.jpg)

ไข้อีดำอีแดงระบาดพิจิตร ป่วยแล้ว 11 พบมากสุดในเด็กอายุ 5-15 ปี ด้านแพทย์-สาธารณสุข ออกมาให้ความรู้และวิธีป้องกัน เพื่อลดการระบาดของโรค
วันนี้ (4 มิถุนายน 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของไข้อีดำอีแดงในหมู่เด็กนักเรียนในจังหวัดพิจิตร พบผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวแล้ว 11 ราย และพบกลุ่มเสี่ยงเข้าข่ายอีกกว่า 121 ราย โดยจะพบมากในเด็กอายุ 5-15 ปี
สำหรับโรคอีดำอีแดงเกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส มีลักษณะอาการเริ่มต้น คือผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ 1-2 วัน รู้สึกเจ็บคอ ปวดศีรษะ มีไข้ จากนั้น จะมีผื่นสีแดง ขึ้นตามลำตัว หน้าอก แขน และขา นอกจากนี้พบว่าในลิ้นจะเป็นสีแดงคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี จากนั้นผื่นจะลอกเป็นขุยและผิวหนังจะมีสีดำ ซึ่งโรคไข้อีดำอีแดง ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง และไม่อันตราย แต่จะติดต่อกันจากการไอหรือจาม เพราะเชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย
.jpg)
ทั้งนี้ ดร.ธานี โชติกคาม สาธารณสุข อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร พร้อมด้วยนายแพทย์ประทีป จันทร์สิงห์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และวิธีป้องกันโรคดังกล่าวตามโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรค โดยการดูแลผู้ป่วยที่เป็นไข้อีดำอีแดง เมื่อมีไข้ ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น และรับประทานยาลดไข้ แต่หากมีไข้สูง เกิน 7 วัน และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะเด็กอาจมีอาการแทรกซ้อนหรือป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก หรือ โรคปอดบวมได้
การรักษา แพทย์จะให้ทานยาเพนนิซิลลิน-วี (Penicillin V) ติดต่อกัน 10 วัน และนอนพัก ดื่มน้ำมาก ๆ รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งแม้ว่าอาการจะดีขึ้นภายใน 3-4 วัน แต่ควรรับประทานยาให้ครบ เพื่อให้โรคหายขาด ส่วนวิธีป้องกันคือไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ผ้าปิดจมูกและปากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ รวมถึงรักษาสุขอนามัยของการรับประทานอาหาร และล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งเพื่อรักษาความสะอาด
ภาพจาก ครอบครัวข่าว3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
