มะยงชิด ผลไม้รสชาติหวานอมเปรี้ยวที่หลายคนชื่นชอบในช่วงหน้าร้อน เพราะสามารถกินแบบสด ๆ ก็อร่อยฉ่ำชื่นใจ หรือจะนำไปทำเมนูมะยงชิดเพื่อสุขภาพก็ได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการรับประทานเช่นกัน มะยงชิด ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Marian Plum เป็นผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมะปราง หลายคนจึงมักสับสนเพราะมีลักษณะคล้ายกัน ทว่ามะยงชิดจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่น และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวกว่า อีกทั้งปัจจุบันยังมีการนำมะยงชิดมาปรุงเป็นเมนูหลากหลาย โดยเฉพาะเมนูมะยงชิดลอยแก้วในหน้าร้อน แต่ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับมะยงชิดตลอดทั้งฤดู อยากให้เช็กกันหน่อยว่ามะยงชิด กี่แคลอรี กินแล้วอ้วนไหม และใครที่ควรระวัง ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ระบุไว้ว่า มะยงชิด 3-4 ผล (น้ำหนักประมาณ 100 กรัม) จะให้พลังงานประมาณ 62 กิโลแคลอรี ดังนั้น ถ้ากะคร่าว ๆ ก็จะเท่ากับว่า มะยงชิด 1 ลูก จะให้พลังงานราว ๆ 15-20 กิโลแคลอรี ถือว่าแคลไม่เยอะเท่าไร แต่ปริมาณน้ำตาลนี่แหละที่ควรต้องกังวล มะยงชิด 3 ผล แม้จะให้พลังงานแคลอรีไม่เท่าไร แต่ปริมาณน้ำตาลในมะยงชิดมีประมาณ 11.7-13 กรัม หรือเทียบเท่ากับน้ำตาลทราย 2.9-3.3 ช้อนชาเลยทีเดียว จัดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงพอตัว การรับประทานมะยงชิดในปริมาณที่เหมาะสมคือ ไม่เกินวันละ 3-4 ผล คงไม่ทำให้อ้วนขึ้นได้เท่าไร แต่ถ้ารับประทานมะยงชิดในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้ได้รับปริมาณน้ำตาลจากมะยงชิดมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้หากรับประทานมะยงชิดกับเครื่องจิ้มรสหวาน เช่น พริกเกลือ น้ำปลาหวาน หรือกินเมนูมะยงชิดลอยแก้ว แช่อิ่ม มะยงชิดสมูทตี้ที่ใส่ไซรัปเพิ่มเติม หรือในกลุ่มเบเกอรี่มะยงชิด อาจทำให้ได้รับพลังงานและน้ำตาลเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าถามว่า มะยงชิด กินได้วันละกี่ลูก แนะนำว่าปริมาณที่เหมาะสมต่อวันคือประมาณ 3-4 ผล ซึ่งให้พลังงานประมาณ 62 กิโลแคลอรี และมีน้ำตาลประมาณ 13 กรัม อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพลังงานที่แต่ละคนต้องการในแต่ละวัน รวมทั้งปัญหาสุขภาพโดยรวมด้วย เราสามารถกินมะยงชิดทั้งเปลือกได้ และจะได้รสเปรี้ยวนิด ๆ จากเปลือกมะยงชิดด้วย แต่หากอยากกินทั้งเปลือกจริง ๆ แนะนำให้เลือกกินมะยงชิดที่ปลูกแบบออร์แกนิก ซึ่งจะปลอดภัยจากสารเคมีและยาฆ่าแมลง จากนั้นนำมะยงชิดมาล้างน้ำหลาย ๆ รอบจนมั่นใจว่าสะอาดจริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งตกค้าง และควรฝานส่วนขั้วผลที่ติดกับก้านทิ้งไปก่อนกิน เพื่อหลีกเลี่ยงยางมะยงชิดที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่คนจะนิยมกินมะยงชิดแบบปอกเปลือกกันมากกว่า เพราะจะได้รสหวานจากเนื้อมะยงชิดโดยไม่ต้องมาเคี้ยวเปลือก อีกทั้งเนื้อมะยงชิดจะมีความนุ่ม เคี้ยวง่าย กลืนง่าย หรือบางคนก็นิยมซื้อมะยงชิดปอกเปลือกคว้านเมล็ดแบบสำเร็จรูปมารับประทานกันเลย สะดวกสุด เนื่องจากมะยงชิดเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลพอสมควร ดังนั้นจึงมีข้อควรระวังกับคนบางกลุ่ม เช่น คนที่เป็นโรคเบาหวานจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเสมอ จึงควรจำกัดปริมาณการรับประทานมะยงชิด และหลีกเลี่ยงการรับประทานเมนูมะยงชิดที่มีส่วนผสมอื่น ๆ ร่วมด้วย ทั้งเมนูมะยงชิดปั่น มะยงชิดลอยแก้ว ยำมะยงชิด รวมไปถึงเค้กและพายมะยงชิด มะยงชิดเป็นผลไม้ที่มียาง ซึ่งอาจติดมากับขั้วผลและอาจก่อความระคายเคืองแก่ผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังไว้ก่อน มะยงชิดมีโพแทสเซียมสูง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรระมัดระวังในการกินมะยงชิด หรือทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ทั้งนี้ หากใครกำลังอยากลดน้ำหนักก็ควรรับประทานมะยงชิดแต่พอดี พร้อมกับหลีกเลี่ยงเมนูมะยงชิดที่มีปริมาณน้ำตาลและโซเดียมจากเครื่องปรุงต่าง ๆ เพิ่มเติม ที่สำคัญอย่าลืมควบคุมอาหารอื่น ๆ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำร่วมด้วย มะยงชิด สรรพคุณไม่น้อยหน้า เป็นผลไม้ทรงคุณค่าในฤดูร้อน วิธีคว้านมะยงชิด เคล็ดลับปอกมะยงชิดให้เนื้อเนียนสวย ทำง่ายฉบับมืออาชีพ สูตรมะยงชิดปั่น รสเปรี้ยวหวานจากผลไม้ตามฤดูกาล มะยงชิดลอยแก้ว ขนมดับร้อนฉ่ำ ๆ ถ้วยเดียวไม่พอ มะยงชิดชีสพาย ทำเองได้ง่าย ๆ เปรี้ยวหวานละมุนใจ ขอบคุณข้อมูลจาก : กองโภชนาการ กรมอนามัย, สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.)