วิธีลดน้ำหนัก ของอดีตสาวเคยอ้วนกว่า 83 กิโลกรัม ที่ใช้สารพัดวิธีลดความอ้วน ทั้งลองผิดและลองถูก แต่สุดท้ายเธอก็ค้นพบวิธีที่ใช่ ! จนทำให้ทุกวันนี้เธอผอมลงและน่ารักขึ้นเป็นกองเลยล่ะ
ทุกวันนี้การลองสารพัดวิธีลดความอ้วนถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนอ้วนไปแล้ว ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเคยลองผิดและลองถูกไปบ้าง เหมือนกับ คุณ beambbeam สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่อดีตเคยอ้วนกว่า 83 กิโลกรัม แต่ด้วยความที่อ้วนเกินไป เธอจึงเริ่มที่จะมองหาวิธีลดความอ้วนหลาย ๆ วิธี โดยแรก ๆ ก็ใช้วิธีลดความอ้วนแบบทางลัด โดยการหันไปพึ่งยาลดความอ้วน อาหารเสริมลดความอ้วน หนักไปจนถึงเข้าคอร์สลดน้ำหนักราคาเป็นหลักหมื่น แต่แล้วสิ่งที่ลงทุนไปก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเธอจึงเปลี่ยนวิธีใหม่โดยการหาแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง พร้อม ๆ กับหันมาเริ่มควบคุมอาหารอย่างจริงจัง และแล้วหนทางที่เธอค้นพบก็ได้ผล !! ทำให้ทุกวันนี้น้ำหนักของเธอเหลือเพียง 55 กิโลกรัมเท่านั้น ที่สำคัญเมื่อผอมลงแล้วยังดูน่ารักขึ้นเป็นกอง ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนเชียวล่ะ
และสำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่อยากจะรู้ว่าเธอคนนี้เคยลองใช้วิธีลดความอ้วนแบบไหนไปบ้าง ลองมาติดตามเรื่องราวของคุณ beambbeam สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันเลยค่ะ แล้วคุณจะได้แรงบันดาลใจในการลดความอ้วนมากขึ้นอย่างแน่นอน
สวัสดีค่ะทุก ๆ คน หนูชื่อเตียงนะคะ สาวน้อยวัย 21 ขวบ (ขอแทนตัวเองว่า หนู นะคะ รู้สึกเป็นเด็กน้อยน่าทะนุถนอมดี 55555 ) ยืมล็อกอินเพื่อนสาวมานะคะ
วันนี้หนูจะมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ประสบการณ์ลดน้ำหนักที่ผ่านมาตลอด 21 ปีของหนูนะคะ ถูกบ้างผิดบ้าง แต่รู้เลยว่าเสียเงินกับการลดน้ำหนักไปเยอะมาก ทั้งค่ากินให้อ้วน ทั้งค่าโง่พยายามจะเอาไขมันออก เยอะแยะมากมาย มาเริ่มกันเลยค่ะ
พอขึ้นมาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก็ย้ายโรงเรียน ก็อารมณ์เดิม ๆ หนูตัวใหญ่สุดในห้อง ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยเป็นปมด้อยเท่าไรนะคะ เพื่อนในห้องก็รัก เพราะหนูเอาความตลกเข้าสู้ เราก็กลายเป็นจุดเด่นของเพื่อนในห้องล่ะ เป็นหัวหน้าแก๊งชะนีน้อย ไม่เคยคิดว่าตัวเองอ้วนแล้วมีปมอะไรเลย สวย ๆ เก๋ ๆ
ตัวใหญ่กว่าเพื่อนนิดเดียวเอง แหะ ๆ
ตอนเด็ก ๆ เคยมีแบบยืนรอรถสองแถวกับเพื่อนอีกคน มีคนบ้าเดินมาสะกิดหนู แล้วเขาก็ตะโกนว่า "อิอ้วนนนนนนนนนนนน" โอโห้ คนแถวนั้นหันมามองแล้วก็หันไปหัวเราะกัน ไอ้เราช็อกค่ะ นี่ตูโดนคนบ้าด่าว่าอ้วนเหรอวะ คือเถียงในใจเลย ตูไม่ได้อ้วนนนนนน ตูแค่จ้ำม่ำ แต่จะไปยืนเถียงกะคนบ้า หนูก็คงบ้ากว่าล่ะ
ชีวิตก็ผ่านไปจนขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หนูก็ย้ายไปอีกโรงเรียน ย้ายไปเจอสังคมใหม่ รู้สึกเลย ทำไมเพื่อนมีแต่คนขาว ๆ สวย ๆ ปมด้อยมันเกิดค่ะ รู้สึกไม่มีตัวตน 55555+ มโนไปนั่น
เคยมีไปซื้ออาหารเสริม ก็คิดว่าจะช่วย มันก็มี อย. นะคะ ยามันเม็ดใหญ่มาก กลืนทีลำบากมาก กล่องหนึ่งก็หลายพัน พอกินได้วันที่สองที่สามก็เลิกกินละ รู้สึกกลัวตัวเองกินยาละตายค่ะ ชีวิตก็วนไปวนมา สักพักก็ไปซื้อยี่ห้อใหม่มา เลิกกิน วนไปวนมา รู้ตัวอีกทีน้ำหนักก็พุ่งไป 74 ล่ะ
ตอนนั้นมีช่วงติดเค้กกับติดทุเรียน คือติดเป็นบ้าเป็นบอ ซื้อเค้กก้อนปอนด์หนึ่ง มานั่งกินคนเดียวบ้าง สลับกับการซื้อทุเรียน หนูไม่ซื้อเป็นชิ้น ๆ ที่เขาขายนะคะ เดี๋ยวมันกินไม่จุใจ ซื้อเป็นลูกเลยค่ะ นั่งกินเล่นระหว่างอ่านหนังสือ 5555+ เคยก้มมองปลายเท้าตัวเอง นอกจากจะไม่เห็นปลายเท้านะคะ ที่เจ็บกว่าคือ "พุงนำหน้านมค่ะ" เลยไปชั่งน้ำหนักดู ผลคือ น้ำหนักนี่พีคเลยค่ะ 83 กิโลกรัม แม่เจ้า !!! อีก 17 กิโลกรัมจะ 100 ถ้าทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ 100 กิโลกรัม ไม่ใช่เรื่องยากเลย
เข้าสู่ยุคมืดในการลดน้ำหนัก ที่ยังส่งผลเสียมาถึงทุกวันนี้คือ หนูหันมากินชาที่เป็นยาระบาย คนขายก็บอกว่าไม่มีผลต่อลำไส้เรา เลิกกินก็ถ่ายเองได้ปกติ หนูก็เชื่อค่ะ ฉลาดมากกก 5555 ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมกิน ๆ เข้าไป กินชา ระบายออก น้ำหนักไม่ขึ้น วิน ๆ สวย ๆ หารู้ไม่ กลายเป็นเราไปสอนลำไส้ใหญ่ให้ขี้เกียจ หลัง ๆ คือต้องเพิ่มโดส เพราะไม่กินก็ไม่ถ่ายเลย เลยเลิกวิธีนี้ไปเพราะสงสารร่างกายตัวเอง
จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 น้ำหนักหนูก็ประมาณ 83-85 ขึ้น ๆ ลง ๆ พอเราได้ที่เรียนต่อ เราก็เอาหน้าสวย ๆ ไปขอแม่ว่า "ม๊า เตียงเห็นเพื่อนไปฟิตเนส เพื่อนผอมลงเยอะมาก ขอไปสมัครด้วยได้ไหม สัญญาจะตั้งใจลด นะ ๆๆๆ ส่งสายตาวิ้ง ๆ" ซึ่งก็แน่นอน ม๊าไม่ขัดใจ เสียเงินสมัครไปครึ่งปี มีค่าแรกเข้าด้วยค่ะ รวม ๆ ก็หลายหมื่น มีมาเสนอขายคอร์สเทรนเนอร์ให้ จำได้ว่าแพงมากกกก สำหรับหนูยังหาเงินเองไม่ได้ ก็เลยไม่เอา ออกเองก็ได้ ก็สัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจ แรก ๆ ก็ฮึบ ไปออกได้สามวัน เกิดการขี้เกียจ ผลัดวันไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน ม๊าถามว่าทำไมไม่ไป เราก็ทำหน้าเศร้า ๆ บอกม๊าว่า ไม่มีเวลา เรียนก็หนักแล้ว ดราม่าเข้าไปสิ ม๊าก็สงสารไม่ว่าอะไร แต่ก็คงเอือม ๆ จนคอร์สครึ่งปีก็จบไป รวม ๆ เราก็ไปไม่ถึง 15 ครั้งด้วยซ้ำ ฮื้อออออ อยากย้อนกลับไปด่าตัวเอง 555555
พี่ : "นี่ ๆ น้องเตียง หันหลังสิลูก"
เตียง : "ทำไมอะคะ"
พี่ : "ถ้ามี CD ติดที่ตูดนี่ พี่คงเอาอ้อยให้หนูล่ะ"
ทุกคนหัวเราะ ตอนนั้นหนูก็ขำ แต่ลึก ๆ คือแบบ อ้วนนี่มันเป็นตัวตลกของคนอื่นขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
เข้าสู่การปฏิวัติ... ถึงคราวที่จะเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ หลัก ๆ ก็คือ
1. หาแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจของหนูคือ ต้องใส่เสื้อผ้าร้านคนปกติใส่ได้ ปกติต้องไปซื้อร้านขายไซส์ใหญ่ ๆ และอีกอย่างนะคะ หนูเชื่อว่าลึก ๆ แล้วหนูเป็นคนที่สวยมากกกกกกกกกกก เพราะม๊าบอกว่าหนูสวยที่สุด 5555 เป็นคนเชื่อแม่ค่ะ (มั่นมาก)
2. ปรับพฤติกรรมการกิน ไม่ต้องไปมองหาทางลัดแล้ว ที่ผ่านมาหนูมัวแต่มองหาสิ่งที่ทำให้เราผอมเร็วสุด สูตรนั้น สูตรนี้ เลิกคิดถึงของพวกนี้ไปเลยนะคะ กว่าจะกินแล้วอ้วนได้ขนาดนี้ ใช้เวลาตั้งนาน เราควรหาสิ่งที่เราทำได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา มันไม่มีทางลัดไหนแล้ว นอกจากควบคุมอาหารกับออกกำลังกาย
ส่วนใหญ่ที่หนูทำนะคะ คือ ไม่กินมัน กินแป้งน้อยลง คือเราอะรู้อยู่แล้วค่ะว่า อะไรกินแล้วอ้วน อะไรกินแล้วมีประโยชน์แต่เราก็ชอบหาข้ออ้างให้รู้สึกผิดน้อยลง (ถูกไหมคะ หนูทำบ่อย 555+) ออกกำลังกายบ้าง (ผลก็ตอนนี้ตัวยังนิ่ม ๆ บวม ๆ อยู่เลยค่ะ)
เมนูอาหารก็ประมาณนี้นะคะ
เช้า - ข้าวโรงอาหารคณะ กินกับให้หมด กินข้าวอีกนิด ๆ
เที่ยง - เกาเหลาบ้าง กินข้าวบ้าง
เย็น - กินสาหร่ายลุยสวน ไม่ก็กินแตงโมเป็นข้าวเย็นค่ะ
*** เน้นเลยนะคะ บอกคนขายให้ตักน้อย ๆ แล้วเราก็กินให้เหลือไว้ 1 ใน 4 อิ่มพอดีก็คือหยุดกิน
ถ้าอยากกินขนมมาก ๆ หนูก็จะกินแตงโมแช่เย็น ๆ หวานเจี๊ยบ เพราะเคยอ่านดู แตงโม แคลอรีน้อยมาก ควรค่าแก่การเป็นขนมของหนูเลย
ถ้าไปนั่งร้านนมก็สั่ง "นมสดปั่น ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นมข้น เอานมปั่นน้ำแข็งเฉย ๆ ค่ะพี่" คนขายก็งงไปสิ แต่ก็ทำให้นะ 555555+ เราแค่กินพอให้หายอยากก็พอ ทำไมเราต้องเอาแคลอรีเพิ่มเข้ามาอีก !!!
ตอนมีคนชวนไปกินบุฟเฟ่ต์ กินมื้อหนัก ๆ ก็จะคิดว่า เคยกินมาหมดแล้ว รสชาติก็เดิม ๆ ไม่เห็นน่ากินเลย มโนให้ตัวเองไม่อยากกินอะค่ะ
3. ออกกำลังกาย อันนี้หนูไม่ค่อยชอบทำนะคะ ตัวก็เลยยังบวม ๆ อยู่เลย ออกกำลังกายเราก็มีแบบไปเดินรอบบึงบ้าง วิ่งลู่วิ่ง ปั่นจักรยานเบา ๆ พยายามออกกำลังกายให้ต่อเนื่อง 40 นาทีนะคะ เพราะจะเป็นช่วงดึงเอาไขมันออกมาใช้ หลักการเราก็เป๊ะค่ะ เอาเข้าจริง เดือนหนึ่งหนูก็ออกกำลังกายแค่ 4-5 วันเอง แหะ ๆ
4. ชั่งน้ำหนักทุกเช้า แล้วก็จดบันทึกลงทุกวันเลยนะคะ (ควรจะเป็นดิจิตอลนะคะ เห็นชัด ๆ เป็นจุดทศนิยมไปเลย) ถ้าน้ำหนักลงเราก็จะมีกำลังใจ แต่ถ้าขึ้นวันนั้นก็ตั้งใจควบคุมอาหารมากขึ้น
น้ำหนักก็ลงมาเรื่อย ๆ รู้สึกตัวเบาขึ้น ตอนนั้นน่าจะประมาณ 58 กิโลกรัม
เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ มันมีความสุขมากเลยนะคะ ทุก ๆ เช้าเห็นน้ำหนักลง แค่จุดทศนิยมเดียวก็ชื่นใจ
หลังจากนี้หนูก็ยังจะลดต่อไปนะคะ เพราะพุงกะแขนยังใหญ่และย้วยมากแต่ก็พยายามหามุมกล้องกับเสื้อผ้าที่ปิดจุดด้อยของเราไว้ (ไม่ต้องแปลกใจถ้าเจอตัวจริงแล้วเป็นอิป้าใส่แว่นหนา ๆ)
กว่าจะได้รูปสวย ๆ ก็แอบหามุมเบา ๆ
เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ลองให้โอกาสตัวเองดูสักครั้งนะคะ ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจจริง ๆ ลองตั้งใจสักครั้งดู คิดว่าครั้งนี้จะลดเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตล่ะ ไม่ผลัดวัน เริ่มวันนี้ ก็สวยวันนี้ อิอิ ลดให้คนที่เคยว่าเราหน้าหงายไปเลย
รูปนี้คือแต่งเต็มมากกกกก
จริง ๆ แล้วหนูก็ไม่ได้อดอาหารขนาดนั้นนะคะ ถ้าว่าง ๆ ก็ทำอาหารกินเองบ้าง กินได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีเวลาก็สั่งตามร้านทั่วไป แต่พยายามสั่งของที่ดูมีประโยชน์มากินแทนพวกทอด ๆ อะค่ะ กินแตงโมแทนขนมตอนที่อยากกินของหวาน ๆ
ส่วนใหญ่หนูปรับการกินก่อนค่ะ เดี๋ยวต่อไปจะพัฒนาทำตัวเองให้เฟิร์ม ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในเวลา 1 เดือน หรือ 2 เดือนนะคะ ที่หนูทำมาทั้งหมด ก็ใช้เวลาเป็นปี
อันนี้เป็นอาหารที่หนูทำ กินได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ไม่ได้กินแบบนี้ทุกวันนะคะ ทำอาหารเฉพาะวันที่อยากเป็นแม่ศรีเรือน 55555+
เอาไว้เป็นไอเดียเผื่อใครอยากลองทำดูบ้างนะคะ
อย่างที่หนูบอกนะคะ หนูเคยลองวิธีลดน้ำหนักมาเยอะมากคงเหลือแต่ดูดไขมันออก (ไม่ใช่ไม่อยากทำนะคะแต่มันแพง ถ้าตอนนั้นขอแม่แล้วแม่ให้ทำหนูคงทำครบทุกวิธีแล้ว 555+) เลยจะมาเล่าประสบการณ์ที่เคยลองลดมา มาเริ่มกันเลย
1. สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (ที่เช้ากินโยเกิร์ต เที่ยงกินไข่ต้มสองฟอง บลา ๆ) เขาบอกว่าสูตรนี้ลด 7-9 กิโลกรัมต่ออาทิตย์เลย มีเหรอหนูจะไม่ทำ 55555+ คือทรมานมาก วัน ๆ ไม่มีแรงทำอะไรเลย มีแต่นอน จนวันที่สามเหมือนร่างกายเราไม่ไหว อ้วกออกมาเลย คงเป็นน้ำย่อยที่กระเพาะ หนูเลยรู้ตัวว่า สูตรนี้ไม่ผ่านนนน !!!!
2. ยาถ่าย ชาระบาย อย่างที่บอกไปแหละค่ะ คือมันทำร้ายชีวิตหนูจนตอนนี้ จากเป็นคนถ่ายง่าย กลายเป็นถ่ายลำบาก หนูเคยไม่ถ่ายนาน ๆ จนปวดท้องไปหาหมอ ได้นอนโรงพยาบาลเพราะถ่ายไม่ออก คนอื่นอาจจะมองเป็นเรื่องตลกนะคะ แต่หนูคือ อึดอัด ปวดท้องจนร้องไห้ เพลียชีวิต
3. ยาลดน้ำหนัก เคยลองมาหลายแบบมาก ที่ขายตามร้านขายยา กินแล้วขับไขมัน ยาบล็อกแป้ง ทั้งที่เป็นยาหมอให้ คือที่จำได้คือ กินแล้วน้ำหนักลงจริงค่ะ แต่ชีวิตตอนนั้นคือเฟลมาก เก็บตัวอยู่คนเดียว ข้าวปลาไม่ยอมกิน ปากเหม็น ปากแห้ง นอนร้องไห้ สมาธิก็สั้น นั่งเรียนก็หลุด คิดแต่เรื่องทุกข์ ๆ ทำไมเพื่อนไม่รักเรา ทำไมนู่น ทำไมนี่ จริง ๆ มันไม่มีใครเป็นอะไรเลย หนูมโนเองทั้งนั้น มโนจนเกือบเสียเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิต แต่โชคดีมันเข้าใจ หลังจากกินได้สักพักก็เลิก เพราะเพื่อนกลัวเราฆ่าตัวตาย 555555+ จบเกมด้วยน้ำหนักลงจริง แต่ชีวิตเฟลจนเพลีย
4. เชคโปรตีนลดน้ำหนัก อารมณ์กินผสมนมแล้วกินแทนข้าวมื้อหลัก เช้า เย็น อันนี้ตอนแรกก็ตั้งใจกินนะคะ น้ำหนักลงจริง (คือมันจะไม่ลงได้ยังไง ข้าวหายไปสองมื้อหลัก เหมือนกินนมแทน) แต่โหยมากกกกกก สักพักก็เลิกกิน ทั้งมันราคาแพงกับหนูหิว 555+
5. อาหารคลีน คืออันนี้เห็นพักหลัง ๆ คนฮิตทำกัน หนูก็ทำตามกระแส หนูชอบตอนได้ถ่ายรูปลง ดูเป็นสาวเฮลท์ตี้ 5555+ ก็ทำอาหารเองสนุกดีนะคะ แต่หนูก็ทำเฉพาะวันที่หนูอยากเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือน ก็ไม่ได้กินต่อเนื่อง เลยไม่รู้ว่ามันโอเคแค่ไหน แต่ที่รู้คือวันไหนกินก็จะรู้สึกตัวเบา ๆ กับถ่ายง่ายขึ้นมานิดหนึ่ง สูตรอาหารคลีนก็คงจะทำต่อไป เพราะหนูอยากทำ 5555+
6. เข้าคอร์สลดน้ำหนัก ก็อย่างที่บอกไปตอนแรกเนอะ
7. สูตรนี้ได้ผลกับหนูมาก คือขอให้เพื่อนผู้ชายที่สนิท ด่าให้เจ็บ ๆ คือจนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนรักหรือเกลียดเรากันแน่ ด่าเจ็บมากกกก (ผู้ชายด่าเจ็บกว่าผู้หญิงเยอะเลยค่ะ อันนี้หนูยืนยัน) ด่าแต่ละคำคือ "แค่รักตัวเองดูแลตัวเองยังทำไม่ได้", "คือเก่งนะที่ลดได้ แต่ก็ไม่ใช่คนผอมอยู่ดี แค่นี้หยุดแล้วเหรอ" ตอนนี้มันก็ยังพูดแบบนี้อยู่ 5555+ "แขนหรือท่อนซุง", "ขาใหญ่กว่าขาตูอีก" บลา ๆๆ เยอะมากแต่ออกอากาศไม่ได้ บางทีมันว่าจนเราต้องบอกว่า พอ ๆ เจ็บแค่นี้กำลังรู้สึกดี ถ้าด่าต่อ ตูร้องไห้นะ 555555+ แต่วิธีนี้ก็ช่วยให้หนูฮึบขึ้นมาได้ เพื่อน ๆ ลองใช้วิธีนี้ดูได้นะคะ
8. ออกกำลังกายคืออันนี้หนูจะออกเฉพาะวันที่หนูอยากออก เลยให้คำแนะนำใครมากไม่ได้เท่าไร แต่ต่อจากนี้ก็จะพยายามเวทตามคำแนะนำของพี่ ๆ นะคะ สู้ !!!
ที่คิดออกก็มีประมาณนี้นะคะ ที่หนูลดมาตลอดที่ผ่านมามันมีผิด ๆ ถูก ๆ แต่ที่หนูทำแล้วรู้สึกว่าได้ผลคือการเลือกกินอาหาร เพราะลึก ๆ เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรกินแล้วมันอ้วน ไม่ต้องไปถามใครหรอก แค่ถ้ารู้สึกว่ามันอ้วนก็กินน้อย ๆ พอหายอยากก็หยุด แล้วก็ควบคุมอาหารเอาต่อ
คือพวกปิ้งย่าง ทุเรียน เค้ก อย่างที่บอกตอนแรกคือแต่ก่อนหนูกินเยอะมาก กินแทบทุกวัน ตอนนี้ก็กลายเป็นนาน ๆ กินที กินตอนที่อยาก ก็แค่นั้น ไม่คิดอะไรเยอะ (ชีวิตอย่าไปกำหนดอะไรมากเลยค่ะ เรื่องชีวิตประจำวันก็มีให้คิดมากแล้วเนอะ 5555+)
เรื่องราวที่มาเล่าคือมันก็แทบทั้งหมดชีวิตของหนู มันค่อย ๆ อ้วน แล้วก็ค่อย ๆ ลง ไม่ได้ลดภายในสองสามเดือน มันก็มีทั้งถูกทั้งผิด ตอนนั้นเราก็เป็นเด็กคิดแค่ว่าทำยังไงจะผอมเร็วสุด ไม่มีใครมาแนะนำ ผลเสียที่ลดแบบผิด ๆ ก็ยังตามมาจนตอนนี้ น้อง ๆ ก็ลองอ่านแล้วเอาเก็บไปคิดดี ๆ ก่อนตัดสินใจนะคะ พี่เตือนแล้วนะ
สำหรับหลาย ๆ คนที่อ้วนมาก ๆ เชื่อว่าคงจะเคยลองลดน้ำหนักมาหลายวิธี ซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยทำถูกทำผิดไปบ้าง แต่ทั้งนี้หลักการลดน้ำหนักก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยค่ะ เพียงแค่ควบคุมอาหารและออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ที่เหลือก็อยู่ที่ความตั้งใจจริง แค่นี้สาว ๆ ก็สามารถที่จะลดน้ำหนักได้แล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ beambbeam สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม