดไหมล่ะ?
สูตรไดเอตจากชีวิตจริง
สูตรไดเอตต่าง ๆ มักจะมีที่มาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร หรือแพทย์ แต่จุดเริ่มต้นของ "Banana Breakfast Diet" เกิดจาก "ฮามาจิ" ผู้ชายอ้วน ๆ ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่พยายามทำทุกทางเพื่อความผอม ทั้งออกกำลังกายหนัก ๆ วิ่งวันละหลายชั่วโมง ไปจนอดอาหารดื่มแต่นมถั่วเหลือง แต่กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง แถมยังรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ
แต่หลังจากกินกล้วยตามคำแนะนำของ "สึมิโกะ" เภสัชกรที่ศึกษาด้านโภชนบำบัดและเวชศาสตร์การป้องกัน ภายใน 6 เดือน น้ำหนักของเขาก็หายไปถึง 13 กิโลกรัม ทั้งคู่จึงพัฒนาแนวคิดเป็นสูตรไดเอต แนะนำลงบน MIXI ชุมชนออนไน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นกระแสยอดฮิตที่ทำให้สมาชิกลดน้ำหนักได้กว่า 300 คน จนได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ มียอดขายถล่มทลายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ในชื่อ "ผอม สวย กล้วยช่วยได้"
กล้วยนี้มีดีอะไร
กล้วยเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความอ้วนก็คือ
วิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า
โพแทสเซียม ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ
เส้นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก
เซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิดและความอยากอาหาร
เอนไซม์ช่วยย่อยอาหารที่จะช่วยทำให้สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้ทันที
น้ำตาลที่หลากหลาย ทั้งกลูโคส ฟรักโทส ซูโครส และแป้ง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันได้ด้วย
วิธีกินก็สำคัญ
หลักของสูตรไดเอตที่ฮามาจิค้นพบ นอกจากจะอาศัยประโยชน์จากกล้วยช่วยให้ผอมแล้ว การกินให้สัมพันธ์กับระบบการย่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สูตรนี้ "ได้ผล" โดยเขาบอกว่าการกินแค่กล้วยซึ่งเป็นผลไม้ย่อยง่ายและน้ำเปล่าในตอนเช้า จะทำให้กระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะในระบบย่อยก็จะทำงานได้สะดวกขึ้น
เพราะตามหลักการของเวชศาสตร์การป้องกัน หลังกินไปแค่ 15-20 นาที กล้วยจะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้ และเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผัก คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมง ส่วน "น้ำ" ก็จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดและของเหลวในร่างกายดีขึ้น เมื่อระบบต่าง ๆ ดีขึ้นคุณก็จะผอมลง แถม "กล้วย" ยังเป็นมื้อเข้าง่าย ๆ เหมาะกับชีวิตเร่งรีบของเราสุด ๆ
ออกกำลังกายเมื่ออยากออก
แน่นอนว่าถ้าอยากผอมคงละเลยการออกกำลังไปไม่ได้ แม้สูตรนี้จะไม่ได้บอกให้คุณอดอาหารจนเป็นอันตรายถ้าไปออกกำลังกาย ฮามาจิ บอกว่า เมื่อคุณน้ำหนักเกินมาก ๆ การฝืนออกกำลังแบบหักโหมอาจทำให้บาดเจ็บได้ และการที่ร่างกายรู้สึกทรมานนั้นมีสาเหตุ หากสิ่งที่ทำนั้นดีต่อสุขภาพ คุณก็จะไม่รู้สึกทรมาน ถ้าคุณไม่พร้อม การแกว่งแขนไปมายังมีผลดีต่อการไดเอ็ตมากกว่าการวิ่งจนหอบเสียอีก เมื่อรู้สึกแข็งแรงขึ้น ค่อยออกกำลังให้หนักขึ้นก็ยังไม่สาย
มาเริ่มกินกล้วยไดเอตกันเถอะ !
คอนเซ็ปต์ของ "Banana Breakfast Diet" ก็คือไม่ต้องอด ไม่ต้องทน ไม่เปลืองเงิน ไม่เปลืองเวลา วิธีเพื่อความผอมก็เลยไม่ยุ่งยาก
ตื่นนอน : ถ้าตื่นเองโดยธรรมชาติไม่ต้องพึ่งเสียงนาฬิกาปลุกจะยิ่งดีต่อระบบขับถ่าย
มื้อเช้า : กินกล้วยอะไรก็ได้ กี่ลูกก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดและดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง
ช่วงเช้า : ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้องให้เว้นช่วยหลังกินกล้วยสัก 15-30 นาที กินข้าวต้มสักชามหรือผลไม้ก็ได้
มื้อกลางวัน : กินอะไรก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดตายตัว
หลังเที่ยง : หรือหลังมื้ออาหารกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้การย่อยดำเนินไปได้ด้วยดี อย่าเพิ่งออกกำลังกาย
15.00 น. : หากอยากกินของว่าง อนุญาตแค่เวลานี้เท่านั้น จะเป็นขนมหรือผลไม้ก็ได้
มื้อเย็น : กินอะไรก็ได้ แต่ควรกินให้เร็วกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง และดึกที่สุดไม่เกินสองทุ่ม
หลังมื้อเย็น : ถ้าต้องอยู่ทำงานจนดึกกินได้แค่ผลไม้สักลูกหนึ่งเท่านั้น
เข้านอน : พยายามฝึกนอนก่อนเที่ยงคืนให้เป็นนิสัย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ที่สุด
ไดเอตนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
ถึงจะดูเหมือนเป็นสูตรที่ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่มีสูตรไดเอตที่เพอร์เฟคท์ อย่างน้อย ๆ คนที่แพ้กล้วยก็ใช้สูตรนี้ไม่ได้แน่นอน และใครที่มีโรคประจำตัวก็ต้องถามหาหมอเสียก่อน นอกจากนี้ มีหลายคนที่ลองสูตรนี้เป็นเดือน น้ำหนักก็ยังไม่ลงสักนิด
ฮามาจิ บอกว่า "คนที่ไม่ได้ผลมักจะมีเหตุที่ทำให้ผอมยาก เช่น นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เครียดจัด" ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ ลองมาหาสูตรไดเอ็ตอื่น หรือปรับพฤติกรรมก่อนจะดีกว่า
Note
ถึงแม้สูตรจะอนุญาตให้คุณตามใจปากได้ในมื้อกลางวันและมื้อเย็น แต่ถ้าคุณกินแบบย่ามใจเกินไป ไดเอตก็คงล้มเหลวและอาจจะอ้วนขึ้นแทนก็ได้นะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก