เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กว่าควรที่จะแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อที่ฟันจะได้ไม่ผุ แต่ทำไมเราต้องแปรงฟัน วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบของคำถามนี้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ มาดูกันสิว่าสาเหตุที่เราต้องแปรงฟันที่เว็บไซต์ huffingtonpost.com นำมาบอกเล่านั้นมีอะไรบ้าง ใครที่ไม่ชอบแปรงฟันก่อนนอนควรอ่านอย่างยิ่งเลยละค่ะ
การแปรงฟันจะไปทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ก่อตัวอยู่ในคราบจุลินทรีย์หลุดออกไป ซึ่งถ้าหากเราไม่แปรงฟัน คราบเหล่านี้ก็จะยังคงเกาะอยู่บนฟันและเริ่มทำลายฟัน และอาจจะกลายเป็นคราบหินปูนที่เกาะตัวหน้าอยู่บนฟันนั่นเอง ซึ่งถ้าหากปล่อยเอาไว้นานเกินไปโดยไม่แปรงฟันหรือไปพบแพทย์เพื่อขูดหินปูนก็อาจจะทำให้ฟันผุจนต้อนถอนฟันเลยละค่ะ
การไม่แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอหรือลืมแปรงฟันเพียงครั้งเดียวก็อาจจะทำให้ฟันของเราเริ่มผุได้ ดังนั้นจึงไม่ควรลืมแปรงฟันเลยเด็ดขาด เราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์และควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม เพราะแปรงที่มีขนแข็งเกินไปอาจจะทำให้เหงือกร่นได้
นอกจากนี้ในการแปรงฟันทุกครั้งควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 นาที และควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งปาก โดยหลังการแปรงฟันก็ควรใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยทุกครั้งเพื่อลดคราบหินปูนที่เกาะอยู่ตามซอกฟันที่ขนแปรงนั้นเข้าไม่ถึง
ที่สำคัญ ไม่ควรใช้การเคี้ยวหมากฝรั่งหรือการบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากแทนการแปรงฟันนะคะ เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ได้ช่วยให้คราบจุลินทรีย์ต่าง ๆ หลุดออกไปได้ ทั้งสองวิธีนั้นเป็นแค่เพียงการทำให้ลมหายใจสดชื่นเท่านั้นค่ะ
และอีกวีธีหนึ่งที่จะทำให้เรามีสุขภาพช่องปากที่ดีนั่นก็คือการไปพบทันตแพทย์อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพฟันประจำปี ซึ่งการไปพบทันตแพทย์จะทำให้เราทราบถึงสุขภาพช่องปากของเราและถ้าหากมีฟันที่ผุตรงไหนจะได้ทำการรักษาก่อนที่จะลุกลามจนต้องเสียฟันได้ค่ะ
การแปรงฟันไม่ใช่กิจกรรมที่ยาก เพียงใช้เวลาไม่นานเท่านั้น ดังนั้นจึงควรแปรงฟันทุกวันนะคะ เพราะมันคงไม่คุ้มค่ากันแน่นอนหากจะต้องสูญเสียฟันไปเพื่อกับเวลาเพียงเล็กน้อยในการแปรงฟันที่เราไม่ยอมทำ จริงไหมคะ?