วิธีทานยาลดความดันโลหิตที่ถูกต้อง พร้อมข้อควรระวังที่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงต้องรู้ เพื่อผลการรักษาที่ดี ยาลดความดันโลหิตเป็นยาที่ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับการรักษา แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ดังนั้น การใช้ยาลดความดันโลหิตไม่เหมือนการทานยาทั่ว ๆ ไป ผู้ป่วยควรรู้หลักการใช้ยาลดความดันโลหิตที่ถูกต้อง ทั้งวิธีทาน และข้อควรระวังต่าง ๆ ซึ่ง องค์การเภสัชกรรม ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
วิธีใช้ยาลดความดันโลหิตที่ถูกต้อง 
1. ผู้ป่วยต้องใช้ยาต่อเนื่องกันทุกวัน เป็นเวลานาน การหยุดยาเองอย่างกะทันหันอาจเกิดผลเสียอย่างร้ายแรงได้ เช่น เส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤต อัมพาต หรือเสียชีวิต

2. ควรรับประทานตามขนาดยาที่แพทย์สั่งให้ตรงเวลาทุกวันในเวลาที่แน่นอนจึงจะได้ผลดี เช่น หลังแปรงฟันตอนเช้าหรือก่อนนอนของทุก ๆ วัน ถ้าลืมรับประทานควรรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลาของยามื้อต่อไป ให้งดมื้อที่ลืม และรับประทานมื้อปกติในขนาดปกติ ห้ามรับประทานเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตราย

3. ยาลดความดันบางชนิดเป็นยาออกฤทธิ์เนิ่น ไม่ควรบด หรือแบ่งหรือเคี้ยวเม็ดยานั้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติของยาเสียไป ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำ 1แก้ว

4. ยาบางชนิดไม่ควรรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีกะทิ เป็นต้น

5. ยาบางชนิดอาจทำให้มึนงงง่วงซึมได้ จึงไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรที่อาจทำอันตรายได้

6. ผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการรับประทานยาและการปฏิบัติตัว
ข้อควรระวังในการใช้ยาลดความดันโลหิต 
1. อาจเกิดอาการข้างเคียงขึ้นได้ เช่น รู้สึกหน้ามืดหรือเป็นลมเวลาลุกจากเก้าอี้หรือลุกจากเตียง ดังนั้น ควรลุกอย่างช้า ๆ หากยังมีอาการข้างเคียงมากควรพบแพทย์หรือปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนยาชนิดอื่น

2. ในกรณีมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ผื่นขึ้นแดงและคันมาก เจ็บคอ มีไข้ หายใจขัด หอบ มีอาการบวมในที่ต่าง ๆ เช่น หนังตา ริมฝีปาก ลิ้น แขน ขา ใบหน้า ให้หยุดยาและรีบไปพบแพทย์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด

3. ก่อนใช้ยาลดความดันโลหิต ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า มีโรคประจำตัวอะไรอยู่ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน หรือรับประทานยาอะไรอยู่ก่อน เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาหรืออาหารที่มีโปแตสเซียมเสริม เป็นต้น

4. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างที่รักษาด้วยยาลดความดันโลหิต

5. ทุกครั้งที่ไปพบแพทย์โรคอื่น ๆ หรือทันตแพทย์ ควรแจ้งชื่อยาลดความดันโลหิตที่ใช้ให้แพทย์ทราบด้วย

6. ไม่ควรนำยาลดความดันโลหิตที่ใช้อยู่ให้คนอื่นรับประทานโดยไม่ผ่านการตรวจจากแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล