
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ PAM สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สาวเสพติดบิ๊กอายมานาน 8 ปีเต็ม โพสต์กระทู้เตือนใจวัยรุ่นที่ชอบใส่บิ๊กอาย ระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับดวงตา มาดูว่ามีอะไรบ้าง
แฟชั่นบิ๊กอาย แม้จะฮอตฮิตมานานแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังคงอยู่ในเทรนด์ของสาววัยรุ่น ที่อยากมีดวงตากลมโต ดูสดใส น่ารัก บ้องแบ๊ว จึงได้ใส่บิ๊กอายตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเองดูสวย รู้สึกมั่นใจ เลยทำให้หลายคนมีอาการถึงขั้นเรียกได้ว่า "เสพติด" บิ๊กอาย จนลืมนึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับดวงตาของเราไปเสียสนิท
คุณ PAM สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็เป็นคนหนึ่งที่เสพติดบิ๊กอายถึงขั้นอยู่บ้านยังต้องใส่ เพื่อให้ตัวเองมีความมั่นใจ และจากการที่เธอได้ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนี้มานานถึง 8 ปีเต็ม ก็ทำให้เธอเจอปัญหาสารพัดกับดวงตา จึงได้โพสต์กระทู้ลงในเว็บไซต์พันทิป เพื่อเตือนให้คนที่ชอบใส่บิ๊กอายให้ใส่ใจดวงตาของตัวเองสักหน่อย ก่อนจะเกิดปัญหากับดวงตาถึงขั้นร้ายแรง ลองไปอ่านกันดูค่ะ
"เสพติด Big eye มา 8 ปีเต็ม" มาดูกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของฉันบ้าง !!! ตอนนี้อายุ 23 ปี แต่ตาเริ่มมีปัญหา โดย คุณ PAM สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

(รูปตาดิฉันเอง ขนาดว่าใส่บิ๊กอายแล้ว ตายังลอยอยู่เลย (อาจจะมโนไปเองรึป่าว? 555) รูปนี้ประมาณปีที่ 2 ที่เริ่มใส่)
เชื่อว่า สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ หลาย ๆ คงรู้จังไอเทมนี้ดี บางคนถึงกับขาดไม่ได้ เป็นปัจจัย 5 เลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ได้ใส่บิ๊กอายฉันจะไม่ออกบ้าน ไม่มั่นใจอย่าใหญ่หลวงเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับดิฉันในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ที่ไม่ใส่เลยไม่ได้ ยกเว้นก็ตอนนอนเท่านั้น ถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดลืมเอาไปก็ต้องซื้อใหม่ทันที
สมัยนั้นบิ๊กอายตกคู่ละประมาณ 699 บาท (ราคาเริ่มต้น) ของดีมียี่ห้อนะคะ แต่ก่อนไม่มีขายตามข้างทาง ต้องซื้อจากร้านแว่นเท่านั้น สมัยนั้นอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้ใช้ง่ายเหมือนทุกวันนี้
เรื่องการดูแลทำความสะอาด ปีแรกก็ดีอยู่หรอกค่ะ แต่ปีหลัง ๆ เนี่ย ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ จากถูเลนส์หน้าหลังก่อนแช่และก่อนใส่ ก็ไม่ทำ ใส่เสร็จแล้วถอดแช่เลย (เป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับคนที่ใส่คอนแทคนะคะ)
กลับไปค้นหาดูรูปเก่าสมัย 5-6 ปีก่อน แทบทุกรูปจะต้องใส่บิ๊กอาย แต่ก็พอจะมีรูปตอนที่ไม่ใส่บิ๊กอายอยู่บ้าง (ม.1-ม.3) มาให้ดูเปรียบเทียบกัน ส่วนสาเหตุส่วนตัวหลัก ๆ เลยที่ทำให้ดิฉันติดมัน คือ
1. ตาลอย
2. หางตาตก (ทำให้ตาดูลอยมากขึ้น)
3. ไม่ใส่แล้วเพื่อนทักว่าเหมือนคนติดยา เหมือนคนเหม่อลอยตลอดเวลา
4. พื้นที่ตาขาวมันมีเยอะกว่าตาดำ ตาดำไม่โตค่ะ
สาเหตุรองลงมาคือ
1. ตอนนั้นเป็นช่วงวัยรุ่นตอนต้น เมคองเมคอัพไม่รู้จักค่ะ เลยพยายามทำให้ตัวเองดูดี ใส่บิ๊กอายแล้วมั่นใจมากขึ้น
2. มันดูแบ๊ว ๆ น่ารัก (เริ่มติดล่ะ)
3. คนจะทักว่าตาโตสวย (เดิมเราตาโตอยู่แล้ว)
เวลาผ่านไป ๆๆ จน 5 ปีก็แล้ว 6 ปี ก็แล้ว คิดว่าจะเลิกใส่ก็เลิกไม่ได้ โอ๊ยยไม่มั่นใจ !!!! ไม่มีความมั่นใจเลยล่ะ ต้องใส่ เวลาไม่ใส่แล้ว เรามีความรู้สึกว่า ไม่กล้าสบตาใคร กล้าเค้าทักว่าอย่างนั้นอย่างนี้ มันเหมือนกับเป็นปมด้อย ตอน ม.ต้น เราชอบผู้ชายคนนึง แต่เค้าบอกกับเราว่า .."เออ แกชั้นว่าแกก็น่ารักดีนะ แต่ถ้าหน้าไม่เป็นรอยสิว ตาไม่ลอย ก็คงจะน่ารักกว่านี้" 555+ เราก็เลยไม่มั่นใจเอาซะมาก ๆ
จนเข้าไปปีที่ 4 ที่ 5 จน 8 ปีที่ใส่ เราเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของตาตัวเอง ทั้งอาการหลาย ๆ อย่าง รวมถึงตาดำที่เปลี่ยนไป
สักประมาณเรียนอยู่ปี 3 ฉันเริ่มสังเกตความผิดปกติของตาตัวเอง ว่าขอบตาดำมันไม่ชัดเหมือนแต่ก่อนมันเบลอ ๆ และตาดำดูมีขนาดเล็กลง แต่ก็ยังหลอกตัวเองต่อไปค่ะ ไม่มีอะไรหรอกมั้ง !!! ไม่เป็นไรน่า เหอะ ๆ

รูปนี้คือดีขึ้นมาก ๆ แล้วค่ะ แต่ก่อนมันจะเบลอ ๆ กว่านี้ ตอนนี้อาการที่ยังเป็นอยู่คือ
- อาการตาแห้ง (ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใส่แล้ว)
- แพ้แสง (ช่วงที่ใส่อยู่จะมีอาการนี้รุนแรงมาก คือไม่ใส่คอนแทคเลนส์ออกมาข้างนอกจะสู้แสงไม่ได้ ถึงขั้นน้ำตาไหลเลย บางทีตาแดงมาก ๆ)
- สายตาสั้น
- ดวงตาเซนซิทีฟมากกก โดนอะไรเข้าตานิดหน่อยจะเจ็บตา และแสบตามาก มากกว่าปกติ (อย่าเช้าเวลาสระผม หรือล้างหน้า ซึ่งสมัยก่อนตอนที่ยังไม่เริ่มใส่ไม่เป็นมากขนาดนี้) อาการก่อนหน้านั้นที่ยังไม่เลิกใส่ แต่ก็ยังมีอาการข้างต้นรวมอยู่ด้วย
- คันตา บางทีคันหัวตามาก ๆ ขยี้ทั้งวัน
เราติดชนิดที่ว่าอยู่บ้านยังใส่ ไม่แต่งหน้าแต่ก็ต้องใส่ 555+ สบายใจที่ตอนนี้เลิกได้แล้ว ตาเริ่มดีขึ้น แต่ก่อนเพื่อนสนิทเราทักเลยว่า "คอนแทคดูดตาดำรึเปล่าวะ ขอบตาดำดูเบลอ ๆ" เราเลยกลัว พยายามที่จะเลิกใส่
มันเป็นความประมาทของเราที่ดูแลไม่ดี ไม่ทำความสะอาดดี ๆ ครั้งนึงถึงขั้นคอนแทคบาดตาขาว โชคดีที่ไม่เป็นไรมาก ตาแดงเป็นอาทิตย์ พอหายแล้วก็กลับมาใส่ต่อ (แต่ก่อน ๆ) ความไม่เข็ดของคนเรา

ตามคำเรียกร้อง (หน้าตอนไม่แต่ง) ตอนนี้กลับมามีความมั่นใจกับหน้าตัวเองตอนไม่ใส่บิ๊กอายแล้วค่ะ !!!


