ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวสายพันธุ์ใหม่สีสันแปลกตา ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มาลองดูกันสิว่า สรรพคุณและประโยชน์ ไรซ์เบอร์รีมีอะไรบ้าง
ข้าวไรซ์เบอร์รี อาหารดี ๆ เปี่ยมคุณค่า
ข้าวไรซ์เบอร์รีเป็นข้าวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดยการผสมเลียนแบบธรรมชาติ ระหว่างข้าวสองพันธุ์ ได้แก่ ข้าวเจ้าหอมนิล และข้าวขาวดอกมะลิ 105 หลังจากนั้นจึงคัดเลือกโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพจนได้พันธุ์ข้าวที่มีความบริสุทธิ์ จากการพัฒนาพันธุ์ข้าวพิเศษ ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และได้ยื่นจดทะเบียนคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ โดย รศ. ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ห้ามนำไปขยายพันธุ์เชิงการค้าต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก วช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ข้าวไรซ์เบอร์รีเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว และถ้าหากเป็นข้าวกล้องก็จะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีรสชาติอมหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยอายุเก็บเกี่ยวของข้าวสายพันธุ์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 130 วัน ซึ่งให้ผลผลิตปานกลาง สามารถต้านทานต่อโรคไหม้ แต่ไม่ต้านทานโรคหลาว ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ทุกรอบของการปลูก นอกจากนี้รำข้าวและน้ำมันรำข้าวจากไรซ์เบอร์รียังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดี ซึ่งทางการแพทย์นิยมนำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารโภชนบำบัดอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของข้าวไรซ์เบอร์รี
- ค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง 62
- ปริมาณอะไมโลส (amylose) 15.6 %
- อุณหภูมิแป้งสุก < 70 องศาเซลเซียส
- ธาตุเหล็ก 13-18 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- ธาตุสังกะสี 31.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- โอเมก้า 3 25.51 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
- วิตามิน อี 678 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
- โฟเลต 48.1 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
- เบต้า-แคโรทีน 63 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
- โพลีฟีนอล 113.5 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
- แทนนิน 89.33 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
- แกมมาโอไรซานอล 462 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
ข้าวไรซ์เบอร์รี กับสรรพคุณและประโยชน์อันมหัศจรรย์
ข้าวไรซ์เบอร์รี เป็นข้าวสายพันธุ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงร่างกาย และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบที่ผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความแก่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคสมองเสื่อมได้
ข้าวไรซ์เบอร์รียังเป็นอาหารสุขภาพที่ดีต่อทุกเพศทุกวัย สามารถรับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพและทดแทนข้าวขาวหรือข้าวกล้องปกติได้ โดยหากผู้สูงวัยรับประทานก็จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยบำรุงสายตาและระบบประสาทต่าง ๆ
ส่วนสตรีมีครรภ์หากรับประทานข้าวชนิดนี้ก็จะช่วยทำให้เด็กในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดครรภ์เป็นพิษ และที่สำคัญยังมีธาตุเหล็กสูงเหมาะกับสตรีที่กำลังมีครรภ์ซึ่งต้องการแร่ธาตุชนิดนี้มากกว่าคนปกติค่ะ
นอกจากนี้ข้าวไรซ์เบอร์รียังมีสรรพคุณช่วยควบคุมน้ำตาลและควบคุมน้ำหนักได้ เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วนอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หากรับประทานข้าวชนิดนี้เป็นประจำก็จะทำให้ได้ธาตุเหล็กซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบเลือด และช่วยบำรุงโลหิตและร่างกายให้แข็งแรง
ข้าวไรซ์เบอร์รียังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย เพราะนอกจากแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายแล้ว ข้าวชนิดนี้ยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
ข้าวไรซ์เบอร์รี หุงอย่างไรให้อร่อย
ข้าวไรซ์เบอร์รีจัดเป็นข้าวกล้องชนิดหนึ่ง ดังนั้นหากต้องการหุงให้อร่อยก็ควรที่จะนำไปผสมกับข้าวหอมมะลิเพื่อให้ข้าวที่รับประทานเหนียวนุ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากต้องการหุงข้าวชนิดนี้เพียงอย่างเดียวก็ควรจะใช้สัดส่วนดังนี้ค่ะ ข้าว 1 ส่วน : น้ำ 1.5 ส่วน โดยหุงต้มประมาณ 35 นาที แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก็จะได้รับประทานข้าวไรซ์เบอร์รีที่นุ่มและมีสีสันน่ารับประทานค่ะ
ข้าวไรซ์เบอร์รีเป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพจริง ๆ นะคะ ต้องชื่นชมนักวิจัยของไทยเราที่สามารถนำข้อดีของข้าวทั้งสองพันธุ์มาผสมกันจนได้ข้าวพันธุ์ใหม่อย่างไรซ์เบอร์รี ทำให้เราสามารถรับประทานข้าวที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหารแบบนี้ ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังมองหาธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงอยู่ละก็ อยากให้ลองข้าวไรซ์เบอร์รีดูนะคะ รับรองว่านอกจากคุณค่าอาหารที่ได้รับแล้ว ยังจะได้รับประทานข้าวที่อร่อยและเหนียวนุ่มอีกด้วยละค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
riceberry.net