
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
10 ข้อได้เปรียบของผู้หญิง ที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่า เราน่ะโชคดีกว่าผู้ชายเขาตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
ผู้หญิงเรามีความซับซ้อนและเข้าใจยากก็จริง ส่วนหนึ่งก็เกี่ยวกับฮอร์โมนเพศหญิงด้วย ที่ไม่ใช่แค่มีผลต่ออารมณ์ความคิดของเราอย่างเดียว แต่ยังทำให้เราได้เปรียบกว่าคุณผู้ชายในเรื่องสุขภาพอีกด้วยนะ จากข้อมูลในเว็บไซต์ Health.com บอกว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ผู้หญิงเราควรยื้อให้อยู่ในร่างกายเอาไว้นาน ๆ เพราะมีผลต่อสุขภาพและอายุขัยของเรา ดังนั้น มาลองอ่านกันดูว่า การเป็นผู้หญิงนี่ทำให้เราแข็งแรงกว่าหนุ่ม ๆ ในด้านใดบ้างนะ

จากข้อมูลของ National Center for Health Statistics เผยว่า ผู้หญิงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย โดยสมมติว่าเราเกิดในปี2012 เราจะมีอายุขัยโดยเฉลี่ย 81.2 ปี ในขณะที่ผู้ชายมีอายุขัยเพียง 76.4 ปี ซึ่งนับว่าผู้หญิงเรานั้นมีอายุยืนกว่าผู้ชาย 4 ปี ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ผู้หญิงมีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ชาย และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผู้หญิงมักปรึกษาปัญหาชีวิตกับใครสักคนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ค่อยเก็บมาเครียดคนเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้หญิงอายุยืนกว่า

จากผลการวิจัยเผยว่า ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ค่อยคิดมาก และมักจะยืนกรานในความคิดของตัวเองสูง ในขณะที่ผู้หญิงมักหวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ตลอดเวลา จึงทำให้สภาพจิตใจของผู้หญิงเราแข็งแกร่งกว่าผู้ชายเมื่อเวลาเจอปัญหาหนักมาถาโถม เราจะปล่อยวางได้มากกว่า และยังอดทนต่อความรู้สึกด้านลบได้มากกว่าด้วย นอกจากนี้แล้ว ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์เท่าใดนัก ในขณะที่ผู้หญิงจะแสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนเวลาที่มีอะไรมากระทบจิตใจเข้าหน่อย ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงเราจึงเก็บกดน้อยกว่าผู้ชาย


จากข้อมูลสถิติการประเมินสุขภาพของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Society) เผยว่า ในช่วงปี 2014 มีผู้ชายประมาณ 30,000 คน เป็นโรคมะเร็งช่องปาก (oral cavity) โรคมะเร็งคอหอยส่วนปาก (pharynx cancer) ในขณะที่มีผู้หญิงเพียง12,000 คนเท่านั้นที่เป็นโรคมะเร็งดังกล่าว และมีผู้ชายจำนวน 14,000 คน เป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร (esophageal cancer) ในขณะที่ผู้หญิงป่วยเป็นโรคนี้เพียง 3,000 คน
ซึ่งสาเหตุที่โรคมะเร็งเหล่านี้พบมากในผู้ชายส่วนหนึ่งมาจากการพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เมื่อมาประกอบกับโครงสร้างร่างกายแล้วก็ยิ่งส่งผลให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งง่ายกว่า ในขณะที่ผู้หญิงบางคนอาจดื่มหนัก และสูบบุหรี่จัดมากกว่า แต่กลับมีความเสี่ยงต่ำในการเป็นโรคมะเร็งกลุ่มดังกล่าว

จากข้อมูลของ American Academy of Dermatology เผยว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่ำในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา ซึ่งโรคมะเร็งผิวหนังชนิดนี้จะเกิดกับผู้หญิงอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไปที่มีพฤติกรรมชอบเปลี่ยนสีผิวเป็นสีแทนด้วยการใช้เครื่องอบผิวแทน (Sun Bed) แต่สำหรับผู้หญิงกลุ่มอื่นนั้นไม่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งดังกล่าว ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาสูง สาเหตุมาจากการที่ผู้ชายมักไม่กลัวแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยครั้งโดยที่ไม่ทาครีมกันแดด จึงทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังในช่วงอายุ 50-60 ปี


ผู้หญิงเรามีประสาทสัมผัสการรับรู้กลิ่นดีกว่าผู้ชาย สามารถแยกแยะกลิ่นได้หลากหลาย เช่น กลิ่นเทียนหอม กลิ่นสบู่ กลิ่นผงซักฟอก กลิ่นน้ำหอม เพราะร่างกายผู้หญิงนั้นมีเซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่รับรู้กลิ่นมากกว่าร้อยละ 50 อยู่บริเวณสมองส่วนหน้าที่ชื่อ ออลแฟกทอรีบัลบ์ (olfactory bulb)
จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร PLOS ONE เผยว่า การที่ผู้หญิงสามารถรับรู้กลิ่นได้หลากหลายกว่านั้น ทำให้ผู้หญิงได้เปรียบในการเลือกคู่ครองของตัวเอง พวกเธอจะมีเซ้นส์เฉพาะที่ต่างกันไปแต่ละคนในการหาว่า ใครที่ใช่สำหรับเธอ โดยใช้ความประทับใจของกลิ่นเป็นตัวนำทาง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผู้หญิงเรามีโอกาสเลือกคู่ครองที่เหมาะสมกับตัวเอง

ระดับไขมันดี (HDL) ในร่างกายของผู้หญิงเรานั้น มีความสัมพันธ์กับสุขภาพใจที่แข็งแรง โดยไขมันดีจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดเมื่อผู้หญิงเราเข้าสู่วัยทอง เมื่อลองเทียบกับสุขภาพของผู้ชายในวัยเดียวกัน พบว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่ำกว่าที่จะเป็นโรคหัวใจเมื่อแก่ตัวลง ทั้งนี้เพราะไขมันดีจะกระตุ้นสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าตอนเข้าสู่วัยทองแล้วก็ตาม ร่างกายก็ยังไม่หยุดสร้าง เพียงแต่จะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลงกว่าเดิม

จากผลการวิจัยจากประเทศนอร์เวย์เมื่อปี 2014 ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร BMC Psychology เผยว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่สามารถจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้แม่นยำกว่าผู้ชาย ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ชายมีแนวโน้มเซลล์สมองเสื่อมเร็วกว่าผู้หญิงจากผลกระทบปัญหาสุขภาพ ซึ่งผู้ชายมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูงกว่าผู้หญิง

ผู้ชายมีแนวโน้มติดแอลกอฮอล์ง่ายกว่าผู้หญิงเป็นสองเท่า เเกิดจากการที่สารสื่อประสาทโดพามีนในสมองของผู้ชายนั้นถูกกระตุ้นสร้างออกมาง่ายกว่า ในขณะที่ผู้หญิงนั้น แม้จะเป็นคนดื่มหนักก็ตาม แต่ก็จะมีสมองในส่วนที่เรียกว่า Ventral striatumปรับสมดุลการเสพติดโดยอัตโนมัติ เราจึงมีแนวโน้มเสพติดแอลกอฮอล์ยากกว่า


โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของผู้หญิงเรานั้นมีไขมันสะสมอยู่ตามก้น เอว ต้นขามากกว่าบริเวณหน้าท้อง ในขณะที่ผู้ชายนั้นมีไขมันสะสมอยู่บริเวณหน้าท้องมากกว่าส่วนอื่น ดังนั้น เมื่อลองเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นว่าผู้หญิงเรามีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้ชายในการเกิดภาวะไขมันในช่องท้อง ที่มีผลให้ผู้หญิงเราเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังบางชนิดต่ำกว่าอีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคอ้วน เป็นต้น

สำหรับผู้หญิงนั้นมีความเสี่ยงเกิดภาวะหัวใจวายช่วงอายุประมาณ 50 ปี ซึ่งต้องพ้นวัยทองไปซะก่อน ในขณะที่ผู้ชายอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หรืออายุน้อยกว่านี้ ก็เริ่มเข้าข่ายเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดซะแล้ว จึงทำให้เกิดอาการหัวใจวายได้ทุกเมื่อ
ที่สำคัญคือ หากผู้หญิงดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะหัวใจวายช้ากว่าผู้ชายไป 10 ปีเลยทีเดียว สาเหตุเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนนั่นเองที่ทำให้เกิดการกระตุ้นสร้างไขมันดีในร่างกาย จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้หญิงเราในช่วงอายุยังน้อย ดูแลตัวเองดีอยู่แล้วก็ตาม แต่ถ้าหากพ้นวัยทองไปแล้ว ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง ก็ยิ่งทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลงมากขึ้น ผลคือ เรามีโอกาสเกิดโรคหัวใจวายได้เท่า ๆ กับผู้ชายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผลการวิจัยส่วนใหญ่ชี้ชัดมาแล้วว่า ผู้หญิงเราน่ะมีข้อได้เปรียบเรื่องสุขภาพดีกว่าผู้ชาย แต่เราก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยสุขภาพตัวเองนะคะ ควรหมั่นดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจด้วย มิเช่นนั้นเราก็มีสิทธิ์สุขภาพแย่กว่าพวกผู้ชายได้ค่ะ