อันนี้ตอนแต่งหน้านิดหน่อย แต่ไม่ใส่บิ๊กอายแล้วนะคะ ตอนนี้ช่วงแรก ๆ ที่เริ่มจะไม่ใส่ค่ะ พยายามใส่ให้น้อยลง
กำลังใจเป็นส่วนหนึ่งค่ะ เพื่อน ๆ น้องที่อยู่ด้วยกันก็พูดให้กำลังใจ "เออ เจ้ไม่ใส่คอนแทค ก็ไม่เห็นดูแปลกเลย" ยิ้ม เริดค่ะ มีกำลังใจขึ้นมาก

แบ๊วมั้ยล่ะ !!! นี่ล่ะถึงบอกว่าวันเลิกยาก!! 555+ เดี๋ยวชอตต่อไปรอดูรูปสมัยก่อนตอนยังจัดฟัน และไม่รู้จักบิ๊กอายนะคะ 555+ หน้าเอ๋อ ๆ

คนขวามือ
สุดท้ายล่ะจ้ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะใครที่ยังมีอาการติดไม่เลิก อันตรายค่ะ ดีที่ตาแป๋มไม่เป็นไรมาก ยังไม่บอด สาว ๆ ที่กำลังนอนกอดคอนแทคอยู่ปล่อยมือบ้างก็ดีนะจ๊ะ ....บางคนเที่ยวเสร็จนอนเลยไม่ถอดอันตรายมากก !!
เพราะมีเพื่อนคนนึงที่เคยเป็นแบบนี้แล้วตื่นมาคอนแทคหายไปข้างนึง มันหาแทบตายไม่เจอ จนไปซื้อคู่ใหม่และขณะที่จะใส่เข้าไปข้างที่สองนั้นปรากฏว่าใส่ไม่ได้เคืองมาก มันก็งงว่าเป็นอะไร ขยี้อยู่นาน สรุปจ้าาาา คอนแทคที่หายไปมันเลื่อนออกมาจากหลังตามันเข้าไปติดอยู่ข้างใน T^T ดีที่มันหลุดออกมาได้
ฝากเตือนสาว ๆ ด้วยนะคะ อย่าชะล่าใจ เค้าไม่บอด แต่เราอาจจะบอดได้ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้จ้า
กระทู้นี้ดิฉันตั้งใจที่จะให้เพื่อน ๆ ที่ใส่บิ๊กอายระวังถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะอาการแย่ ๆ หลายอย่างได้เกิดขึ้นกับดิฉัน ทุกวันนี้เลิกใส่ได้แล้วค่ะ ต้องให้กำลังใจตัวเอง ต้องรู้จักชมตัวเองว่า ไม่ใส่ก็ดูดีอยู่แล้ว เพราะไม่งั้นเลิกไม่ได้แน่ ๆ ค่ะ ก่อนที่จะสายเกินแก้ (สำหรับคนที่ดูแลดีก็ไม่มีปัญหานะคะ อาจจะแล้วแต่ตัวบุคคล)
ส่วนคนที่ใส่อย่างถูกวิธี ดูแลทำความสะอาดดีอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวนี้ จขกท. เลิกมโนแล้วว่าตาลอย คือรับมันได้ รู้จักเมคอัพวิธีแก้ (ใช้มาสคาร่าปัดขนตาให้ดูกลมโตและไม่พยายามเน้นเส้นขอบตาล่าง) ขอให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ช่วยเตือนสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่กำลังใส่อยู่ ถ้ายังไม่อยากเลิกใส่ ก็ดูแลให้ดี หมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนเลนส์ เปลี่ยนน้ำยา ...เพราะสาเหตุที่ใส่ของ จขกท. มาจากความอยากสวยอยากงามทั้งนั้น .....
ป.ล.อาการข้างต้น อาจจะไม่ได้เกิดกับทุกคนที่ใส่นะคะ อ้ออย่าลืมใช้ของดี ๆ มี อย.ชัดเจนด้วยนะคะ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