แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เตารีดทาบ รักษาอย่างไรดี ลองมาดู 11 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยรักษาแผลให้หายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับสูตรสำหรับการแผลที่เกิดจากการเผาไหม้ซึ่งสามารถช่วยรักษาให้หายได้ไวและได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ จาก Reader\'s Digest มาแนะนำกันค่ะ เผื่อว่าคราวหน้าเราเจอใครโดนน้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้จะได้รักษากันได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้างที่ช่วยในการรักษาได้
วนิลา
การใช้สารวนิลาสกัดในการรักษาแผลเผาไหม้นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอีกวิธีหนึ่ง เพราะการใช้สารวนิลาสกัดทาลงไปเบา ๆ บนแผลนั้น แอลกอฮอล์ที่อยู่ในสารวนิลาสกัดจะช่วยให้แผลเผาไหม้นั้นเย็นลงและบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
นมสด
เชื่อหรือไม่ว่านมสามารถช่วยในการบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและการรักษาแผลที่ถูกเผาไหม้ได้ เนื่องจากในนมนั้นมีปริมาณของไขมันและโปรตีนสูง เพียงแช่เแผลลงในนมสด 15 นาที ก็จะทำให้อาการเจ็บปวดทุเลาลงได้ หรือจะใช้โยเกิร์ต ก็สามารถช่วยทำให้แผลเย็นขึ้นและช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นกัน
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินอีและยังมีกรดไขมันซึ่งช่วยในการป้องกันบาดแผลจากเชื้อราและแบคทีเรียได้อีกด้วย แผลจากการเผาไหม้นั้นจะทำให้เกิดแผลเป็นน่าเกลียด
วิธีการรักษาแผลเป็นเหล่านั้นก็เพียงผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมานวดบริเวณที่เป็นแปลเป็น กรดจากมะนาวจะช่วยทำให้แผลนิ่มลงและน้ำมันมะพร้าวจะช่วยรักษาให้แผลจางลงได้
ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตมีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบได้ โดยเฉพาะในช่วงที่แผลจากไฟไหม้นั้นกำลังอยู่ในช่วงการรักษา อาจจะทำให้คุณรู้สึกอยากจะเกาที่แผล เพียงแค่นำข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำแล้วแช่แผลลงในน้ำที่ผสมกับข้าวโอ๊ตประมาณ 20 นาที ข้าวโอ๊ตจะช่วยเคลือบบริเวณแผลเอาไว้ทำให้ความรู้สึกคันลดลง แต่ถ้าต้องการบรรเทาอาการแสบของแผลก็เพียงผสมเบกกิ้งโซดาลงไปด้วย ก็จะทำให้อาการแสบลดลง
น้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์
นักเคมีชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบอำนาจในการรักษาของน้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ในช่วงต้นศตวรรษ 1900 เมื่อมือของเขาเกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรงภายในห้องทดลอง เขาได้นำมือจุ่มลงไปในน้ำมันหอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์ และพบว่าแผลเหล่านั้นได้หายอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ถ้าใครมีแผลลักษณะนี้ก็ลองผสมน้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ 1 ช้อนชากับน้ำสะอาด 2 ออนซ์ จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ ซึ่งสามารถพ่นได้ลงบนแผลได้บ่อย ๆ ตามที่ต้องการ หรือจะใช้น้ำมันจากต้นชาและต้นฮาเซลนัทก็สามารถช่วยรักษาแผลเผาไหม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เช่นกัน
ถุงชา
ชาดำมีส่วนประกอบของกรดแทนนินซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากเผาไหม้และช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ โดยใช้ถุงชาดำที่เย็นและเปียกประคบลงแผลที่ถูกเผาไหม้ซึ่งปิดด้วยผ้ากอซ ก็จะทำให้บรรเทาอาการได้
น้ำส้มสายชู
กรดอะซิติกที่อยู่ในน้ำสมสายชูนั้นเป็นส่วนประกอบของยาแอสไพรินที่ช่วยบรรเทาอาการปวด คัน และการอักเสบที่เกิดจากการเผาไหม้ นอกจากนี้ยังเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อและช่วยป้องกันไม่ให้แผลที่ถูกเผาไหม้ติดเชื้อด้วย ดังนั้น หากใครเผลอไปถูกน้ำร้อนลวกหรือมีแผลไฟไหม้ ให้หาน้ำส้มสายชูมาใช้ได้เลย จะช่วยลดความร้อนของแผลเผาไหม้ได้ด้วยค่ะ
น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ น้ำผึ้งมีค่า pH อยู่ในระดับที่ไม่เอื้ออำนวยต่อแบคทีเรีย ซึ่งการใช้เพียงครั้งเดียวก็สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียที่อยู่บนแผลได้หมด นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและรักษาแผลได้อีกด้วย
ว่านหางจระเข้ดีกว่าน้ำแข็ง
น้ำแข็งสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือดและความเสียหายของเนื้อเยื่อที่บริเวณผิวหนังได้ก็จริง แต่ว่าก็ต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 20 นาที ถึงจะด้ผล ดังนั้นแทนที่จะใช้น้ำแข็งที่ได้ผลช้ากว่า เราควรใช้ว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นพืชสามัญประจำบ้านที่แทบทุกบ้านต้องมีจะดีกว่า
เป็นที่รู้กันดีว่า การใช้ว่านหางจระเข้นั้นจะช่วยหยุดอาการเจ็บปวดจากการเผาไหม้ ช่วยลดอาการอักเสบและช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมและเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและผิวหนัง
ยาสีฟัน
เมื่อเราไปสัมผัสกับอะไรร้อน ๆ โดยไม่ได้สวมอะไรป้องกันก็อาจจะทำให้เกิดอาการโดนลวกได้ ซึ่งบางทีแผลก็ไม่ใหญ่นัก ยาสีฟันที่เรามักจะใช้อยู่ในห้องน้ำนั่นล่ะสามารถจะช่วยบรรเทาอาการโดนลวกเล็กน้อยนี้ได้ โดยเริ่มจากการล้างแผลด้วยน้ำเย็นแล้วค่อย ๆ ใช้ผ้าซับจากนั้นก็นำยาสีฟันป้ายลงบนบาดแผล ก็จะทำให้แผลลดการอักเสบและหายเร็วขึ้น
วิตามินซี และวิตามินอี
วิตามินซีมีคุณสมบัติใช่วยรักษาอาการบาดแผลและช่วยในการสร้างคอลลาเจนส่วนวิตามินอีก็มีคุณสมบัติในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยซ่อมแซมและปกป้องผิวได้
ดังนั้นถ้าหากอยากให้แผลหายเร็วเราสามารถนำวิตามินซี วิตามินอี ที่เป็นอาหารเสริมนั้นมารักษาแผลได้ โดยใช้วิตามินซีปริมาณ 2,000 มิลลิกรัม และวิตามินอี 1,000 ยูนิต ทั้งนี้ ควรจะใช้หลังจากเกิดแผลประมาณ 1 สัปดาห์ จะทำให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่เกิดแผลเป็นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีหลากหลายวิธีในการช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและรักษาแผลที่เกิดจากการเผาไหม้ได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดนั่นคือความสะอาด หากบาดแผลเราไม่สะอาดพอก็อาจเกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นเราควรจะรักษาความสะอาดของแผลและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลบ่อย ๆ จะดีที่สุดนะคะ
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 3 พฤษภาคม 2561
ข้อมูลจาก Reader\'s Digest
แผลที่เกิดจากการโดนเผาไหม้หรือน้ำร้อนลวกนั้นเป็นแผลที่สร้างความเจ็บปวดมากและเป็นเวลานาน ซ้ำยังมีอาการอักเสบตามมาด้วย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าการใช้ของเย็นในการรักษาแผลเบื้องต้นจะช่วยทำให้บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ แต่การใช้ของเย็นในการรักษาแผลน้ำร้อนลวก หรือแผลโดนเผาไหม้นั้นไม่ใช่ว่าจะทำให้อาการดีขึ้นเสมอไป เพราะการใช้น้ำแข็งหรือของน้ำเย็นนั้นก็ต้องใช้เวลานานกว่าแผลนั้นจะเย็นลง
วนิลา
การใช้สารวนิลาสกัดในการรักษาแผลเผาไหม้นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอีกวิธีหนึ่ง เพราะการใช้สารวนิลาสกัดทาลงไปเบา ๆ บนแผลนั้น แอลกอฮอล์ที่อยู่ในสารวนิลาสกัดจะช่วยให้แผลเผาไหม้นั้นเย็นลงและบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
นมสด
เชื่อหรือไม่ว่านมสามารถช่วยในการบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและการรักษาแผลที่ถูกเผาไหม้ได้ เนื่องจากในนมนั้นมีปริมาณของไขมันและโปรตีนสูง เพียงแช่เแผลลงในนมสด 15 นาที ก็จะทำให้อาการเจ็บปวดทุเลาลงได้ หรือจะใช้โยเกิร์ต ก็สามารถช่วยทำให้แผลเย็นขึ้นและช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นกัน
น้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินอีและยังมีกรดไขมันซึ่งช่วยในการป้องกันบาดแผลจากเชื้อราและแบคทีเรียได้อีกด้วย แผลจากการเผาไหม้นั้นจะทำให้เกิดแผลเป็นน่าเกลียด
วิธีการรักษาแผลเป็นเหล่านั้นก็เพียงผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมานวดบริเวณที่เป็นแปลเป็น กรดจากมะนาวจะช่วยทำให้แผลนิ่มลงและน้ำมันมะพร้าวจะช่วยรักษาให้แผลจางลงได้
ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตมีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบได้ โดยเฉพาะในช่วงที่แผลจากไฟไหม้นั้นกำลังอยู่ในช่วงการรักษา อาจจะทำให้คุณรู้สึกอยากจะเกาที่แผล เพียงแค่นำข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำแล้วแช่แผลลงในน้ำที่ผสมกับข้าวโอ๊ตประมาณ 20 นาที ข้าวโอ๊ตจะช่วยเคลือบบริเวณแผลเอาไว้ทำให้ความรู้สึกคันลดลง แต่ถ้าต้องการบรรเทาอาการแสบของแผลก็เพียงผสมเบกกิ้งโซดาลงไปด้วย ก็จะทำให้อาการแสบลดลง
น้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์
นักเคมีชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบอำนาจในการรักษาของน้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ในช่วงต้นศตวรรษ 1900 เมื่อมือของเขาเกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรงภายในห้องทดลอง เขาได้นำมือจุ่มลงไปในน้ำมันหอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์ และพบว่าแผลเหล่านั้นได้หายอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ถ้าใครมีแผลลักษณะนี้ก็ลองผสมน้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ 1 ช้อนชากับน้ำสะอาด 2 ออนซ์ จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ ซึ่งสามารถพ่นได้ลงบนแผลได้บ่อย ๆ ตามที่ต้องการ หรือจะใช้น้ำมันจากต้นชาและต้นฮาเซลนัทก็สามารถช่วยรักษาแผลเผาไหม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เช่นกัน
ถุงชา
ชาดำมีส่วนประกอบของกรดแทนนินซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากเผาไหม้และช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ โดยใช้ถุงชาดำที่เย็นและเปียกประคบลงแผลที่ถูกเผาไหม้ซึ่งปิดด้วยผ้ากอซ ก็จะทำให้บรรเทาอาการได้
น้ำส้มสายชู
กรดอะซิติกที่อยู่ในน้ำสมสายชูนั้นเป็นส่วนประกอบของยาแอสไพรินที่ช่วยบรรเทาอาการปวด คัน และการอักเสบที่เกิดจากการเผาไหม้ นอกจากนี้ยังเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อและช่วยป้องกันไม่ให้แผลที่ถูกเผาไหม้ติดเชื้อด้วย ดังนั้น หากใครเผลอไปถูกน้ำร้อนลวกหรือมีแผลไฟไหม้ ให้หาน้ำส้มสายชูมาใช้ได้เลย จะช่วยลดความร้อนของแผลเผาไหม้ได้ด้วยค่ะ
น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ น้ำผึ้งมีค่า pH อยู่ในระดับที่ไม่เอื้ออำนวยต่อแบคทีเรีย ซึ่งการใช้เพียงครั้งเดียวก็สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียที่อยู่บนแผลได้หมด นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและรักษาแผลได้อีกด้วย
ว่านหางจระเข้ดีกว่าน้ำแข็ง
น้ำแข็งสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือดและความเสียหายของเนื้อเยื่อที่บริเวณผิวหนังได้ก็จริง แต่ว่าก็ต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 20 นาที ถึงจะด้ผล ดังนั้นแทนที่จะใช้น้ำแข็งที่ได้ผลช้ากว่า เราควรใช้ว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นพืชสามัญประจำบ้านที่แทบทุกบ้านต้องมีจะดีกว่า
เป็นที่รู้กันดีว่า การใช้ว่านหางจระเข้นั้นจะช่วยหยุดอาการเจ็บปวดจากการเผาไหม้ ช่วยลดอาการอักเสบและช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมและเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและผิวหนัง
ยาสีฟัน
เมื่อเราไปสัมผัสกับอะไรร้อน ๆ โดยไม่ได้สวมอะไรป้องกันก็อาจจะทำให้เกิดอาการโดนลวกได้ ซึ่งบางทีแผลก็ไม่ใหญ่นัก ยาสีฟันที่เรามักจะใช้อยู่ในห้องน้ำนั่นล่ะสามารถจะช่วยบรรเทาอาการโดนลวกเล็กน้อยนี้ได้ โดยเริ่มจากการล้างแผลด้วยน้ำเย็นแล้วค่อย ๆ ใช้ผ้าซับจากนั้นก็นำยาสีฟันป้ายลงบนบาดแผล ก็จะทำให้แผลลดการอักเสบและหายเร็วขึ้น
วิตามินซี และวิตามินอี
วิตามินซีมีคุณสมบัติใช่วยรักษาอาการบาดแผลและช่วยในการสร้างคอลลาเจนส่วนวิตามินอีก็มีคุณสมบัติในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยซ่อมแซมและปกป้องผิวได้
ดังนั้นถ้าหากอยากให้แผลหายเร็วเราสามารถนำวิตามินซี วิตามินอี ที่เป็นอาหารเสริมนั้นมารักษาแผลได้ โดยใช้วิตามินซีปริมาณ 2,000 มิลลิกรัม และวิตามินอี 1,000 ยูนิต ทั้งนี้ ควรจะใช้หลังจากเกิดแผลประมาณ 1 สัปดาห์ จะทำให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่เกิดแผลเป็นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีหลากหลายวิธีในการช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและรักษาแผลที่เกิดจากการเผาไหม้ได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดนั่นคือความสะอาด หากบาดแผลเราไม่สะอาดพอก็อาจเกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นเราควรจะรักษาความสะอาดของแผลและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลบ่อย ๆ จะดีที่สุดนะคะ
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 3 พฤษภาคม 2561
ข้อมูลจาก Reader\'s Digest