
รีวิวลดน้ำหนัก ของอดีตสาวร่างใหญ่ ที่เคยหนักกว่า 80 กิโลกรัม จนตอนนี้ลดน้ำหนักเหลือเพียง 54 กิโลกรัม ด้วยวิธีที่ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน แต่ก็สามารถผอมลงได้แบบง่าย ๆ และยั่งยืน งานนี้เธอจะทำได้อย่างไร ตามมาดูวิธีของเธอกันเลย...
อดีตสาวอ้วนที่เคยหนักกว่า 80 กิโลกรัม มุ่งมั่นลดน้ำหนักตลอดสามปี ด้วยวิธีการของตัวเอง จนปัจจุบันเธอมีน้ำหนักเหลือเพียง 54 กิโลกรัม ด้วยวิธีเบสิกที่ใครก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีวินัยในการควบคุมอาหารและออกกำลังกายด้วยการแอโรบิกและเวทเทรนนิ่งอย่างสม่ำเสมอ เชื่อไหมว่า... เพียงแค่ทำตามนี้ ตลอดระยะเวลาสามปี เธอไม่จำเป็นต้องอดอาหาร ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาลดความอ้วน แต่น้ำหนักของเธอก็ค่อย ๆ ลดลงได้อย่างที่เธอตั้งใจ และวันนี้เธอก็มาถึงเป้าหมายได้สำเร็จ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทั้งสวยทั้งหุ่นดีจนใคร ๆ ก็ต้องพากันอิจฉา
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สำหรับใครที่อยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงวิธีและเคล็ดลับการลดน้ำหนักที่เธอใช้จะเป็นอย่างไร ตามไปดูเรื่องราวของคุณ Ski~On~Ice สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่กระปุกดอทคอมเอามาฝากกันเลยค่ะ รับรองว่าได้อ่านแล้วคุณจะต้องมีกำลังใจอยากจะลดน้ำหนักมากขึ้น แถมวิธีการของเธอก็ยังทำตามได้ไม่ยาก เพียงแค่มีความตั้งใจจริง คุณก็สามารถทำได้เหมือนเธออย่างแน่นอน ไปดูกันเลย...












เนื่องจากเวลาที่ผ่านมามีคนถามกันมาหลายคนว่า "ทำยังไงถึงผอม ?", "ใช้ยาอะไรหรือเปล่า ?", "ไม่กินข้าวเย็นใช่ไหม ?" จึงตัดสินใจแบ่งปันประสบการณ์การลดน้ำหนักตลอดสามปีให้ทุกคนได้อ่าน
วิธีการของเรายังไม่เป๊ะตามหลักการของนักโภชนาการ ไม่เป๊ะเหมือนในเพจต่าง ๆ ไม่ถึงกับต้องนับแคลอรี แต่เราก็พอใจกับผลลัพธ์ระดับหนึ่ง และกำลังพยายามพัฒนาต่อไป
กลับไปดูอดีตของเราก่อน เราอ้วนตั้งแต่จำความได้ เพราะคุณตาคุณยายชอบเด็กอ้วน แกจะบอกว่าน่ารักดีกอดแล้วนุ่มนิ่ม
นี่คือรูปของเราตอน 4 ขวบ กลมป๊อก

ส่วนอันนี้คือรูปสมัยประถมและ ม.ปลาย รักษามาตรฐานน้ำหนักได้ดีมาก
ส่วนอันนี้คือรูปสมัยประถมและ ม.ปลาย รักษามาตรฐานน้ำหนักได้ดีมาก
ตอนเข้ามหาวิทยาลัยยิ่งหนัก เนื่องจากคณะที่เราเรียนค่อนข้างมีความเครียดสูงและอยู่หอกับเพื่อน ๆ เรียนหนักมาทั้งวันตกเย็นก็กิน ๆ แถมแถวที่เราเรียนมีอาหารอร่อย ๆ เพียบ จึงเป็นแบบที่เห็น
โหดป่ะละรูปนี้ นางเพื่อนตัวดีถ่ายไว้แกล้ง


ส่วนอันนี้ปีท้าย ๆ ก่อนจบ
ถามว่าตอนนั้นเดือดร้อนอะไรกับความอ้วนไหม บอกเลยเฉย ๆ เซ็งนิด ๆ เวลาหาเสื้อผ้าใส่ไม่ได้ไม่มีตัวเลือกอะไรมากนัก แต่เราไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ ค่อนข้างแข็งแรงด้วยซ้ำ เพราะเล่นกีฬาตลอด แต่ด้วยความเล่นกีฬามากก็กินมากเลยไม่ผอมสักที
จบแล้ว ๆ ตัวเท่าเดิม 555+

