วัยโจ๋เมินถุง ที่ใช้ก็ผิดวิธี



วัยโจ๋เมินถุง ที่ใช้ก็ผิดวิธี (ไทยโพสต์)

          แพทย์วิจัยพบ วัยรุ่นระดับมัธยมปลายถึงอุดมศึกษาส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย เหตุเพราะมีค่านิยมผิด ๆ ขณะที่กลุ่มใช้ก็นิยมทาด้วยเบบี้ออยล์แทนสารหล่อลื่นเสี่ยงถุงแตก ฉีกขาด
 

          ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า ได้ทำการวิจัยเรื่องความเสี่ยงการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยรุ่นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน ซึ่งได้ทำการประเมินผลเบื้องต้นประมาณ 500 ตัวอย่าง พบว่าวัยรุ่นมีพฤติกรรมไม่นิยมสวมถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีทัศนคติว่าหากรักจริงไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยาง แต่นิยมใช้วิธีการคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติ ที่มีโอกาสเกิดการผิดพลาดสูง เช่น วิธีการนับวันมีประจำเดือนของผู้หญิง ซึ่งวัยรุ่นระดับฮอร์โมนยังไม่คงที่ ทำให้คลาดเคลื่อนได้ หรือใช้วิธีการหลั่งภายนอก ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะต้องได้รับความร่วมมือจากทั้ง 2 ฝ่าย

          "ขณะที่กลุ่มที่ใช้ถุงยางอนามัย ก็จะใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกต้อง สาเหตุสำคัญอันดับหนึ่ง คือการที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมนำสารหล่อลื่น เช่น นำเบบี้ออยล์ที่หาได้ง่ายทาที่ถุงยางก่อนสอดใส่อวัยวะ ซึ่งสารเคมีในสารหล่อลื่นดังกล่าวจะไปทำปฏิกิริยาทำให้ถุงแตก หรือฉีกขาดได้ นอกจากนั้น อาจใส่ถุงยางในช่วงเวลาไม่เหมาะสม และหยิกจิกด้วยเล็บ ทำให้ถุงยางรั่ว เป็นต้น"

          ผศ.นพ.มานพชัยกล่าวว่า สาเหตุที่ใช้เบบี้ออยล์ทาถุงยางเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากวัยรุ่นจะใช้ถุงยางอนามัยราคาถูก มีคุณภาพต่ำ ขณะที่ถุงยางที่มีคุณภาพจะมีสารหล่อลื่นที่ปลอดภัย แต่มีราคาแพง ส่วนถุงยางคุณภาพต่ำจะไม่มีมีสารหล่อลื่น ทำให้รู้สึกฝืดในการมีเพศสัมพันธ์ จึงไม่เป็นที่นิยมในบรรดากลุ่มวัยรุ่น

          ผศ.นพ.มานพชัยกล่าวอีกว่า การใช้ถุงยางอนามัยเพื่อการคุมกำเนิดในกลุ่มวัยรุ่นนั้นไม่ได้ผล ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าอุบัติการณ์คุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสล้มเหลวสูงถึง 7-28% ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จำนวนมาก ขณะที่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบกิน แบบแปะ หรือการฉีด ล้มเหลวน้อยกว่า 1% เท่ากับสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99% ดังนั้น การคุมกำเนิดด้วยวิธีกินยา หรือแบบฉีดได้ผลดีกว่ากว่าใช้ถุงยาง แต่การใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยจะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

          "หากวัยรุ่นมีคู่และมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหลายครั้ง ก็ควรกินยาเม็ดคุมกำเนิดดีกว่า แต่ไม่แนะนำให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ซึ่งสามารถคุมกำเนิดได้ผลแค่ 75% และมีผลข้างเคียง เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติ และอาจได้รับอันตรายจากผลข้างเคียงอื่น ๆ หากใช้ติดต่อกันมากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน" ผศ.นพ.มานพชัยกล่าว

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วัยโจ๋เมินถุง ที่ใช้ก็ผิดวิธี อัปเดตล่าสุด 29 เมษายน 2553 เวลา 17:03:56 2,882 อ่าน
TOP
x close