
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ whatdoesnot สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ช่วงนี้การเทรนด์การดูแลสุขภาพสำหรับผู้หญิงกำลังมาแรงแบบสุด ๆ เลยเห็นด้วยไหมคะ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นสาวรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ใส่ใจรูปร่าง ด้วยการเลือกออกกำลังกายรวมถึงเลือกอาหารกิน เพื่อช่วยลดน้ำหนักและเสริมสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นทุกวัน และสำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากลองหันมาฟิต แอนด์ เฟิร์มหุ่นสวย พ่วงสุขภาพดีเหมือนสาว ๆ คนอื่นบ้าง วันนี้เรามีทริคลดน้ำหนักเจ๋ง ๆ จาก คุณ whatdoesnot สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาให้ชมกัน ซึ่งแต่ละวิธีที่เธอได้นำมาแชร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนและมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยจ้า...

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน ^^ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวค่ะ ชื่อมายนะคะ ตัดสินใจอยู่นานกว่าจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา 555 ความจริงคืออยากแชร์ประสบการณ์เรื่องราวต่าง ๆ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กับการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างค่ะ
เริ่มกันด้วยรูป Before-After (เขินจัง 555)


AFTER


2 รูปบนคือช่วงตอน ม.5 ส่วน 2 รูปล่างคือรูปตอนช่วงปี 2 ขึ้นปี 3 ก็คือตอนนี้แหละค่ะ
เกริ่นก่อนนะว่ามายเป็นคนที่อ้วนตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าตอนอยู่อนุบาลกินโค้กวันละขวดทุกวัน ใครห้ามก็ไม่เคยฟัง (เด็กอะไร -..-) พอโตมาหน่อยอาหารจานโปรดคือข้าวขาหมูกับข้าวหมูแดงกินมันทุกวัน บุฟเฟ่ต์นี่ชอบมาก พิซซ่าถาดใหญ่เป็น 10 ชิ้น เลย์ห่อใหญ่หลายห่อก็เคยกินมาแล้ว ผักผลไม้ไม่เคยกินเขี่ยทิ้งตลอด ออกกำลังกายคืออะไรไม่รู้จัก ผลที่ได้ก็ตามในรูปเลยค่ะ
นี่เป็นรูปช่วง ม.ปลายถึง ปี 1 นะคะ


แถมผลที่ตามมาอีกก็คือ ร่างกายอ่อนแอมาก แค่วิ่งรอบสนาม 1 รอบก็เหนื่อยจนจะเป็นลม เดินขึ้นบันไดหลายชั้นหน่อยก็หน้ามืด ตอนตรวจสมรรถภาพที่โรงเรียนก็ sit up กับวิดพื้นไม่ได้เลย วิ่งได้ที่โหล่ของห้อง ชีวิตแย่ว่างั้นเถอะ T__T
แต่แล้วชีวิตทุกคนก็ต้องมีจุดเปลี่ยนใช่หรือเปล่าล่ะ มายเองก็มีค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า ช่วงใกล้เรียนจบ ม.ปลายโรงเรียนจะมีจัดงานพรอม ซึ่งใหญ่สุด หรูสุด ไฮโซสุด อารมณ์ว่าจ้างช่างกล้องส่วนตัวกันเลยทีเดียว 55555 มายก็เริ่มคิดละสิว่าเคยคิดจะลดน้ำหนักมาตั้งหลายทีก็เฟลตลอด เอาวะ ! พยายามอีกสักครั้งก็ไม่เสียหาย ตอนแรกพอบอกคนอื่นก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าจะทำได้ แถมยังมีคนเอารูปร่างหน้าตาของเราไปล้ออีก (แต่ก็ต้องขอบคุณสิ่งเหล่านั้นนะ มันเป็นเหมือนแรงผลักดันอ่ะ)
ตั้งแต่นั้นมายเลยเริ่มหาแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก ดูรูปคนที่หุ่นดีบ่อยๆ จะได้มีกำลังใจ แล้วจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูล ดูรีวิวแบบงู ๆ ปลา ๆ ศึกษาเองทุกอย่าง แล้วสุดท้ายก็มโนเอาว่าตัวเองรู้เรื่องแล้ว 555 คิดเอาเองว่าจะลดความอ้วนได้ขึ้นอยู่กับอาหาร 70 เปอร์เซนต์ ออกกำลังกาย 30 เปอร์เซนต์
โอ้โห ...อาหาร 70 เปอร์เซนต์นี่คือเยอะมาก มายเลยลองค่อย ๆ เปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเอง จากที่เคยเขี่ยผักทิ้ง ก็พยายามกินผักหลายชนิด กินผลไม้เป็นของว่าง ลดปริมาณแป้งลง ลดของหวาน มัน ทอด แล้วอยู่ก็ไปเจอเพจ eat clean baby ในเฟซบุ๊กก็งงสิคะ คุณพระ ! อะไรคืออาหารคลีน ชีวิตนี้ไม่เคยรู้จัก 5555 จากการศึกษา มันก็คืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คืออาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นแหละ พอเข้าไปดูในเฟซบุ๊กก็เจอไอเดียอาหารคลีนเต็มไปหมด มันดูน่ากินนะเออ เลยจำ ๆ มา แล้วก็มาประยุกต์ใช้กับตัวเองค่ะ คือบอกก่อนนะว่ามายไม่ได้กินคลีน 100% หรือกินตามหลักโภชนาการเป๊ะ ๆ เพราะรู้สึกว่าอะไรที่มันดีเว่อร์เกินไปถึงทำได้ก็คงทำได้ไม่นานอ่ะ ก็เลยเอาแบบพอดี ๆ ที่เรารับได้ดีกว่า
อาหารที่ค่อนข้างคลีนที่มายกินก็คือจะมีที่ทั้งทำเอง (แบบมั่ว ๆ) และซื้อกินตามร้านนะคะ
นี่คืออาหารที่ทำกินเองค่ะ

นี่คืออาหารที่ทำกินเองค่ะ


นี่ซื้อนอกบ้าน

ว่าง ๆ ก็ทำขนมอร่อย ๆ กินเอง สูตรก็หาจากในเฟซบุ๊ก และไอจีนี่แหละ ง่ายมาก ๆ เลย
ทำกินเองสะอาด ไม่หวานเกิน ไขมันต่ำ ชีวิตดีค่ะ

ว่าง ๆ ก็ทำขนมอร่อย ๆ กินเอง สูตรก็หาจากในเฟซบุ๊ก และไอจีนี่แหละ ง่ายมาก ๆ เลย
ทำกินเองสะอาด ไม่หวานเกิน ไขมันต่ำ ชีวิตดีค่ะ
Home made chocolate cake และ Banana muffin

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ balance นะคะ จากประสบการณ์ส่วนตัว ย้ำนะคะว่าส่วนตัว มายคิดว่าการกินคลีนมาก ๆๆๆๆ ทุกมื้อ ตลอดเวลา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีค่ะ คือเราต้องรู้จักตามใจตัวเองบ้าง อย่าฝืนจนชีวิตไม่มีความสุขเนอะ แต่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่เห็นด้วย อันนี้แล้วแต่คนอ่ะค่ะ
นี่ก็เป็นอาหารอร่อย ๆ ค่ะ มายชอบลองไปกินร้านอาหารใหม่ ๆ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นค่ะ








พอเริ่มทำไปได้สักพักมันได้ผลจริง ๆ ค่ะ การเลือกกินอาหารดีมีประโยชน์สำคัญมากจริง ๆ น้ำหนักเริ่มลดเลย 4-5 กก. จากนั้นก็พยายามกินอาหารคลีนบ่อย ๆ อย่าคิดว่ามันน่าเบื่อนะคะ ถ้าปรุงดี ๆ มันก็อร่อยได้เหมือนกัน
อันนี้รูปตอนงานพรอมค่ะ น้ำหนักลดไป 4-5 กก.

พอกินอาหารดี ๆ ต่อไปไปได้สักพัก นี่คือผลที่ได้ค่ะ

น้ำหนักลดไปทั้งหมด 10-12 กิโล ภายในเวลา 7 เดือนค่ะ
เพื่อนทักเยอะมาก ๆๆๆๆ ว่าผอมลงไปทำอะไรมา พวกที่เคยล้อก็เริ่มเงียบไป

พอกินอาหารดี ๆ ต่อไปไปได้สักพัก นี่คือผลที่ได้ค่ะ

น้ำหนักลดไปทั้งหมด 10-12 กิโล ภายในเวลา 7 เดือนค่ะ
เพื่อนทักเยอะมาก ๆๆๆๆ ว่าผอมลงไปทำอะไรมา พวกที่เคยล้อก็เริ่มเงียบไป
ขอแทรกอีกนิดนึง คืออันนี้ก็ความเห็นส่วนตัวอีกนะคะ คืออยากแชร์มุมมองของตัวเอง ก็คือเคยได้ยินว่าหลาย ๆ คนจะมี Cheat meal หรือ cheat day อะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันก็คือการปล่อยให้ตัวเองกินอะไรก็ได้ที่อยากกินในมื้อ หรือวันนั้น ๆ ซึ่งมายไม่ค่อยเห็นด้วยค่ะ เพราะมายคิดว่าการที่เราจะกินขนม หรือของอื่น ๆ ที่เราชอบบ้าง มันไม่ใช่การ cheat เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องรู้สึกผิด แต่การกินของที่เราชอบเมื่อเราอยากกินจริง ๆ มันคือการ treat หรือการทำให้ตัวเองมีความสุข เป็นการให้รางวัลกับตัวเอง ซึ่งมายก็คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตนะคะ ต้องไม่ตึงไม่หย่อนเนอะ เพียงแค่เรารู้ว่าทำอะไร กินอาหารแบบไหนที่ทำให้เรามีความสุข ดีต่อร่างกายและจิตใจค่ะ
และที่ขาดไม่ได้คือ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอนะคะ ซึ่งก็คือวันละ 8 แก้วหรือ 2 ลิตรนั่นเอง แต่ปกติมายก็กินไม่ถึง 2 ลิตรค่ะ มายจะกินประมาณวันละ 3 ขวด แต่ถ้าออกกำลังกายเสียเหงื่อมากก็จะมากกว่านั้นก็แล้วแต่วันค่ะ
เอาล่ะ ...ผ่านเรื่องของกินมาแล้ว มาเล่าเรื่องการออกกำลังกายของมายบ้างดีกว่า
เริ่มออกกำลังกายที่บ้านแบบง่าย ๆ เพราะบ้านมีลู่วิ่ง มายก็เริ่มจากการวิ่งวันละ 30 นาทีติดต่อกันทุกวันค่ะ เพราะเคยเรียนมาว่าถ้าวิ่งน้อยกว่า 30 นาที ร่างกายจะใช้น้ำตาลในเลือดมาเป็นพลังงาน แต่ถ้านานกว่านั้นจะมีการดึงไขมันมาใช้ ถ้านานมาก ๆก็จะดึงโปรตีนมาใช้ซึ่งเริ่มจะไม่ดีแล้วค่ะ
พอวิ่งไปสักพัก ร่างกายก็เริ่มชิน ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือจะเป็นลมแล้ว ก็เลยเพิ่มเวลาจาก 30 เป็น 50 นาทีต่อวันค่ะ ต้องมีวินัยมากจริง ๆ เพราะถึงวันไหนจะเรียนหนัก มีการบ้านเยอะ ใกล้สอบ ก็ต้องแบ่งเวลามาออกกำลังกายให้ได้ จนช่วงหลังก็เริ่มติดการออกกำลังกาย มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว พออ่านข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ก็เลยทราบว่า การออกกำลังกายแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1. Cardio คือการออกกำลังกายโดยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น วิ่ง แอโรบิก ว่ายน้ำ ต่อยมวย ปั่นจักรยาน อะไรก็ว่าไป ซึ่งจะช่วยเรื่องระแบบการเผาผลาญ คืออันนี้โอเค มายวิ่งเกือบทุกวันอยู่แล้ว อันนี้ผ่าน

2. เวท เทรนนิ่ง คือการออกแรงต้าน สร้างความแข็งแรง และเพิ่มกล้ามเนื้อ ก็คือการยกเวทนั่นเอง หลายคนจะไม่ยอมเล่นอันนี้เพราะกลัวกล้ามขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิง แต่มายอยากบอกว่าเวทเทรนนิ่งสำคัญไม่แพ้ Cardio นะคะ เพราะมันจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ทำให้รูปร่างกระชับเนื้อไม่ย้วย ที่สำคัญคือพอร่างกายเรามีกล้ามเนื้อมากขึ้น ก็จะเผาผลาญดีขึ้นค่ะ ช่วงหลังมายเลยเพิ่มการเล่นเวทเทรานนิ่งแบบเบา ๆ เข้าไปด้วย มายเล่นไม่หนักเพราะเป็นคนตัวเล็ก และแรงน้อยมาก = =\' ตอนนี้ก็ไม่ได้ Cardio อย่างเดียวเหมือนตอนแรกแล้ว

3. การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ หรือ Pilates ซึ่งอันนี้เวลาว่างมายก็จะไป fitness เล่น Hot Yoga หรือ Yoga ธรรมดาก็ได้ การยืดกล้ามเนื้อจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ แต่ละมัดในร่างกายเราแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้นค่ะ ช่วยฝึกเรื่องสมาธิด้วย

การลดน้ำหนักก็ไม่ควรจะดูที่น้ำหนักเพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะโปรตีนกับไขมันน้ำหนักไม่เท่ากัน บางทีน้ำหนักขึ้น แต่สัดส่วนเล็กลงก็เป็นไปได้ ควรจะใช้สายวัดวัดสัดส่วนตัวเองไปด้วยค่ะ จะได้รู้ว่าความจริงเราอ้วนขึ้นหรือผอมลงกันแน่ อย่างมีช่วงนึงมายน้ำหนักขึ้นมา 2 กิโล แต่ใส่กางเกงตัวเดิมได้ แถมเอวยังเล็กลงนิดนึงด้วยค่ะ
ก็พยายามออกกำลังกายทั้ง 3 แบบควบคู่กันมาเรื่อย ๆ จน % fat ลดลงจาก 25% เหลือ 20% สัดส่วนก็ลดลงมาก คือเอวลดลง 4 นิ้ว สะโพกลดลง 5 นิ้วค่ะ BMR ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าร่างกายเราสามารถเผาผลาญได้ดีขึ้นนั่นเอง
เรื่องการออกกำลังกายของมายก็ประมาณนี้ค่ะ มาต่อกันที่การดูแลตัวเองนะคะ
ส่วน Body Lotion ก็เปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อย ๆ คุณแม่ซื้ออันไหนมาก็ใช้อันนั้น แต่ข้อเสียมายคือไม่ชอบทาครีมกันแดด คือขี้เกียจนั่นเอง แต่โชคดีที่ไปมหาลัยก็ไม่ค่อยตากแดดเท่าไหร่ และส่วนตัวก็ไม่ชอบผิวขาวมาก ๆๆๆ ด้วย ชอบผู้หญิงผิวแทนเพราะคิดว่าเซ็กซี่กว่า 5555 (ไม่ใช่ข้ออ้างนะ)
นี่คือฝีมือการแต่งหน้าแบบมั่ว ๆ ค่ะ


แล้วคือมายเปลี่ยนทรงผมและทำสีผมด้วย ตามนี้ เวลาไปไหนก็จะม้วนผมด้วย มายใช้แกนม้วนผม OMG ของ Lesasha ค่ะ
รูปนี้สด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ เพิ่งฝึกงานได้ไม่นาน ><

ว่าง ๆ ก็จะ Mask หน้า สครับหน้า-ตัว และหมักผม ซึ่งมันก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย เช่นหมักผมมายก็ใช้ของที่มีอยู่ที่บ้านคือ โยเกิร์ตหรือไข่ดิบ ผสมน้ำผึ้ง ผสมน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วหมักทิ้งไว้ 30 นาที จะทำให้ผมมีน้ำหนักและไม่แห้งค่ะ
สุดท้ายก็อยากจะฝากสาว ๆ ไว้นะคะคือ
1. ถ้าอยากลดน้ำหนัก อย่าใจร้อนนะคะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป
2. กินของชอบไปครั้งนึงไม่ใช่วันสิ้นโลกนะคะ วันต่อไปก็กินอาหารดีมีประโยชน์ต่อไปได้
3. คิดบวกและรักตัวเองให้มาก ๆ หมั่นหาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง เช่น ไป follow ig ของดาราที่เราชอบ
4. อย่าอดอาหาร มายเคยลองมาแล้ว มันไม่เวิร์ค ระวังเจอโยโย่ แล้วก็พวกสูตร 3 วัน 7 วันเนี่ย ถ้ากินแบบนั้นไม่ได้ตลอดชีวิตก็อย่าเลยค่ะ ทรมานเปล่า ๆ
5. ข้อนี้สำคัญที่สุด อย่ากินยาลดความอ้วนเด็ดขาด ห้ามทำร้ายตัวเองด้วยวิธีนี้นะคะ

นี่คือรีวิวการออกกำลังกายของมายในทุก ๆ วันค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สิ่งที่มายจะโพสนั้นเป็นวิธีที่เหมาะกับมาย เพราะมายลองผิดลองถูกมาหมดแล้ว จนมาลงตัวที่การออกกำลังกายแบบนี้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ ^^ เอาไว้เป็นแนวทางจะดีที่สุดค่ะ
เริ่มกันเลยเนอะ >__<
มายจะเล่นอยู่หลัก ๆ คือ Cardio กับ Weight Training มายเล่นเกือบทุกวัน อาจมีพักบ้างอาทิตย์ละครั้ง ส่วนการยืดกล้ามเนื้อ เช่น โยคะจะประมาณเดือนละ 2-3 ครั้งค่ะ มาเจาะลึกของแต่ละส่วนเลยนะ** ลำดับก่อนหลังแล้วแต่อารมณ์มายในแต่ละวันนะ
1. Cardio Workout

(หน้าสด อย่าตกใจนะคะ 5555)
ทุกครั้งมายจะ cardio ก่อนทุกครั้ง 30-45 นาที เพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และเร่งอัตราการเผาผลาญค่ะ ในส่วนนี้คิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจดีอยู่แล้วว่าต้องเล่นอะไรแบบไหนบ้าง เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน ต่อยมวย ว่ายน้ำ ซึ่ง cardio ของมายก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่เบื่อ เช่น
วิ่งลู่

มายวิ่งความชัน 2 ค่ะ เริ่มแรกช่วง warm up คือการเดิน ใช้ speed 5 แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 7 แล้วก็วิ่งต่อเนื่อง 50 นาทีค่ะ มายจะวิ่งไม่เร็วมากนะคะ เพราะอยากทำต่อเนื่องได้เกิน 30 นาทีโดยที่ไม่เหนื่อยจนเกินไป จากนั้นมายก็จะ cool down 2 นาทีด้วยการเดิน speed 4.5 ลดความชันลงเหลือ 0.5 ค่ะ
Elliptical

มายชอบเล่นอันนี้มากที่สุด เพราะรู้สึกมันสนุก หลัง ๆ ไม่ค่อยวิ่งแล้วค่ะ เปลี่ยนมาเล่นอันนี้แทน อยากเปลี่ยนบ้างเพราะวิ่งแทบทุกวันมาเป็นปีแล้ว เครื่องนี้จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีมาก คล้าย ๆ การวิ่งเลยค่ะ แต่จะไม่มีแรงกระแทก ทำให้ลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บค่ะ เครื่องนี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขา หลัง ก้น หน้าอก และแขนค่ะ เรียกง่าย ๆ ก็ All in one เลยทีเดียว
Kickboxing หรือต่อยมวย
มายเล่นอันนี้ไม่ค่อยบ่อยนะคะ เฉพาะเวลาคึกจริง ๆ 5555 แต่อันนี้สนุกดีค่ะ โดยมายจะเล่นเวลาไปฟิตเนส เข้าคลาสประมาณ 1 ชม. ไม่ก็เล่นเองที่บ้าน 40 นาที คือทำตามคลิปในยูทูบ อันนี้คือคลิปที่มายชอบมากค่ะ ไม่โหดเกิน สนุกด้วย
นาน ๆ ทีมายจะทำตามคลิบในยูทูบค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ร่างกายจะได้ไม่เคยชินกับอะไรเดิม ๆ ด้วย นี่คือคลิปที่มายชอบและทำตามบ่อย ๆ นะคะ ใครอยากลองคลิปอื่น ๆ ลอง search ดูว่า 30- minute cardio workout นะคะ ใครที่บอกว่าอยู่ไกลฟิตเนส บ้านไม่มีเครื่อง ฝนตกบ่อยออกไปข้างนอกไม่ได้ -..- ก็ไม่มีข้ออ้างแล้วนะ
คลิป Jillian Michaels: Banish Fat Boost Metabolism Complete Workout
โพสต์โดย คุณ BeFiT สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เลือกอันที่คิดว่า work จริงอะไรจริง เชิญเลือกได้ตามสบายเลยค่ะ

