นอนตะแคงข้างไหนดี ไม่ว่าจะนอนตะแคงขวา หรือนอนตะแคงซ้าย ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน สำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับสุขภาพตัวเอง ท่านอนตะแคงเป็นท่านอนประจำของหลายคนเพราะรู้สึกถนัด และการนอนท่านี้ก็ช่วยให้หลับสบายที่สุดในความรู้สึกของตัวเอง ทว่าก็มีคำเตือนให้เห็นเรื่อย ๆ ว่านอนตะแคงซ้ายจะทับหัวใจบ้าง หรือนอนตะแคงขวาก็มีข้อเสีย ดังนั้น วันนี้เรามาเคลียร์ให้ชัดกันดีกว่า นอนตะแคงข้างไหนดี โดยเฉพาะคนท้อง หรือเป็นกรดไหลย้อน แล้วแต่ละข้างมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ใครที่ชอบนอนตะแคงขวา ลองมาดูข้อดี-ข้อเสียของท่านี้กัน ไม่กดทับหัวใจ ช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างปกติ ช่วยส่งเสริมการย่อยอาหาร เพราะอาหารจากกระเพาะอาหารที่อยู่ทางด้ายซ้ายจะไหลลงสู่ลำไส้เล็กได้ดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ แต่ต้องนอนบนหมอนที่สูงพอให้ศีรษะกับลำตัวอยู่ระดับเดียวกัน และมีหมอนข้างพาดขา เพื่อจัดกระดูกสันหลังส่วนคอให้อยู่ระดับเดียวกับกระดูกสันหลัง การนอนตะแคงทั้งข้างขวาและข้างซ้าย ช่วยลดอาการนอนกรนจากภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจได้ การนอนตะแคงขวาเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณไหล่ขวา สะโพกขวา และหลังส่วนล่างได้ เนื่องจากถูกแรงกดทับ อาจทำให้ปวดคอหากเลือกหมอนหนุนไม่เหมาะสม อาจกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนจากกรดในกระเพาะอาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาได้ง่าย ไม่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะแม่ท้อง 6 เดือนขึ้นไป เพราะทารกในครรภ์และมดลูกอาจไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง และส่งผลต่อตับซึ่งอยู่ด้านขวาของร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ควรนอนตะแคงขวา เจ็บไหล่ ตึงไหล่ หรือเจ็บสะโพกข้างขวาได้ ท่านี้จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดไหล่ข้างขวา อาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าฝั่งขวา เพราะใบหน้ากดทับกับหมอนเป็นเวลานาน ถ้าถนัดนอนตะแคงซ้าย มาดูกันหน่อยว่าท่านี้ดีไหม หรือมีข้อเสียยังไงบ้าง ลดอาการนอนกรน เพราะนอนตะแคงซ้ายช่วยเปิดทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ ลดอาการตึงและถ่วงท้อง และช่วยป้องกันไม่ให้มดลูกไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ส่งผลดีต่อระบบหมุนเวียนเลือดด้วย ช่วยลดอาการปวดหลังได้ หากนอนบนหมอนที่เหมาะสม และมีหมอนข้างช่วยในการจัดระเบียบร่างกาย การนอนตะแคงซ้ายจะทำให้น้ำหนักตัวกดทับหัวใจ ซึ่งอาจส่งผลให้หัวใจทำงานได้ไม่สะดวกในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ เสี่ยงจะเกิดอาการจุกเสียดในท้องและบริเวณลิ้นปี่ โดยเฉพาะหากเข้านอนตอนที่ร่างกายยังย่อยอาหารไม่หมด การนอนท่านี้จะทำให้มีอาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารได้ อาจทำให้ปวดคอและหลังได้ หากนอนบนหมอนที่ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการเจ็บไหล่ฝั่งซ้าย เพราะจะยิ่งกดทับให้เจ็บยิ่งขึ้น ใบหน้าที่กดทับและเสียดสีกับหมอนอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองและเกิดสิวหรือริ้วรอยบริเวณแก้มและคางฝั่งซ้าย อย่างที่เห็นว่าการนอนตะแคงก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเรามีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง ดังนั้น มาเช็กกันอีกทีว่านอนตะแคงข้างไหนดีกับใครบ้าง คนท้องนอนตะแคงซ้ายดีที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังมดลูกและทารกในครรภ์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้มดลูกกดทับตับ เส้นเลือดดำใหญ่ ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่นำเลือดจากส่วนล่างของร่างกายกลับสู่หัวใจ แต่หากสงสัยว่า คนท้องนอนตะแคงขวาได้ไหม ก็ต้องตอบว่า คนท้องสามารถนอนตะแคงขวาได้เป็นบางครั้งบางคราว เพื่อลดอาการปวดเมื่อยจากการนอนตะแคงซ้าย ทั้งนี้ อาจใช้หมอนรองใต้ท้องและระหว่างขาจะช่วยให้สบายตัวมากขึ้น กรดไหลย้อนนอนตะแคงข้างไหน ? แนะนำให้นอนตะแคงซ้าย เพราะกระเพาะอาหารอยู่ทางด้านซ้าย เมื่อนอนตะแคงซ้าย กรดในกระเพาะจะอยู่ต่ำกว่าหลอดอาหาร ลดโอกาสเกิดกรดไหลย้อน ในขณะที่การนอนตะแคงขวา โอกาสที่กรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารย่อมมีมากกว่าการนอนตะแคงซ้าย อย่างไรก็ตาม นอกจากการนอนตะแคงซ้ายจะช่วยป้องกันกรดไหลย้อนได้แล้ว จุดสำคัญคือ ไม่ควรนอนหลังกินอาหารอิ่มใหม่ ๆ หากต้องการนอนให้ใช้วิธีเอนหลังแทน หรือรอสัก 3 ชั่วโมงขึ้นไปจึงค่อยนอน และควรหนุนหมอนให้สูงขึ้นสัก 6-8 นิ้ว หรือยกส่วนบนของเตียงขึ้น เพื่อให้หลอดอาหารอยู่สูงกว่ากระเพาะอาหาร ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ยากขึ้น คนนอนกรนสามารถนอนตะแคงซ้ายหรือตะแคงขวาก็ได้แล้วแต่ถนัดเลย เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อในลำคอและลิ้นหย่อนลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น และลดอาการนอนกรนได้ แต่ไม่ควรนอนหงาย ซึ่งจะทำให้ลิ้นหย่อนลงไปด้านหลังแล้วทางเดินหายใจจะแคบลง ส่งผลให้มีอาการกรนมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คนที่ปวดท้องประจำเดือนสามารถนอนตะแคงข้างใดก็ได้ และควรงอเข่าทั้ง 2 ข้างด้วย เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและหลังผ่อนคลาย ลดการกดทับของมดลูก ลดอาการเกร็งบริเวณท้องน้อยที่เป็นสาเหตุของอาการปวดประจำเดือน นอกจากนี้ยังสามารถใช้หมอนรองใต้ท้องหรือระหว่างขาร่วมด้วยเพื่อช่วยให้สบายตัวมากขึ้นอย่างไรก็ตาม การนอนตะแคงไม่ว่าจะข้างไหน ควรต้องจัดระเบียบร่างกายให้เหมาะสมด้วยนะคะ เพื่อให้นอนหลับอย่างสบาย ไม่ว่าจะตะแคงซ้ายหรือตะแคงขวา ควรทำตามนี้ เลือกหมอนที่มีความสูงพอดีกับช่วงคอ เพื่อให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ใช้หมอนข้างรองระหว่างขา เพื่อลดแรงกดทับบริเวณสะโพก และเป็นการจัดกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จัดท่าทางให้ลำตัวอยู่ในแนวตรง ไม่บิดงอ เลือกที่นอนที่ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป เลือกใช้ปลอกหมอนที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อลดการสะสมของความชื้นและแบคทีเรีย หรือใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าซาติน ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิว ช่วยลดการเสียดสี ป้องกันการเกิดสิวและริ้วรอยบนใบหน้า สามารถเปลี่ยนท่านอนสลับไป-มาได้บ้างตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยเฉพาะฝั่งใดฝั่งหนึ่ง การนอนตะแคงเป็นท่านอนที่ดีต่อสุขภาพ แต่ควรเลือกนอนตะแคงข้างที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพของตนเอง และจัดท่าทางให้ถูกต้อง เพื่อให้การนอนหลับมีคุณภาพและหลีกเลี่ยงอาการปวดเมื่อยหลังตื่นนอนด้วย 4 ท่านอนแก้ปวดหลัง ไม่อยากหลังพังรีบเปลี่ยนท่านอนด่วน ! นอนถูกท่า หลับสบาย หายปวดเมื่อย นอนถูกท่า บรรเทาอาการป่วยได้ ไม่ลองไม่รู้ ! นอนท่าไหนไม่ให้ไอ อยากบรรเทาอาการไอตอนนอน แค่ลองเปลี่ยนท่า 3 ท่านอนแก้ปวดท้องประจำเดือน ช่วยมนุษย์เมนส์หลับเต็มตื่นโดยไม่ทรมาน ขอบคุณข้อมูลจาก : ชัวร์ก่อนแชร์, โรงพยาบาลวิมุต, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, healthline.com, sleepfoundation.org
แสดงความคิดเห็น