ทำความรู้จัก มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ Cardiac Rhabdomyosarcoma ที่คร่าชีวิตอ๋อม อรรคพันธ์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผย พบน้อย รักษายาก - พร้อมอาการที่แสดงถึงจุดเสี่ยง การเสียชีวิตของ อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ ในวัย 39 ปี ถือเป็นข่าวช็อกเพราะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนยังหนุ่ม แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ โรคที่อ๋อมป่วย เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก นั่นคือ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ วันที่ 22 กันยายน 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า ร.อ. นพ.สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่า โรคมะเร็งหัวใจ หรือมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ พบได้น้อยมาก ทั้งสถิติโลกและประเทศไทย อัตราการเกิดโรคอยู่ที่ 0.1 ต่อประชากร 1 ล้านคน โดยในประเทศไทยประมาณการการพบผู้ป่วย 5-7 คนต่อปี ช่วงอายุที่พบบ่อยคือ อายุ 30–50 ปี ส่วนอายุเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 44 ปี และส่วนใหญ่จะพบในผู้ชาย ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า การเกิดโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีการค้นพบพันธุกรรมบางอย่างที่สัมพันธ์กันกับการเกิดโรคนี้ แปลว่า มีความผิดปกติตั้งแต่เกิด ถึงเกิดโรคนี้ขึ้นมา แต่ไม่ใช่ทุกคน ส่วนความเสี่ยงอื่น ๆ ก็เป็นความเสี่ยงทั่วไปที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ชัดเจน สำหรับอาการของโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ระยะแรก ๆ จะไม่ค่อยมีอาการ จะมีอาการเมื่อโรครุนแรงแล้ว และพอรุนแรงก็มักจะไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาแบบประคับประคองมากกว่า ซึ่งในการรักษาก็จะคล้ายกับมะเร็งชนิดอื่น แต่จะยากกว่า เพราะหัวใจเป็นอวัยวะสำคัญ การผ่าตัดออกมาก็ยาก อีกทั้งกล้ามเนื้อหัวใจเป็นเซลล์ที่เติบโตแล้ว ไม่ค่อยแบ่งตัวแล้ว จึงไม่ค่อยไวต่อยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสง ทั้งนี้ กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคนี้จะเสียชีวิตภายในประมาณ 6 เดือน เพราะส่วนมากเป็นเยอะแล้ว ส่วนคนที่ให้ยาเคมีบำบัดได้ผลดีก็อาจจะอยู่ได้นานขึ้น และหากใครสามารถผ่าตัดได้ก็จะอยู่ได้นานขึ้นอีกหน่อย นพ.ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ แพทย์เวชปฏิบัติ เจ้าของเพจดัง หมอโอ๊ค DoctorSixpack ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าว เริ่มจากการเล่าอาการป่วยของอ๋อมว่า พบก้อนเนื้อบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ขนาดยาว 12 เซนติเมตร ทำคีโมไปแล้ว 5-6 ครั้ง อีกทั้งมะเร็งยังลามไปที่ปอด 2 จุด แม้จะผ่าตัดแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ หลังรักษาตัวมานาน 3 ปี อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตคือโรคอะไรแบบฟันธง แต่หมอสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นโรค Cardiac rhabdomyosarcoma และอีกโรคที่อาจเป็นได้ ก็คือ cardiac angiosarcoma โรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ Cardiac Rhabdomyosarcoma แม้จะมีโอกาสพบได้น้อย แต่อันตรายถึงชีวิตมาก โรคนี้สามารถเกิดได้ในทุกวัย แต่มักพบในเด็กและวัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่อาจมีปัจจัยบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงได้ 5 ข้อ ดังนี้ 1. พันธุกรรม 2. ความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น กลุ่มอาการ Li-Fraumeni 3. การได้รับรังสีบริเวณทรวงอก อาจเพิ่มความเสี่ยงในระยะยาว 4. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจเพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งหลายชนิด รวมถึง Cardiac Rhabdomyosarcoma 5. สารพิษบางชนิด การสัมผัสสารเคมีบางประเภทอาจเพิ่มความเสี่ยง 1. เหนื่อยง่ายผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อออกแรงเพียงเล็กน้อย 2. หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือรู้สึกใจสั่น 3. หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลานอนราบ 4. อาการบวมที่ขาหรือข้อเท้า 5. เจ็บหน้าอกหรือรู้สึกแน่นหน้าอก 6. อาการคล้ายเป็นลม หรือหมดสติ ถ้าหากมีข้อสงสัยว่าเสี่ยงจะเป็นมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ จะมีการวินิจฉัยด้วยกัน 6 วิธี โดยจะเน้นตรวจไปที่หัวใจ ดังนี้ 1. ตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงการฟังเสียงหัวใจ 2. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ EKG) 3. การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) 4. การตรวจด้วยภาพถ่ายรังสีคอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) 5. การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา โรคนี้จะใช้วิธีการผสมผสานกันหลายข้อ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิต โดยสถิติชี้ชัดว่า มีผู้ป่วยรอดชีวิตเกิน 3 ปีได้ถึง 60% ดังนี้ 1. การผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกออก (หากทำได้) 2. เคมีบำบัด เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง 3. รังสีรักษา เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง 4. การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted therapy) 5. การปลูกถ่ายหัวใจ ในกรณีที่จำเป็น มีทั้งหมด 5 ข้อ แม้จะไม่ได้การันตีว่าจะช่วยได้ 100% ก็ตาม ดังนี้ 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ 2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีอันตรายโดยไม่จำเป็น 3. ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะการตรวจหัวใจ 4. สังเกตอาการผิดปกติและพบแพทย์ทันทีหากมีข้อสงสัย 5. หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจคัดกรองเพิ่มเติม TikTok @dr.aonchatpon ของหมออ้น แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมพลาสติก มีการเล่าถึงสาเหตุที่มันเป็นโรคเกิดขึ้นได้ยากว่า หัวใจเป็นอวัยวะที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน แต่มะเร็งส่วนใหญ่มักเกิดในอวัยวะที่เป็นท่อ เยื่อบุ มีอะไรที่เป็นพื้นผิว เช่น เต้านม ลำไส้ ผิวหนัง เพราะมันมีการแบ่งตัวตลอดเวลา กล้ามเนื้อหัวใจ จะไม่ค่อยแบ่งตัว เป็นกล้ามเนื้อสำคัญ ฉะนั้นโอกาสที่จะพบมะเร็งตรงจุดนี้ยากมาก อัตราการพบ 1 ใน 5 หมื่น จากทั้งโลก
แสดงความคิดเห็น