เหนื่อยแล้ว ขอพักแปบนึงนะคะ เดี๋ยวมาเล่าถึงเวทเทรนนิ่งแบบละเอียดต่อค่ะ
2. Weight training/ บริหารกระชับสัดส่วน
มายจะใช้เวลาในส่วนนี้ประมาณ 30 นาที โดยการบริหาร จะเริ่มจากกล้ามเนื้อมัดเล็กไปมัดใหญ่ (เคยมีเทรนเนอร์ท่านหนึ่งสอนมาค่ะ)

เริ่มจากแขนก่อนนะคะ ถือเวท 2 อัน มายเลือกอันที่น้ำหนักเบาสุดอันละคือ 2.5 กก. แล้วก็ยกเวทขึ้นลงช้า ๆ ตามรูปเลยค่ะ 1 เซตคือ 15 ครั้ง ทำ 2 เซตค่ะ

ท่าต่อไป คือกระชับต้นแขน ท่านี้มายชอบมาก เพราะช่วยให้ต้นแขนดูเรียวเล็ก ลดไขมันส่วนเกิน เอาตรงที่ย้วย ๆ ออกให้หมด (y) เวลาใส่แขนกุดจะได้ไม่กังวลค่ะ
ถือเวท 1 อัน ยกแขนจนสุดแขนชิดใบหูนะคะ แล้วค่อย ๆ พับแขนลงไปด้านหลังช้า ๆ ตามรูป จะรู้สึกตึงที่ต้นแขนด้านใน ทำ 2 เซตค่ะ

ท่าต่อไป จะช่วยบริหารต้นแขน บ่า และไหลค่ะ ถือเวท 2 อัน ยกขึ้นช้า ๆ แบบในรูปนะคะ 2 เซตค่ะ
ต่อไปจะเริ่มบริหารหน้าท้องกันแล้วนะคะ


ท่าแรก นอนหงายชันเข่าพอประมาณ จากนั้นยกหลังขึ้นพร้อมเตะขาข้างหนึ่งขึ้นไป เตะสลับข้างไปเรื่อย ๆ 15 ครั้งคือ 1 เซต ทำ 2 เซตค่ะ

ท่าที่ 2 มายชอบมาก ทำแล้วรู้สึกเลยว่าหน้าท้องเกร็งดีมาก นอนหงายเหมือนท่าเมื่อสักครู่นะคะ กางมือ 2 ข้างออก จากนั้นงอขาแล้วเตะขา 2 ข้างขึ้นพร้อมกันแบบในรูป เตะขาให้สุดเลยนะคะ ทำ 2 เซตค่ะ

ท่าต่อไป เปลี่ยนทิศทางบ้างเนอะ นอนหงายนาน ๆ เดี๋ยวจะปวดหลังกัน อันนี้คือท่า plank ค่ะ กระชับหน้าท้อง ก็คือคว่ำตัวลงตามรูปนะคะ แล้วค้างไว้ 30 วิ ไม่ก็ 1 นาทีแล้วแต่สะดวก ทำ 2 รอบค่ะ

ท่าถัดมาเรียกว่าท่า Spider ค่ะ ถ้านี้เริ่มด้วยคว่ำท่า Plank นะคะ จากนั้นก็หดขามาไว้ข้างลำตัวช้า ๆ ซ้ายขวาสลับกัน ทำ 2 เซตค่ะ

จากนั้น ท่าต่อไปนอนคว่ำ เอามือประสานกันแล้วรองท้ายทอยไว้ ยกขาขึ้น เหยียดจนสุด จากนั้นทำท่าปั่นจักรยานกลางอากาศค่ะ เวลาเอาเข่าซ้ายเข้ามา ก็พลิกตัวให้ข้อศอกขวาไปเจอกับเข่าซ้ายค่ะ งงไหม 5555 ถ้างงดูรูปนะ อีกข้างนึงก็ทำเหมือนกันเลย หดขาเข้ามานับเป็น 1 ครั้ง 15 ครั้งคือ 1 เซต ทำทั้งหมด 2 เซตค่ะ

ต่อไป นอนหงายค่ะ เหยียดแขนขวาออกไป ทำมุม 90 องศากับลำตัว ยกแขนซ้ายขึ้นจนสุดตามรูปค่ะ จากนั้นยกขาขวาขึ้นพร้อมกับยกแขนซ้าย ยกศีรษะเล็กน้อย แขนขาตึงนะคะ ยกขาข้างนี้ไปเรื่อย ๆ 2 เซตค่ะ
จากนั้นทำท่าข้างบน แต่เปลี่ยนเป็นยกขาซ้ายกับแขนขวาแทน ทำ 2 เซตเหมือนเดิม

ท่าต่อไปคือ side crunch นะคะ นอนตะแคงซ้าย แขนซ้ายเหยียดตรงไปข้างหน้า แขนขวาจับศีรษะตามรูป จากนั้นหดขาขวาเข้ามาพร้อมกับยกศีรษะให้ไปเจอกับขาข้างที่หดเข้ามาค่ะ ทำ 2 เซตนะคะ จากนั้นก็ทำเหมือนกันกับอีกข้าง 2 เซตเหมือนเดิมค่ะ

ท่านี้คือ Side Plank ค่ะ ท่านี้ใครทำไม่ไหวอย่าฝืนนะคะ เริ่มจากตะแคงข้างค่ะ มือข้างหนึ่งดันพื้นไว้ อีกข้างยกขึ้นไป ค่อย ๆ ยกขาด้านในขึ้นตามรูป ช้า ๆ นะคะ ทำ 2 เซต ทำเหมือนกันกับอีกข้าง 2 เซตค่ะ

ต่อไป ยืนขึ้น ถือเวท 1 อัน ยืดแขนขึ้นจนสุด กางขาออก แล้วเอนตัวไปซ้ายขวาช้า ๆ สลับกันตามรูป เอนตัวทีนึงนับเป็น 1 ครั้ง ทำ 2 เซตค่ะ

ท่านี้สาว ๆ น่าจะรู้จักกันดี คือ squat นั่นเอง มายชอบท่านี้ เพราะทำให้ต้นขาเล็ก ก้นกระชับไม่หย่อนยาน 5555 ทำตามมายนะคะ ถือเวทไว้ระดับอก ย่อ 1 ครั้ง พอยกขา ก็บิดตัวไปหาขาข้างที่ยก แบบในรูป ๆ ย่อยิ่งเยอะยิ่งดีนะคะ เอาให้รู้สึกตึงเลยนะคะ ทำ 2 เซตเหมือนเดิมค่ะ
นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นขาทั้งด้านนอกและด้านในด้วยเครื่องบริหารในฟิตเนสนะคะ


แบบนี้คือบริหารต้นขาด้านนอก ทำ 2 เซต

อันนี้ต้นขาด้านใน ทำช้า ๆ 2 เซตเหมือนกันค่ะ
สุดท้ายมาถึงน่องละ มายเป็นคนน่องใหญ่ค่ะ เลยชอบท่านี้

อันนี้ต้นขาด้านใน ทำช้า ๆ 2 เซตเหมือนกันค่ะ
สุดท้ายมาถึงน่องละ มายเป็นคนน่องใหญ่ค่ะ เลยชอบท่านี้

เท้าเอวนะคะ ขา 2 ข้างชิดกันแล้วค่อย ๆ เขย่งปลายเท้าขึ้นจนสุด ช้า ๆ แล้วเอาลง นับเป็น 1 ครั้ง ทำ 2 เซตค่ะ รับรองน่องเรียว อิอิ
ก็มีประมาณนี้นะคะ พอทำทั้งหมดเสร็จก็ cool down ยืดกล้ามเนื้ออะไรก็ว่าไป ประมาณ 2 นาทีค่ะ ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
Part weight training กับบริหาร ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ สรุปคือ วันนึงมายจะออกกำลังกาย ใช้เวลา 60-70 นาที แต่ถ้าวันไหนรีบมาก ไม่มีเวลาก็จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ หรือวันไหนไปโยคะหรือว่ายน้ำก็จะไม่ทำอย่างอื่นแล้ว

มายเล่น Hot Yoga ที่ Absolute Yoga ค่ะ ใครสนใจลองไปดูนะ มีหลายสาขาค่ะ

นี่เป็นรูปตอนมายไป Workshop เล่น Anti Gravity Yoga หรือโยคะต้านแรงโน้มถ่วงจากอเมริกา ใครสนใจลองไปเล่นดูนะ สนุก และตื่นเต้นดีค่ะ โดยเฉพาะท่า Inversion เลือดสูบฉีดจนหน้าแดงเลย 55555

สิ่งที่อยากฝากไว้นะคะ
- ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งที่ดีสำหรับร่างกายมาย อาจไม่เหมาะกับร่างกายของคนอื่น ๆ นะคะ ต้องปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองนะ ^^
- ถ้าไม่ไหว เจ็บระหว่างออกกำลัง อย่าฝืนนะคะ ให้ถามผู้รู้หรือคุณหมอก่อนจะปลอดภัยที่สุด
- ที่มายบอกว่าเซตนึงมี 15 ครั้งเนี่ย คือเป็นจำนวนที่เหมาะกับตัวมาย อาจจะเปลี่ยนเป็น 10 หรือ 20 ครั้งก็ได้แล้วแต่สะดวกค่ะ
- เคยมีคนบอกมายว่า ถ้าต้องออกกำลังกาย ยอมอดอาหารดีกว่า.... ก็ไม่รู้สินะ -..- แล้วแต่ค่ะ แค่อยากบอกว่าร่างกายของเรา ดูแลให้ดี ๆ นะคะ
- อย่าหาข้ออ้างนู่นนี่นั่นค่ะ ถ้าคนเราลองอยากจะทำอะไรจริง ๆ ถ้าตั้งใจก็ไม่มีอะไรมาห้ามเราได้หรอกค่ะ ^^
- อย่าเพิ่งท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มนะคะ มายเคยวิ่งช้าที่สุดในห้อง ขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็หน้ามืด เคยเป็นลมตอนเข้าแถวกับตอนอยู่ในห้องน้ำ มายยังพัฒนาตัวเองได้เลย ทุกคนในนี้เก่งกว่ามายตั้งเยอะ ต้องทำได้แน่นอนค่ะ
สุดท้ายนี้ ถ้าหมดกำลังใจก็ต้องหา Motivation ค่ะ สำหรับสาว ๆ นะคะ เซฟรูปนี้เก็บไว้ดูเช้าเย็นนะ 55555 มายเห็นรูปนี้แล้ว motivation มาเต็มค่ะ แบบว่าขอให้ได้สักเศษเสี้ยวของนางก็ยังดี อิอิ

No matter who you are, no matter what you did, no matter where you\'ve come from, you can always change, become a better version of yourself.


ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้ามีท่านไหนอยากเสริม อยากช่วยแก้ไขข้อมูล จะขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
นับได้ว่าประสบการณ์การลดน้ำหนักและการดูแลสุขภาพของเธอคนนี้ จัดเต็มไปด้วยข้อมูลดี ๆ ทั้งเรื่องการเลือกกินอาหาร และทริคการออกกำลังกายที่สาว ๆ สามารถหยิบไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เอ้า...ใครอยากผอมงานนี้สงสัยจะรอช้าไม่ได้เสียแล้วล่ะค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