ผักติ้ว กับ 5 คุณประโยชน์และการรักษามะเร็ง (emaginfo)
ผักสีสวย แดง ๆ ส้ม ๆ เขียวอ่อน ใครจะคิดว่าจะมีคุณประโยชน์เหลือหลาย มากกว่าแค่นำมาทานเป็นผักเครื่องเคียงอาหาร อย่างผักใบสวยชนิดหนึ่ง ที่คนใต้นิยมเอามาทานกับขนมจีน ซึ่งหรอยจังหู้มาก ๆ ที่เรียกว่า "ผักติ้ว" นี้ก็สารพัดประโยชน์ แถมยังมีสรรพคุณพิเศษบางอย่างอีกต่างหาก
โรคภัยไข้เจ็บเดี๋ยวนี้มีมากขึ้นแต่ก่อน แล้วยิ่งเป็นโรคร้ายด้วยแล้ว การรักษาในบางทีก็ยากขึ้น เพราะเชื้อโรคเดี๋ยวนี้ร้ายแรงขึ้นเยอะ แต่เชื่อไหมว่าพืชผักพื้นบ้านที่ชื่อว่า ผักติ้ว นี้จะช่วยรักษาโรคร้ายบางโรคได้ด้วย
รู้จัก ผักติ้ว หรือไม่
ผักติ้ว เป็นไม้ยืนต้น สูง 8-15 เมตร ลำต้นมียางสีเหลือง ใบรูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนเกือบมน ผิวใบมีขนทั้ง 2 ด้าน จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า "ติ้วขน" ผักติ้วจะมียอดอ่อนเป็นสีแดง รสฝาดปนเปรี้ยว เมื่อใบแก่เป็นสีเขียวสด
ส่วนดอกเป็นสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่งก้านเหนือรอยแผลใบ และก้มีผลกลม ๆ เมื่อผลแก่ แตกอ้า ภายในมีเมล็ดรูปไข่ หรือรูปกระสวย พบขึ้นตามป่าธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ผักติ้ว บางคนก็เรียกว่า ผักแต้ว แล้วก็มีอีกหลาย ๆ ชื่อ เช่น ติ้วขน ติ้วส้ม แต้วหอม หรือแต้วหิน คนส่วนใหญ่นิยมจะนำใบนำมากินเป็นผัก ให้รสเปรี้ยว ปนฝาด ทั้งกินกับพริก ลาบ หรือแหนมเนือง ใส่แดงเลียง แกงส้ม หรือต้มยำ
คุณประโยชน์ของผักติ้วนั้นก็เหลือหลาย ทั้งเป็นอาหาร เป็นวัสดุทำอุปกรณ์ เป็นยาดี และที่สำคัญมีคนบอกว่ารักษามะเร็งได้ด้วย แต่จะจริงหรือไม่ เรามีคำตอบ
5 คุณประโยชน์จากผักติ้ว
อย่างที่บอกไปว่าผักติ้วนั้นมีคุณประโยชน์สารพัด ทีนี้เรามาดูกันสิว่า จะมีอะไรกันบ้าง
1. ในผักติ้วหนัก 100 กรัม จะมีเส้นใยอาหารอยู่ 1.4 กรัมช่วยป้องกันอาการท้องผูก มีแคลเซียม 67 มิลลิกรัม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน มีไนอะซิน 3.1 มิลลิกรัม มีบทบาทต่อกระบวนการเผาผลาญสารอาหารและการทำงานของระบบประสาท วิตามินซี 56 มิลลิกรัม ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กและช่วยให้แผลหายเร็ว ผักติ้วยังมีเบตาแคโรทีนและวิตามินเออยู่สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและบำรุงสายตา
2. ราก ผสมกับหัวแห้วหมู และรากปลาไหลเผือกต้มน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด ประโยชน์ทางอาหาร ส่วนสรรพคุณทางยาไทยนั้น ใช้รากผสมกับหัวแห้วหมูและรากปลาไหลเผือก ต้มเอาเฉพาะน้ำ ดื่มวันละ 3 มื้อ เพื่อขับปัสสาวะและแก้ปัสสาวะขัด รากและใบต้มน้ำดื่มแก้ปวดท้อง เปลือกต้นและใบตำผสมน้ำมันมะพร้าวทาแก้โรคผิวหนัง แม้แต่น้ำยางจากเปลือกต้นก็ใช้ทาแก้คันได้
3. ยอดอ่อน นิยมรับประทานเป็นผักเคียงกับ ลาบ ก้อย น้ำตก แหนมเนืองเวียดนาม ตามที่กล่าวข้างต้น ส่วนภาคใต้รับประทานกับขนมจีนใต้รสชาติ อร่อยมาก
4. ดอกผักติ้ว มีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ นำมากินเป็นผักได้เช่นเดียวกับยอดและใบอ่อน ไม้จากต้นผักติ้วก็ยังมีประโยชน์ไม่น้อย เพราะเนื้อไม้แข็ง จึงใช้ทำเสา ด้ามจอบเสียม หรือเผามาทำฟืน
5. สารสกัดจากผักติ้ว ในงานวิจัยของนิสิตโครงการปริญญาเอก กาญจนาภิเษก (คปก.) คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า สารสกัดจาก "ผักติ้ว" สามารถนำไปใช้ในการยับยั้งกลิ่นหืนในอาหารได้ โดยเอายอดอ่อนของ "ผักติ้ว" ที่คนอีสานนิยมรับประทานเป็นผักเคียงกับลาบ ก้อย และแหนมเนืองเวียดนาม ไปเข้ากระบวนการสกัดผสมกับ "เอทานอล" และขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนจะได้สารจาก "ผักติ้ว" ชื่อ "คอลโรจินิกแอซิก" นำไปใช้เป็นสารสกัดธรรมชาติป้องกันกลิ่นหืนของอาหารดีมาก
ผักติ้วกับการรักษามะเร็ง
เคยมีการวิจัยเกี่ยวกับผักติ้วว่า ผักติ้วนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อว่า กรดคลอโรเจนนิคสูง เมื่อเทียบกับสารโพลีฟีนอลทั้งหมด โดยกรดคลอโรเจนนิคนี้เป็นสารที่ป้องกันการทำลายดีเอ็นเอได้ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่า "ผักติ้ว" ยังมีฤทธิ์หยุดยั้งการเจริญของของเซลล์มะเร็งตับได้ โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติด้วย แต่ทั้งนี้ สารดังกล่าว ไม่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งตับ (HepG2 / cells) ได้
มีคุณค่าสูง แต่ต้องทานหลากหลายไม่ซ้ำกัน
อย่างที่ทราบกันไปว่าผักติ้วนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการนานาประการ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิด และอายุของยอดใบอ่อนหรือใบแก่
โดยทั่วไปแล้วผักติ้วจะไม่แตกต่างกับผักพื้นบ้านที่เป็นพืชยืนต้นอื่น ๆ มากนัก แต่ในด้านส่วนประกอบทางเคมีแล้ว ผักติ้วกลับมีกรดคลอโรเจนนิคที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกนั้น ผักอื่นก็จะอุดมด้วยวิตามิน บี ซี เค แร่ธาตุต่าง ๆ เส้นใย เช่นเดียวกับผักอื่น ๆ
ซึ่งอย่างที่บอกก็คือ ผักทุกชนิดจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่คล้าย ๆ กัน ดังนั้นเวลาที่เราจะทานผักแล้ว เราไม่ควรจะทานแค่ผักอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะการทานซ้ำอยู่อย่างเดียว ก็อาจทำให้เราได้รับสารอาหารนั้นต่อสุขภาพมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info
ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน