แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก สาวอ้วนลดน้ำหนักจาก 77 เหลือ 54 กิโลกรัม ภายในเวลาแค่ 3 เดือน แค่ตั้งใจก็ทำได้ ! เพราะยาลดความอ้วนที่ดีที่สุดก็คือ ใจของเราเอง
หลาย ๆ ครั้งที่การพยายามลดน้ำหนักของใครหลายคนต้องล้มเหลว เพียงเพราะว่าใจยังไม่เข้มแข็งพอ บวกกับยังไม่จริงจังกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย คิดแต่เพียงว่า "กินก่อน แล้วค่อยลดทีหลัง" นี่แหละ ! จึงเป็นเหตุผลให้คุณสาว ๆ ลดน้ำหนักไม่สำเร็จเสียที ทั้งนี้หากใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเองกันอยู่ วันนี้กระปุกดอทคอมมีแรงบันดาลใจจากคุณ ยกหมดแก้ว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมมาฝากกันค่ะ ซึ่งเธอคนนี้เคยเป็นคนที่อ้วนกว่า 77 กิโลกรัม แต่เริ่มที่จะอยากลดน้ำหนักก็เพราะว่าได้แรงบันดาลใจเพราะมีความรัก จึงได้ตั้งใจที่จะพยายามลดความอ้วนอย่างจริงจัง ด้วยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย ซึ่งเธอทำโดยไม่ละความพยายาม จนสุดท้ายเธอก็สามารถทำได้ และปัจจุบันเธอก็มีน้ำหนักเพียง 54 กิโลกรัม ซึ่งทั้งหมดนี้เธอได้ใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น เห็นไหมคะสาว ๆ ว่าแค่ตั้งใจจริง เธอจึงทำได้ ดังนั้นคุณเองก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่า เธอคนนี้มีวิธีการลดน้ำหนักอย่างไร ควบคุมอาหารด้วยวิธีไหน กินอะไรบ้าง หรือออกกำลังกายด้วยวิธีไหน ถึงสามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนแบบนี้ อย่ารอช้า ! รีบมาติดตามดูเรื่องราวของเธอคนนี้กันเลย
จาก 77 กิโล เหลือ 54 กิโล ภายใน 3 เดือน ยาลดความอ้วนที่ดีที่สุด คือใจของเรา
จริง ๆ แล้วเราอยากมาแชร์ประสบการณ์ลดความอ้วนของเราเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนที่กำลังคิดอยากลดความอ้วน
อย่างแรกเลยคือ "ใจ" ต้องมา
สำคัญเลยอยู่ที่ใจว่าเราจะอดทนต่อความอยากกินที่มีตลอดเวลา
จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนเราก็เป็นเด็กน้ำหนักทั่ว ๆ ไป สูง 153 เซนติเมตร น้ำหนัก 47 กิโลกรัม (ตอนนั้นอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4) น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมันมาจากสิ่งที่เรากินเข้าไปล้วน ๆ เราเป็นคนชอบกินทุกสิ่งที่อ้วน กากหมู หมูสามชั้น บุฟเฟ่ต์ทุกชนิด และที่หนักที่สุดคือ เบียร์ กินได้ทุกวี่ทุกวัน
จนวันหนึ่งเริ่มมาลองคุมอาหารดู แรงบันดาลใจน่ะเหรอ จะบอกไปก็หาว่าน้ำเน่า "ความรัก คือ แรงผลักดัน"
เราเริ่มจากคุมอาหารก่อนเลย คุมยังไง ??? ก็กินข้าวปกติ อาหารตามสั่งทั่วไป แต่ว่าเน้นเมนูผัก ปลา ลดแป้งหรือเน้นกินกับให้มากกว่าข้าว กินขนมปังโฮลวีท คือปกติเราไม่เคยกินข้าวเช้า มาทำงานก็กินข้าวเที่ยงเลย ก็เลยปรับตัวนิดหน่อย (แต่ก็ไม่หน่อยนะสำหรับคนที่นอนดึก ตื่นสาย แถมยังแฮงก์เป็นประจำ)
มื้อเช้าเราก็กินไข่ดาว ขนมปังโฮลวีท นมพร่องมันเนย ประมาณนี้ทุกเช้า
เกือบลืมไป มาดูรูปเราช่วงพีค อ้วนตัวจะระเบิดกันดีกว่า "77 กิโลกรัม"
เราเริ่มคุมอาหารวันแรก วันที่ 1 ก.พ. 58 จำได้ขึ้นใจเลย ด้วยวิธีงดแป้ง งดทอด งดหวาน ดื่มน้ำเยอะ ๆ กินข้าวเช้า 15 วันแรก เราก็เริ่มเบา ๆ ตัวลง แต่ก็ยังไม่ได้สนใจว่าน้ำหนักมันลงหรือเปล่า
พอทำมาได้สักระยะ เรามีเหตุที่จะต้องกินมังสวิรัติ 30 วัน ทำให้เราต้องทำกับข้าวมากินเองในตอนเที่ยง กิน 3-4 วันพักกินปกติทีหนึ่ง เลยทำให้เรางดเนื้อสัตว์ไปโดยปริยาย แต่ว่าก็กินนมพร่องมันเนย ผลไม้ หรือขนมปังโฮลวีทในช่วงบ่ายแก่ ๆ เป็นอาหารว่างบ้าง สลับ ๆ กันไป
จนมีวันหนึ่ง 555+ ประมาณเดือนครึ่ง เราลองชั่งน้ำหนักดู ปรากฏว่า... เหลือ 59.8 กิโลกรัม วินาทีนั้น คือใจมาอีกรอบเลย แค่เพียงคุมอาหารน้ำหนักก็ลง
รูปเราช่วงที่ชั่งน้ำหนัก 59.8 กิโลกรัมแล้ว ^_^
ทีนี้พอน้ำหนักลง กองเชียร์จากคนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อนฝูง ก็ให้กำลังใจอย่างเหนียวแน่น เราเลยเริ่มออกกำลังกายเพิ่ม เริ่มจากไปวิ่งหลังเลิกงาน วิ่ง ๆ เดิน ๆ ให้ครบ 30 นาที ให้ได้เบิร์นออกไปบ้าง ดีกว่าไม่ออกกำลังกายเลย ส่วนวันไหนฝนตก ก็ Cardio อยู่บ้าน เปิดคลิปจาก ยูทูบเอา
world_id:55c4648b4d265af04f8b4582
ช่วงที่เริ่มน้ำหนักลง
น้ำหนักเราก็ลงมาเรื่อย ๆ แต่ว่าไม่เฟิร์มเลย 555+ เหี่ยวไปหมด ก็เลยเริ่มเล่นเวท ก็คลิปจากยูทูบนี่แหละ
world_id:55c465a74d265aad4f8b457b
เราเริ่มจากหน้าท้องก่อน เพราะว่าเบียร์ทำให้เราพุงล้นหลามมาก แทบจะระเบิด
เราเริ่มจากหน้าท้องก่อน เพราะว่าเบียร์ทำให้เราพุงล้นหลามมาก แทบจะระเบิด
มาดูอาหารที่เราทำกินเองช่วงคุมอาหารกันบ้างดีกว่า
ปัจจุบันเราก็ยังคงออกกำลังกายต่อไป แต่ก็ยังคุมอาหารเป็นบางมื้อสลับ ๆ กันไป เพราะตอนนี้เราก็พอใจในน้ำหนักเราตอนนี้แล้ว อีกอย่างคือไม่ได้สนใจว่าตัวเลขบนตาชั่งมันเท่าไร สนแต่เพียงว่าให้ร่างกายกระชับทุกสัดส่วน ไม่เป็นหมูเหลวอีกแล้ว 555+
ปัจจุบันเราน้ำหนัก 54-55 กิโลกรัม ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ประมาณนี้
สิ่งที่ได้รับจากความสำเร็จในครั้งนี้ คือ
เราดื่มน้อยลง แทบจะเรียกว่าไม่ได้ดื่มเลย เพราะว่ากลัวกลับไปลงพุงอีกรอบ ไม่ดื่มจนขนาดที่แม่บอกว่าสักกระป๋องก็ได้นะลูก
เงินเหลือมากขึ้น เพราะไม่ไปเที่ยว ไม่ดื่ม ทำกับข้าวกินเอง
ได้สุขภาพที่ดีขึ้น ตื่นเช้าสดชื่น พักผ่อนเพียงพอ
อีกเรื่องคือ ก่อนหน้านั้นเราเลิกสูบบุหรี่มาสักพักหนึ่ง พอได้เริ่มออกกำลังกาย ตอนนี้เราเลิกสูบบุหรี่ได้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สุดท้ายแล้ว อยากให้กำลังใจทุก ๆ คนที่กำลังอยากลดความอ้วน เราอยากบอกว่าไม่มีสิ่งไหนที่เราทำไม่ได้
กินวันเดียวไม่อ้วนหรอก ออกกำลังกายวันเดียวก็เช่นกัน มันก็ไม่ได้ทำให้เราผอมลงหรอก You are what you eat มันคือเรื่องจริงนะ
ส่งท้ายอีก 1 รูป
เราทำได้ทุกคนก็ทำได้จ้า
เห็นไหมคะสาว ๆ ว่าแค่เรามีความตั้งใจจริง บวกกับความพยายาม ต่อให้จะเคยอ้วนแค่ไหน น้ำหนักก็สามารถลดลงได้อย่างที่เราตั้งใจ เอาเป็นว่าคุณสาว ๆ ก็รู้เคล็ดลับการลดความอ้วนให้ได้ผลกันไปแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาลดความอ้วนของคุณกันแล้วล่ะค่ะ เอ้า ! ไปพยายามกันเลย ฮึบ ๆ !
ภาพจาก ยูทูบ โพสต์โดย FitnessBlender , XHIT Daily
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ยกหมดแก้ว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม