x close

โพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เพิ่มจุลินทรีย์ดีช่วยในการขับถ่าย พร้อมปรับสมดุลลำไส้

           แนะนำโพรไบโอติก แบคทีเรียชนิดดีช่วยการขับถ่าย ปรับสมดุลการย่อย บรรเทาอาการท้องอืด มีหลากหลายรูปแบบ ถ้าจะเลือกซื้อทั้งทีควรเลือกแบบไหนดี
โพรไบโอติก

           ผู้ที่กำลังมองหาอาหารเสริมโพรไบโอติก ที่ดีต่อสุขภาพ มาดูแลเรื่องระบบย่อยอาหารหรือการขับถ่ายให้ง่ายขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกโพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำโพรไบโอติก ปี 2024 หลากหลายยี่ห้อ พร้อมประโยชน์ วิธีเลือกซื้อ และข้อควรระวังในการรับประทาน

โพรไบโอติก (Probiotics) คืออะไร

           โพรไบโอติก คือกลุ่มแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยพบในระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ รวมไปถึงช่องคลอด หากมีปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความสมดุล ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อเกิดโรค และเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

โพรไบโอติกมีประโยชน์อย่างไร
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ประโยชน์โพรไบโอติก

          โพรไบโอติก (Probiotics) มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น

  • กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น 

  • ช่วยให้ลำไส้มีความเป็นกรด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อเกิดโรค

  • เติมจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าสู่ลำไส้ ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น บรรเทาอาการท้องอืด

  • บรรเทาอาการท้องเสียหรือท้องผูกเนื่องจากลำไส้แปรปรวน

  • กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้ ไม่ให้เชื้อโรคจากทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกาย 

  • กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีออกไปผ่านการขับถ่าย

  • ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ติดเชื้อในช่องคลอด  

  • มีส่วนช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อากาศ

โพรไบโอติกมีอยู่ที่ไหนบ้าง

           โพรไบโอติก นอกจากพบในร่างกายเราแล้วยังสามารถพบได้ในอาหารอย่างเช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ แตงกวาดอง มิโสะ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารเสริมโพรไบโอติกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งแบบเม็ด แบบผง เจลลี่ มาดูกันว่ามียี่ห้อไหนน่าสนใจปีนี้

โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี 2024

1. Curmin Probiotics

Curmin Probiotics

ภาพจาก : gpoplanet.com

          "เคอร์มิน โปรไบโอติกส์" โพรไบโอติกแบบเม็ดจากองค์การเภสัชกรรม โดยเป็นสูตรที่นำสมุนไพรและโพรไบโอติกมารวมกัน ประกอบด้วยผงขมิ้นชันที่มีสรรพคุณเด่นลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดอาการจุกเสียด ส่วนตัวโพรไบโอติกใช้จุลินทรีย์บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิส และจุลินทรีย์บาซิลลัส โคแอกกูแลน ที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลลำไส้ และช่วยเรื่องการขับถ่าย

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 290 บาท

2. PROBIO Khlear

Probiokhlear

ภาพจาก : CUphar Online

          PROBIO Khlear (โปรไบโอเคลียร์) โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง พัฒนาโพรไบโอติกที่ผสานนวัตกรรมพิเศษ ได้แก่ Prebiotic, Postbiotics และ Parabiotics หรือเรียกว่า Tetrabiotics ช่วยปรับสมดุลลำไส้แบบองค์รวม พร้อมทั้งคัดเลือก 7 สายพันธุ์โพรไบโอติกเฉพาะที่ดีต่อลำไส้และผิวพรรณ มาผสมวิตามินและแร่ธาตุ 5 ชนิด ได้แก่ วิตามินซีที่กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน วิตามินอีช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ วิตามินดี 3 มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการอักเสบ วิตามินบี 3 ช่วยรักษาสิว และซิงก์ ช่วยลดการอักเสบของผิว

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 1,450 บาท

3. Innobic Probiotic GD

Innobic Probiotic GD

ภาพจาก : innobicnutrition.co.th

          อินโนบิก โพรไบโอติกส์ จีดี สูตรคิดค้นร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยในแต่ละเม็ดมีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว และบาซิลลัส โคแอกกูแลน และยังมีพรีไบโอติกอย่างอินูลิน ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น  

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหารหรือหลังอาหาร

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 750 บาท

4. Zenji Probiotic

Zenji Probiotic

ภาพจาก : เซนจิ

          Zenji Probiotic เป็นสูตรซินไบโอติกเพราะผสมพรีไบโอติก อาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติกรวมอยู่ แคปซูลทำจากพืชตอบโจทย์ผู้รับประทานมังสวิรัติหรือเจ โดยใน 1 แคปซูลมีจุลินทรีย์ 22,500 ล้าน CFU บรรจุโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ เช่น แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, แล็กโทบาซิลลัส แอซิดโดฟิลัส, บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส รวมทั้งมีสารสกัดจากมะขามป้อมช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และใยอาหาร 2 ชนิด ได้แก่ ผงไซเลียม ฮัสค์ และอินูลิน

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเย็น 

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 490 บาท

5. บียอนด์ โพรไบโอติก

บียอนด์ โพรไบโอติก

ภาพจาก : Beyond Brand

          โพรไบโอติกนำเข้าจากญี่ปุ่นผสมพรีไบโอติก โดยใน 1 แคปซูลบรรจุโพรไบโอติก 7 สายพันธุ์ จำนวน 8.5 พันล้านตัว เช่น บาซิลลัส โคแอกกูแลน, แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส, แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส, บิฟิโดแบคทีเรียม อินฟานทิส และพรีไบโอติก  2 ชนิด ได้แก่ อินูลิน และฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructo-Oligosaccharides หรือ FOS) ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า (สำหรับผู้ที่ท้องผูกแนะนำให้รับประทาน 2 แคปซูลก่อนนอน)

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 300 บาท

6. VISTRA VITAL-PRO Daily Complete Probiotics

VISTRA VITAL-PRO Daily Complete Probiotics

ภาพจาก : vistra.co.th

          วิสทร้า ไวเทิล-โปร เดลี่ คอมพลีท โพรไบโอติก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส จีจี, บิฟิโดแบคทีเรียม แลคทิส, บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม และบาซิลลัส โคแอกกูแลน และผสมพรีไบโอติก ได้แก่ กัม อะราบิก (Gum Arabic)  หรือยางไม้อะคาเซีย ช่วยเพิ่มเส้นใยและแบคทีเรียโปรไบโอติกในลำไส้ บรรเทาอาการท้องร่วงและลำไส้แปรปรวน พร้อมวิตามินเอ บี 6 บี 12 วิตามินดี ที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง  

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 830 บาท

7. Glory Probiotic Veggy Plus

Glory Probiotic Veggy Plus

ภาพจาก : gloryofficialth.com

          Glory Probiotic Veggy Plus โพรไบโอติก ผสมพรีไบโอติก ได้แก่ ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม, กาแล็กโทโอลิโกแซคคาไรด์ (Galacto-Oligosaccharides หรือ GOS)  และไซเลียม ฮัสก์ หรือ เทียนเกล็ดหอย (Psyllium Husk) ช่วยเรื่องปรับสมดุลลำไส้ อีกทั้งเพิ่มวิตามินจากผักผลไม้หลายชนิด เช่น แอปเปิลไซเดอร์ เวนิกา, ลูกพรุน, สับปะรด, ดอกคาโมมายล์, ว่านหางจระเข้, ชาเขียว, สารสกัดเมล็ดกาแฟไม่คั่ว, ผลส้มแขก, มะขามป้อม ที่มีส่วนช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ควบคุมน้ำหนัก และยังมีคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่ดีต่อผิวพรรณ

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอนหรือตอนท้องว่าง

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 20 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 390 บาท

8. ชาเม่ โพรไบโอติก ช็อต โปร-100

ชาเม่ โพรไบโอติก ช็อต โปร-100

ภาพจาก : chame.co.th

          ชาเม่ โพรไบโอติก ช็อต โปร-100 ผลิตจากเกาหลี มาในรูปแบบผงชง ใน 1 ซองประกอบด้วยโพรไบโอติก 7 สายพันธุ์ จำนวน 1 แสนล้านตัว เช่น แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส, เอ็นเทอโรค็อกคัส เฟเซียม, บาซิลลัส โคแอกกูแลน, บิฟิโดแบคทีเรียม แลกทิส, แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี พร้อมทั้งมีอินูลิน เพิ่มกากใยช่วยในการขับถ่าย และยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบี 2 อีกด้วย โดยไม่มีส่วนผสมของโซเดียมและน้ำตาลทราย

  • วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 ซอง (2 กรัม) ฉีกซองผลิตภัณฑ์กรอกปากและดื่มน้ำตาม

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 6 ซอง)

  • ราคาปกติ : 1,188 บาท

วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติก

  • พิจารณาจากรูปแบบของโพรไบโอติก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบผงแป้ง แบบเม็ด และแบบเจลลี่ หากต้องการความสะดวกควรเลือกแบบผงแป้งชนิดกรอกปาก ไม่ต้องชงกับน้ำ แต่ถ้ามีนิสัยกลืนยายากอาจเลือกเป็นแบบเม็ดเคี้ยว ผงแป้งกรอกปาก หรือผงแป้งชงน้ำดื่มก็ได้

  • ตรวจสอบส่วนผสมว่ามีการระบุชื่อสายพันธุ์โพรไบโอติกด้วยหรือไม่ เพื่อเลือกตัวเชื้อจุลินทรีย์ที่เราต้องการมาเป็นส่วนประกอบ เช่น แล็กโทบาซิลลัส จะเหมาะสำหรับช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก แต่ถ้าเป็นสายพันธุ์บิฟิโดแบคทีเรียจะช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน เสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการท้องเสีย เป็นต้น

  • ดูปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ โดยปริมาณเชื้อแบคทีเรียต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) โดยเฉพาะเชื้อกลุ่มที่ไม่มีเกราะหุ้มที่จะตายจากกรดในกระเพาะอาหารก่อนถึงลำไส้ จึงต้องรับประทานในปริมาณสูงต่อวัน เช่น แล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม 

  • ควรเสริมพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก หรือเรียกว่าซินไบโอติก (Synbiotic) จะช่วยให้โพรไบโอติกทำงานได้ดีขึ้น

  • พิจารณาส่วนผสมอื่น ๆ นอกเหนือจากโพรไบโอติก เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ผงขมิ้น มะขามป้อม คอลลาเจน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติก และช่วยให้ได้รับประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น

  • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด ระบุวิธีการใช้และวิธีเก็บรักษา แจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ แจ้งสถานที่ผลิต รวมทั้งมีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.  

  • อ่านคำเตือนและข้อห้ามในการใช้ว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้นไม่เหมาะกับใคร หรือมีส่วนประกอบของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อะไรบ้าง

โพรไบโอติก ควรกินตอนไหน

โพรไบโอติกกินตอนไหนดี

          โพรไบโอติกควรกินก่อนมื้ออาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลายโดยน้ำย่อยหรือยาบางชนิด เนื่องจากช่วงก่อนอาหาร กระเพาะอาหารจะมีความเป็นกรดต่ำ โอกาสที่โพรไบโอติกจะถูกทำลายจากน้ำย่อยจึงลดลง และควรกินโพรไบโอติกกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพโพรไบโอติกได้มากขึ้น

          อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีบางยี่ห้อที่ใช้นวัตกรรมเคลือบจุลินทรีย์หลายชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลาย จึงสามารถรับประทานได้ทั้งก่อน-หลังมื้ออาหาร หรือก่อนนอน

โพรไบโอติก กินปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

           ควรรับประทานโพรไบโอติกในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 10-20 พันล้านตัวต่อวัน หรืออย่างต่ำควรได้รับ 10,000 ล้าน CFU ต่อวัน โดยสามารถเช็กจำนวนโพรไบโอติกได้จากฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นได้เลย

ข้อควรระวัง
ในการรับประทานโพรไบโอติก

  • ผู้ที่เริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการปวดท้อง ถ่ายเหลว หรือท้องอืด หากเริ่มปรับตัวได้แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เอง

  • ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดลมในท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือท้องเสียได้

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก เนื่องจากบางยี่ห้อได้ระบุว่าเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับยาเคมีบำบัด เป็นต้น ผู้ที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วยวิกฤต ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดใด ๆ มา ไม่ควรรับประทานโพรไบโอติกเสริม

           จบไปแล้วสำหรับรีวิวโพรไบโอติกที่เหมาะกับผู้ที่อยากหาซื้อมาเพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะรับประทานอาหารเสริมชนิดไหนก็ควรรับประทานอย่างเหมาะสม และปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจว่าตัวเราสามารถรับประทานได้หรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เพิ่มจุลินทรีย์ดีช่วยในการขับถ่าย พร้อมปรับสมดุลลำไส้ อัปเดตล่าสุด 4 มีนาคม 2567 เวลา 15:00:28 32,914 อ่าน
TOP