ขวดน้ำพลาสติกใช้ซ้ำ ๆ เสี่ยงมะเร็ง? (อ.ส.ม.ท.)
ปัจจุบันเห็นหลายครอบครัวนำขวดน้ำอัดลมหรือขวดน้ำเปล่า ที่ทำจากพลาสติกมากรอกน้ำแช่ตู้เย็นเอาไว้ดื่มซ้ำแล้วซ้ำอีก จากข้อมูลที่ส่งต่อกันทางอินเทอร์เน็ตบ้างก็ว่าเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง บ้างก็ว่าไม่เป็นอันตรายอะไรหรอก เพราะหลายสถาบันในต่างประเทศก็ออกมาการันตีว่ามีความปลอดภัย ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า ขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วใช้อีก อันตรายจริง โดยเฉพาะขวดน้ำพลาสติกแบบโพลีคาร์บอเนต เมื่อโดนเย็นจัดหรือร้อนจี๋ หรือการขบกัดขูดขีดกระแทก จะทำให้มีสารก่อมะเร็งกลุ่ม BPA (Bis-phenol A) ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบในบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ทำมาจากพลาสติกออกมา ซึ่งจากงานวิจัยของฮาร์วาร์ดพบว่าเพียง 3-4 ส่วนในล้านส่วนก็ก่อมะเร็งในหนูทดลองได้ ที่ซุปเปอร์มาร์เกตในแคนาดาจึงออกกฎเตือนว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องปิดฉลากเตือนไว้และถ้าเป็นเครื่องบริโภคบางอย่างถึงขนาดห้ามใช้พลาสติกเลยทีเดียว
แต่ที่ทางการบ้านเรายังไม่ตื่นเต้นก็เพราะว่า ยังเป็นผลการวิจัยว่าเกิดมะเร็งในระดับสัตว์ทดลอง และมีปริมาณสารพิษไม่มาก แต่อย่าลืมว่าถ้าเลี่ยงๆ ไว้ก่อนได้ก็จะดีกว่ารออีก 10 ปี มีงานวิจัยออกมาบอกว่าคนก็เป็นมะเร็งได้ซึ่งไม่มีประโยชน์เสียแล้ว
และอย่าลืมอีกข้อที่สำคัญคือถึงแม้มี BPA ปริมาณน้อยจากขวดพลาสติก แต่อย่าลืมว่าวันหนึ่งเราดื่มน้ำจากขวดพลาสติกกันหลายรอบทีเดียว เวลาเบรกจากประชุมหรือสัมมนาแต่ละทีก็ดื่มกันอึกอัก ไปแวะกินข้าว ก่อนกลับบ้านก็ดื่มอีกขวดหนึ่ง วันหนึ่ง 3-4 รอบบ่อยๆ เข้าก็มี BPA สะสมได้นะครับ
ทั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้ตื่นตระหนกจนห้ามใช้พลาสติก เพียงแต่ให้ตระหนักไว้ก่อน และพยายามลดการใช้ไว้ก่อนจะดีกว่า
นพ.กฤษดา กล่าวว่า ลักษณะการใช้ที่ทำให้ตายเร็วมีดังนี้
1.ขวดพลาสติกหรือแก้วพลาสติกเอามาใช้แล้วใช้อีก
2.ขวดพลาสติกที่กระทบกระแทกขูดขีดไปมาจากการทิ้งไว้ในรถยนต์
3.ขวดพลาสติกที่โดนความเย็นจัดต่ำกว่าศูนย์หรือร้อนจัดมาก เช่น ใส่น้ำต้มกาแฟ หรือใส่เข้าไปในไมโครเวฟ
4.กล่องโฟมพลาสติกและพลาสติกใส (Wrapper) ห่ออาหารเข้าไมโครเวฟก็ต้องระวัง
5.ขวดนมเด็กพลาสติก เพราะมีโอกาสที่สารนี้หลุดปนออกมาจากการที่เด็กอมขบกัดพลาสติก
6.ของเล่นตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาพลาสติกราคาถูกและเครื่องใช้พลาสติกตามตลาดนัดมักทำจากพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพต่ำ ทำให้ต้องเติมสารพิเศษให้พลาสติกเสถียรซึ่งสารนี้ก่อมะเร็งได้
7.อาหารที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง เช่น ในนมวัวที่มาจากวัวกินหญ้าปนเปื้อนยาฆ่าแมลง จะมีสารซีโนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนมรณะ ทำให้เด็กสาวโตวัยมีนมแตกพานได้ตั้งแต่อายุไม่ถึง 3 ขวบ
วิธีหนีให้ไกลมัจจุราชเงียบในพลาสติก คือ
1.ใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก
2.ใช้จานชามกระเบื้องหรือหม้อกระเบื้องเคลือบแทน
3.รณรงค์ให้ใช้วัสดุอินทรีย์แทนพลาสติก เช่น ใบตอง ห่อผัดไทยใช้เชือกกล้วยผูกหิ้ว
4.ขวดน้ำพลาสติกอย่าทิ้งไว้ในรถหรืออย่านำกลับมาใช้ใหม่
5.อย่าใช้ความร้อนสูง หรือใช้ความเย็นจัดกับภาชนะพลาสติก เช่น เอาไปใส่ในไมโครเวฟหรือใส่ไว้ในช่องแช่แข็ง
6.อย่าให้ภาชนะ กระทบกระแทก หรือขูดขีดมาก ระวังไม่ให้เด็กอมขวดหรือกัดพลาสติกเล่น
7.ในแต่ละวันจำกัดการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกไว้ไม่ให้มากเกินไป ไม่ใช่ประชุมกัน 4 รอบ ก็กินเบรกแกล้มกับดื่มน้ำขวดพลาสติกทุกครั้ง อาจใช้แก้วกาแฟรองน้ำเปล่าดื่มบ้างก็ได้
อย่างไรก็ตามสำหรับขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ทำมาจากพลาสติกโพลิเอทีลีน เทอเรพทาเลท หรือ PET ที่มีความปลอดภัยสูงความโปร่งใสแข็งแรงทนทาน เหนียว ไม่แตกง่าย แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ไม่ควรที่จะนำมาใช้ซ้ำ ๆ นาน ๆ ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเช่นกัน
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก