โพรไบโอติก (Probiotic) กำลังมาแรงในยุคนี้จริง ๆ เพราะมีประโยชน์หลากหลาย ทั้งยังเป็นจุลินทรีย์ดีที่หาได้ทั้งในอาหารใกล้ตัว รวมไปถึงอาหารเสริมรูปแบบต่าง ๆ อย่างวันนี้เราก็ได้หยิบโพรไบโอติกแบบเม็ด หรือโพรไบโอติกแบบแคปซูล 7 ยี่ห้อมารีวิวให้ พร้อมเกร็ดความรู้เรื่องโพรไบโอติกที่น่าสนใจตามนี้
โพรไบโอติกช่วยอะไร
ประโยชน์ดียังไงบ้าง
โพรไบโอติกหรือที่บางคนเรียกว่าโปรไบโอติก (Probiotic) มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น
- ดีต่อระบบขับถ่าย เพิ่มความคล่องตัวในการขับถ่าย
- ช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวน บรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสีย
- ช่วยปรับสมดุลการย่อยอาหารให้มีการทำงานดีขึ้น แก้ปัญหาท้องอืด
- สร้างเกราะป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้ ไม่ให้เชื้อโรคหลุดลอดออกจากทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกาย
- สร้างค่า pH ให้ลำไส้เป็นกรด เพื่อไม่ให้แบคทีเรียก่อเกิดโรคเข้ามาเจริญเติบโตในร่างกาย
- กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีออกไปผ่านการขับถ่าย
- เติมจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าสู่ร่างกาย ลดจำนวนจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นได้
- ช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ โดยมีการศึกษาพบว่า การได้รับโพรไบโอติกในปริมาณที่เพียงพอ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงอาการวิตกกังวลและอารมณ์เศร้า ๆ ได้
- ช่วยลดอาการลองโควิด
โพรไบโอติกกินตอนไหน
ปริมาณเท่าไร
โพรไบโอติกควรกินก่อนมื้ออาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลายโดยน้ำย่อยหรือยาบางชนิด เนื่องจากช่วงก่อนอาหาร กระเพาะอาหารจะมีความเป็นกรดต่ำ โอกาสที่โพรไบโอติกจะถูกทำลายจากน้ำย่อยจึงลดลง และควรกินโพรไบโอติกกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพโพรไบโอติกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ก็ควรรับประทานโพรไบโอติกในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 10-20 พันล้านตัวต่อวัน หรืออย่างต่ำควรได้รับ 10,000 ล้าน CFU ต่อวัน โดยสามารถเช็กจำนวนโพรไบโอติกได้จากฉลากสินค้า เช่น ฉลากนมเปรี้ยว ฉลากโยเกิร์ต หรือฉลากอาหารเสริมโพรไบโอติกเลยค่ะ
วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติก
ที่ควรคำนึงถึง
1. เลือกจากวิธีรับประทาน เช่น หากต้องการความสะดวกแบบรับประทานได้เลย ไม่ต้องชงกับน้ำ ก็เลือกเป็นโพรไบโอติกแบบเม็ด แบบเจลลี่ หรือแบบผงแป้งชนิดกรอกปาก เป็นต้น
2. เลือกตัวเชื้อจุลินทรีย์ที่เราต้องการมาเป็นส่วนประกอบ เช่น แล็กโทบาซิลลัส เหมาะสำหรับกระตุ้นระบบขับถ่าย ส่วนบิฟิโดแบคทีเรียม เหมาะสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน เป็นต้น
3. เลือกจากปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ โดยปริมาณเชื้อแบคทีเรียต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) โดยเฉพาะเชื้อกลุ่มที่ไม่มีเกราะหุ้มที่จะตายจากกรดในกระเพาะอาหารก่อนถึงลำไส้ เช่น แล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม จึงต้องรับประทานในปริมาณสูงต่อวัน แต่ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีเกราะหุ้มพิเศษ เช่น บาซิลลัส โคแอกกูแลน มีความหนาแน่นของเชื้อแบคทีเรีย 1,000-2,000 ล้าน CFU ก็เพียงพอ
4. ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีการเสริมใยอาหาร พรีไบโอติก หรืออาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก รวมอยู่ด้วยเสมอ หรือเรียกว่าซินไบโอติก (Synbiotic) ซึ่งจะช่วยให้โพรไบโอติกทำงานได้ดีขึ้น
5. ตรวจสอบข้อมูลบนกล่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังนี้
★ อ่านฉลากหลังกล่องว่ามีเลข อย. หรือไม่เพื่อความปลอดภัย
★ มีการระบุชื่อสายพันธุ์โพรไบโอติกหรือไม่ เพื่อกันการแอบอ้างหรือโดนหลอก
★ ระบุวิธีการใช้และวิธีเก็บรักษา
★ ตรวจสอบวันหมดอายุ และบรรจุภัณฑ์ไม่มีรอยฉีกขาดหรือรอยรั่ว เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก
โพรไบโอติกแบบเม็ด แบบแคปซูล
ดียังไง
สำหรับโพรไบโอติกแบบเม็ด หรือแบบแคปซูล ก็จะมีความสะดวกในการรับประทาน ไม่ต้องชงหรือผสมกับน้ำเปล่า หยิบมากินตามปริมาณที่แนะนำได้เลย ไม่มีกลิ่นและรสชาติที่บางคนอาจไม่ชอบ แถมยังพกพาง่าย และบางยี่ห้อก็ใส่เทคโนโลยีป้องกันโพรไบโอติกถูกน้ำย่อยทำลายมาในแคปซูลด้วย
แต่ทั้งนี้ โพรไบโอติกแบบเม็ดหรือแคปซูลอาจจะลำบากสำหรับคนที่มีนิสัยกินยายากนะคะ เพราะบางยี่ห้อก็มีขนาดเม็ดใหญ่กว่าเม็ดยาทั่วไป
โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี
1. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ Nature’s Bounty, Acidophilus
เริ่มกันที่โพรไบโอติกแบบเม็ดจากอเมริกา โดยเป็นสูตรที่เน้นโพรไบโอติกชนิด Lactobacillus Acidophilus La-14 สายพันธุ์เดียว โดยใส่มาจำนวน 100 ล้านตัวต่อเม็ด และบนฉลากผลิตภัณฑ์ยังบ่งชี้สรรพคุณช่วยดูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องท้องผูก อาหารไม่ย่อย แถมเม็ดยังเล็ก รับประทานได้ไม่ยากด้วยค่ะ
-
ขนาดบรรจุ : 120 เม็ด
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหารหรือขณะท้องว่าง
-
ราคาปกติ : 387 บาท
2. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ Swisse Ultibiotic Daily Active Probiotics
สวิสเซ อัลติไบโอติกส์ ยี่ห้อนี้จะมีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วยชนิด Bifidobacterium 2 สายพันธุ์ และชนิด Lactobacillus 1 สายพันธุ์ โดยในแต่ละเม็ดแคปซูลจะมีจุลินทรีย์ชนิดดีที่ยังมีชีวิตจำนวน 35,000 ล้านตัว ซึ่งบนฉลากผลิตภัณฑ์เคลมว่า โพรไบโอติกเหล่านี้มีประโยชน์ในด้านช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร ช่วยเพิ่มสมดุลของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในทางเดินอาหาร ส่วนตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นแคปซูลที่รับประทานไม่ยาก รีวิวต่าง ๆ ก็บอกว่ากินแล้วขับถ่ายได้ดีขึ้นด้วย แค่ราคาอาจจะสูงไปหน่อยนะคะ
-
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล
-
ราคาปกติ : 1,758 บาท
3. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ hyperbiotics PRO-15
โพรไบโอติกชนิดเม็ดจากแคนาดา ที่ใส่เทคโนโลยีเคลือบชั้นเม็ดยาแบบ Proprietary Time Release ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโพรไบโอติกถูกน้ำย่อยทำลาย และช่วยให้โพรไบโอติกค่อย ๆ ถูกดูดซึมในทางเดินอาหารอย่างต่อเนื่อง 8-10 ชั่วโมง ตรงไปยังส่วนลำไส้เล็กแบบยังแอ็คทีฟอยู่ โดยยี่ห้อนี้ก็มีทั้งโพรไบโอติกในจำนวน 5 พันล้าน CFU 15 สายพันธุ์ย่อย และยังมีพรีไบโอติกซึ่งเป็นอาหารของโพรไบโอติกมาให้ด้วย อีกทั้งเม็ดยายังมีขนาดเล็ก ง่ายต่อการกลืน
-
ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน
-
ราคาประมาณ : 344 บาท
4. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ Combif AR
คอมบิฟ เออาร์ โพรไบโอติกแบบเม็ดสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ติดอันดับ Best seller ในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นโพรไบโอติกกลุ่ม Bifidobacterium Longum หรือ BB536 มากกว่า 4 พันล้าน CFU มีสรรพคุณเด่นเรื่องช่วยระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการลำไส้แปรปรวน เหมาะกับคนที่มีปัญหาทางเดินอาหาร อีกทั้งยังเป็นโพรไบโอติกแบบแคปซูลที่มีเทคโนโลยีป้องกันกรดในกระเพาะอาหารทำลายโพรไบโอติก เมื่อกินเข้าไปแล้วจึงจะได้โพรไบโอติกที่ยังมีชีวิตอยู่
-
ขนาดบรรจุ : 10 แคปซูล
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหารเช้า
-
ราคาปกติ : 300 บาท
5. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ Earth’s Pearl Probiotic
โพรไบโอติกแบบเม็ดที่รวม 5 สายพันธุ์โพรไบโอติกตัวจี๊ดในเรื่องทางเดินอาหาร มีจุดเด่นในเรื่องเสริมภูมิคุ้มกัน และเป็นตัวเต็งที่มีผลวิจัยมากที่สุด อย่างสายพันธุ์แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส, แล็กโทบาซิลลัส แพลนทารัม, แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี, บิฟิโดแบคทีเรียม อินแฟนทิส และบิพิโดแบคทีเรียม แล็กทิส นอกจากนี้ยังมีพรีไบโอติกมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งรวม ๆ แล้วก็มีโพรไบโอติกมากถึง 4 พันล้านตัว แถมยังเป็นเม็ดอาหารเสริมจากเทคโนโลยี Bio Tract ที่ช่วยปกป้องโพรไบโอติกให้ไปถึงลำไส้เล็กได้อย่างรอดปลอดภัย เม็ดยาก็พัฒนาให้เป็นทรงกลมเล็ก ๆ คล้ายไข่มุก กลืนง่าย ใครมีปัญหาทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด ลำไส้แปรปรวน ลองเติมโพรไบโอติกให้ร่างกายดู
-
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด
-
ราคาปกติ : 650 บาท
6. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ NOW Women’s Probiotic
ฉีกแนวมาทางโพรไบโอติกแบบเม็ดที่ช่วยปรับสมดุลสุขภาพผู้หญิงกันค่ะ โดยเฉพาะความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันให้คุณแม่ตั้งครรภ์และคลอดบุตร และยังช่วยลดอาการท้องอืดเนื่องจากการมีกรดแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะ ซึ่งสาว ๆ มักจะเป็นบ่อยในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน อย่างก่อนหรือหลังหมดประจำเดือน ช่วงที่ตั้งครรภ์ หรือวัยทอง เรียกได้ว่าโพรไบโอติกยี่ห้อนี้คัดแต่จุลินทรีย์ชนิดดี 20,000 ล้านตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสาว ๆ ทุกช่วงวัย ส่วนตัวแคปซูลก็ทำมาจากพืช คนที่กินมังสวิรัติหรือกินเจก็กินได้ค่ะ
-
ขนาดบรรจุ : 50 แคปซูล
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล
-
ราคาปกติ : 650 บาท
7. โพรไบโอติกแบบเม็ด ยี่ห้อ IMMOR Probiotic
สำหรับคนที่อยากกินโพรไบโอติกเม็ดเดียวแล้วได้จุลินทรีย์ชนิดดีหลาย ๆ สายพันธุ์ ยี่ห้อ IMMOR ใส่มาให้ 7 สายพันธุ์กันไปเลย ได้แก่ Bacillus Coagulans, Lactobacillus Rhamnosus, Lactobacillus Acidophilus, Lactobacillus casei subsp, Bifidobacterium Adolescentis, Bifidobacterium Infantis และสายพันธุ์ Bifidobacterium Lactis พร้อมด้วยพรีไบโอติกอย่างอินูลิน หรือใยอาหารชนิดละลายน้ำชนิดฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ จึงช่วยทั้งเรื่องการขับถ่าย ปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้
-
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า 30-60 นาที
-
ราคาปกติ : 450 บาท
บทความที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก
★ โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี ปี 2023 เสริมความปังสุขภาพด้วยจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย
★ โพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยคนท้องผูกให้ถ่ายคล่องขึ้น
★ กินโพรไบโอติกดีไหม ไขข้อสงสัยในมุมแพทย์เฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ
★ 10 อาหารที่มีโพรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน กินอะไรดี