กล้ามหน้าท้องเลข 11 สร้างไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินที่จะทำ ใครอยากมีกล้ามหน้าท้องสวย ๆ ลองอ่านรีวิวสร้างกล้ามท้องเลข 11 ในแบบฉบับผู้หญิงสายชิล หน้าท้องสวย ๆ ใครก็อยากมี แต่การจะสร้างกล้ามหน้าท้องให้ได้ดั่งใจ หลายคนบอกว่ายากเย็นแสนเข็ญ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ถ้าอยากมีกล้ามหน้าท้องสวย ๆ เรามาลองดูสักตั้งไหม เหมือนคุณสมาชิกหมายเลข 4084617 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มารีวิววิธีสร้างกล้ามหน้าท้องเลข 11 ให้เราแบบละเอียด ทั้งการกินอาหาร ตารางสร้างกล้ามท้องที่เธอทำเป็นประจำ บอกเลยว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาก ๆ ภัทรค้นพบความจริง 3 ข้อที่ภัทรว่ามันช่วยได้มาก 1. พยายามสร้างกล้ามเนื้อ ยิ่งมีกล้ามเนื้อระบบเผาผลาญยิ่งดี (กล้ามเนื้อมาจากการกินโปรตีนถึงและเล่นเวต) 2. พยายามเป็นคนไลฟ์สไตล์ Active Lifestyle ขยับตัวเยอะ กินแล้วไปออกกำลังกาย 3. พยายามกินของที่ดี เพราะว่าของไม่ได้ให้แค่แคลอรี มักจะทำให้อิ่มง่ายกว่า มีประโยชน์มากกว่าแต่แคลอรีน้อยกว่า ภัทรใช้เวลา 5-6 เดือนในการเริ่มมี แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องรู้เอาไว้เลยว่า แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นและความเข้มข้นของโปรแกรม (ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราอยากไปเชียงใหม่ เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ กับเริ่มต้นที่ยะลาก็ใช้เวลาไม่เท่ากันแน่ บอกไม่ได้ค่ะว่าเท่าไหร่แบบแน่นอน สำหรับของภัทรนะคะ จุดที่ภัทรเริ่มพอใจในรูปร่างตัวเองก็เมื่อ 6-7 เดือนขึ้นไป เราจะเห็น 11 ได้ก็ต่อเมื่อเรามีสององค์ประกอบด้วยกัน นั่นคือ 1. เราต้องมีกล้ามเนื้อ (แต่เอาจริงเราก็มีอยู่แล้วแหละ แต่ว่าถ้ามีมากขึ้นมันก็จะชัดขึ้น) 2. เราต้องลดไขมัน คือที่มันมองไม่เห็น เห็นไม่ชัดก็เพราะว่ามีชั้นไขมันปกคลุมอยู่ ถ้าเอาออกไปได้ ก็มองเห็น สิ่งที่ต้องทำมีอยู่สองอย่าง คือคุมอาหารและออกกำลังกาย ต้องทำทั้งสองอย่างนะคะ สำคัญทั้งคู่ ! พฤติกรรมการกินที่ผิด ๆ ที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ แต่กล้ามเนื้อไม่มาสักที กินน้อยไป ! กินโปรตีนไม่ถึง ! งดไขมัน งดแป้ง แบบผอมได้แต่เสียสุขภาพ - สำหรับเรื่องแคลอรี ต้องเล่าก่อนว่าภัทรต้องการลดไขมัน ดังนั้นต้องการแคลอรีแบบเรียกกันว่า “Calorie Deficit” คือการให้น้อยกว่าที่ใช้ (เข้าไปคำนวณ TDEE/BMR ของตัวเองในเว็บนะคะ เค้าจะให้กรอกข้อมูลบลา ๆ ค่านั้นออกมา แคลอรีที่เราควรกิน กินให้น้อยกว่า TDEE ประมาณ 10% ซึ่งของภัทรก็ประมาณ 150-200 Kcal ซึ่งภัทรมีคำเตือนอย่างนึงคือ อย่าพยายามตัดแคลมากเกิน บางคนกินต่ำว่าค่า BMR ซึ่งอันนั้นจะส่งผลเสียตามมา นี่คือจุดสำคัญเลยจากผู้หญิงที่จะมีร่อง 11 จะกลายเป็น Skinny Fat (ใครที่ยังไม่รู้จักค่า TDEE/BMR ภัทรแนะนำเข้าไปฟังยูทูบได้เลยค่า การกินแบบให้น้อยกว่าใช้ หรือที่เรียกว่า Calorie Deficit” เนี่ยก็เป็นสิ่งที่จะยืนยันได้อย่างนึงว่าเราจะไม่ตัวใหญ่ขึ้น ลองจินตนาการง่าย ๆ นะคะ ตัวเราจะใหญ่ขึ้นแปลว่าเราจะสร้างบางอย่างขึ้นมา การสร้างก็ต้องการอาหารที่เยอะมาก ดังนั้นเราต้องกินมากกว่าที่ใช้จึงจะมีพลังงานเหลือเอาไปสร้างให้เราตัวใหญ่ (ที่เห็นพี่ผู้หญิงบางคนเค้าตัวใหญ่ เนื่องจากว่าเค้ากินหนักมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ) - สำหรับเรื่องสารอาหาร อันนี้ก็เป็นประเด็นที่สำคัญมาก เพราะเป็นตัวกำหนดรูปร่างเราเลยว่า จะผอมแห้ง หรือว่ามีร่อง 11 * โปรตีน 1.6 g./น้ำหนักตัว (กินน้อยไปจะเสียมวลกล้ามเนื้อ แล้วมันจะไม่เห็นร่อง 11) * ไขมัน 0.8-1g./น้ำหนักตัว (ผู้หญิงถ้าทานไขมันน้อยไปอาจเกิดปัญหา เช่น ประจำเดือนไม่มา) * คาร์บ ก็คือที่เหลือจากนี้ กินให้ถึงแคลอรีที่เราวางแผนไว้นะ ภัทรมีทริกในการกินคาร์บด้วยน้า วันไหนภัทรออกกำลังกาย ภัทรจะกินคาร์บเยอะเป็นพิเศษ (วันนั้นอาจจะเป็นวันที่เราหลุดกินชานมไข่มุก วันที่เราไปสังสรรค์กับเพื่อนมาแบบนี้ก็ได้) เนื่องจากกินแล้วเอาไปใช้เราจะไม่อ้วน เราจะมีแรงออกกำลังกายได้ ร่างกายก็ได้พัฒนา วันไหนวันพัก ภัทรก็ลดคาร์บลงหน่อยให้มันเหมาะสม ภัทรว่ามันเป็นวิธีที่แฮปปี้นะได้กินในที่ชอบไม่ตึงไปและไม่หย่อน ภัทรออกกำลังกายทั้งสามแบบค่ะ 1. Cardio 150-200 นาทีต่อสัปดาห์ ก็เน้นวิ่งค่ะ 2. Circuit Training ตามยูทูบ ซึ่งคลิปที่ภัทรเล่นประจำคือคลิปประเภทพวก Full Body เนื่องจากว่าเหนื่อยดีและก็เล่นทีได้ทุกส่วน ช่วยให้จัดตารางง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คลิปนี้ค่ะ ง่ายขึ้นมาหน่อยก็อาจจะเป็นอันนี้ Keyword คือ Full Body/Total Body ค่ะ 3. Weight Training ไปยิมภัทรก็จะเล่นท่าซ้ำ ๆ คือเราไม่จำเป็นต้องเล่นท่าเยอะ ภัทรเน้นท่า Compound Movement เนื่องจากได้ฝึกหลายอย่างในเวลาเดียว ได้ใช้กล้ามเนื้อและข้อต่อในเวลาเดียว สามารถใช้น้ำหนักได้เยอะกว่า ซึ่งแปลว่าเพิ่มความแข็งแรงได้ง่ายกว่า รวมไปถึงฝึกร่างกายในส่วนของระบบประสาท การจัดตารางเวตโดยคร่าว ๆ ประมาณนี้ค่ะ - เลือกน้ำหนักที่เรายกได้ประมาณ 12-15 ครั้งแล้วหมดแรง - เล่นครั้งละ 12-15 ครั้งต่อเซต - ท่าละ 3 เซต - พักระหว่างเซต 1-2 นาที - เล่นวันละประมาณ 8 ท่า (อาจจะไม่ต้องเป็นท่า Compound ทั้งหมดก็ได้ค่ะ แต่ว่าก็ให้มีท่าพวกนี้ซะส่วนใหญ่ จะได้ไม่เหนื่อยมาก สลับกับท่าเล่นท้องง่าย ๆ ก็ได้) วันพักก็สำคัญนะคะ ควรจะออกกำลังกายและมีวันพักอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ แล้วเอาเวลาที่ไหนไปคาร์ดิโอ ? ส่วนใหญ่ภัทรจะคาร์ดิโอต่อจากเล่นเวตอีกประมาณครึ่งชั่วโมง หรือคาร์ดิโอตอนเช้าด้วยการออกกำลังกายตามคลิปไม่เสียเวลามาก 15-20 นาทีแค่นั้น อ่านมาจนจบคือเก่งมากเลยนะคะ 5555 เพราะเขียนเยอะมาก ภัทรพยายามเขียนจากประสบการณ์และความรู้ที่เรียนมาเอามาแชร์ให้นะคะ ** ภัทรไม่ได้เรียนจบสายตรงมากแต่ไปเรียนมาเพิ่ม - Fit Junctions Personal Trainer Certification (FJPT) - Weight loss specialist (FIT) - Women’s Fitness Essentials (FIT)
แสดงความคิดเห็น