ตอนออกไปทำงานต่างจังหวัด ไปอยู่เมืองติดทะเล จัดหนักไปเลยค่ะ อาหารทะเล งานก็หนักอีก เวรกันวันเว้นวัน วันหยุดก็จัดหนัก
จุดเปลี่ยนเบา ๆ คือต้องฝึกทหาร โดนให้อยู่ในวินัยวิ่งเช้าเย็น โดนซ่อมพุ่งหลัง วิดพื้น Squat เริ่มทำให้เราตระหนักว่าเราสามารถวิ่งได้นาน ๆ แล้วก็เริ่มติดการวิ่ง
หลังจากทำงานได้สักพักหนึ่งเริ่มรู้สึกว่าเราควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้อื่น เราแนะนำให้ผู้อื่นดูแลสุขภาพแต่ตัวเรากลับปล่อยปละละเลย กินเยอะนอนน้อย ขาดการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ จึงเริ่มต้นการลดความอ้วนตั้งแต่นั้น น้ำหนักตั้งต้นประมาณ 80 กิโลกรัม

นโยบายที่ 1 งดเครื่องดื่มที่มีรสหวานทุกชนิด ยกเว้นจะเป็นน้ำตาลเทียม หรือน้ำตาลที่ลดแคลอรี เราเป็นคนติดกาแฟมาก แต่ก่อนก็ซื้อกาแฟตามร้านกินเนี่ยแหละ ถ้าสังเกตดี ๆ จะตกใจกับปริมาณน้ำเชื่อมและนมข้นหวาน ซึ่งแค่ขั้นตอนนี้เราลดลงไป 2 กิโลกรัม








ไม่จำเป็นว่าการออกกำลังกายต้องหมายถึงมีเวลาจำเพาะเจาะจง ทุกเวลาสามารถออกกำลังได้ เช่น ขึ้นชั้นสี่ให้ใช้บันได ถ้าไม่รีบให้เดินไปปากซอยแทนนั่งมอเตอร์ไซค์ ไปช้อปปิ้งกับเพื่อนก็ขอนางถือให้แล้วให้ใช้ถุงช้อปแทน Weight
ส่วนการออกกำลังควรเลือกสิ่งที่เราชอบมากที่สุด อย่าตั้งเป้าหมายเกินจริง เช่น เราเริ่มจากวิ่ง 4 กิโลเมตร ใช้เวลานานมาก วิ่งทีปวดไปทั้งขา แล้วค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต้องกดดัน สักพักเราเริ่มศึกษาตามเพจต่าง ๆ ถึงได้ตระหนักว่าการออกกำลังควรมีทั้งแอโรบิกและเล่นเวท เราจึงเริ่มเล่น TRX กับยกน้ำหนักบ้าง
ช่วงหน้าฝนก็เปิดคลิปยูทูบเอา เราชอบพวก Aeroboxing เราก็จะเล่นตามคลิปไปเรื่อย ๆ
การนอนสำคัญมาก แต่ด้วยอาชีพเราก็นอนไม่ค่อยจะพอ นอนไม่พอจะทำให้เราหงุดหงิด ทำให้อยากกินมากขึ้น และไม่มีแรงออกกำลังอีก ทั้งทำให้ระบบเผาผลาญเสีย

เชื่อหรือไม่สามปีนี้เราชั่งน้ำหนักไปทั้งหมด 2 ครั้ง เราเฝ้าสังเกตจากขนาดเสื้อผ้าว่าหลวมลงหรือไม่ การชั่งน้ำหนักบ่อย ๆ ทำให้เรากดดันมากเกินไปและท้อแท้ เราตั้งเป้าหมายอยู่ที่ความก้าวหน้าทางการคุมอาหารหรือการออกกำลังจะดีกว่า
ไม่มีทางลัดในการลดน้ำหนัก ไม่มียาใดจะได้ผล เราเคยกินแอลคาเนทีนได้ผลไหม เอาเป็นว่าไม่มีนัยสำคัญ เพราะหลังเราหยุดกินน้ำหนักเราก็ลงดี ส่วนยาอื่น ๆ ที่ขายตามอินเทอร์เน็ต บอกเลยต้องระวัง บางครั้งใส่ไทรอยด์ฮอร์โมน ผลข้างเคียงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
เราไม่ใช่ดาราและรูปดารานางแบบที่เราเห็นผ่านการรีทัชเกือบทั้งนั้น อยากให้เป้าหมายในการลดน้ำหนักยึดสุขภาพเป็นสำคัญ มากกว่าความสวยงามตามอย่างเน็ตไอดอลหรือดารา เพราะบางครั้งด้วยไลฟ์สไตล์เราไม่เหมือนเขา ข้อจำกัดต่าง ๆ ก็ต่างกัน อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครให้หมดกำลังใจ
ทุกคนทำได้ เราเคยคิดมาตลอดเมื่อเห็นคนอื่นลดความอ้วนสำเร็จ ว่าเราคงไม่มีวันนั้น แต่เชื่อเถอะเราทุกคนทำได้จริง ๆ ต้องปรับทัศนคติ
ผลหลังจากลองผิดลองถูก (แต่ยังไม่ถูกที่สุด) เราก็ค่อย ๆ พัฒนาตามลำดับ


ก็เป็นประสบการณ์ที่อยากแชร์และอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังลดความอ้วน
ป.ล. เห็นมีคนยังเข้าใจผิด ว่าเราอดข้าวเย็นนะคะ ไม่ได้อดนะคะ อาชีพเราอดไม่ไหว อยู่เวรเอย ไหนจะต้องทำงานต่อตอนกลางคืนบ้างเอย อดข้าวไม่ไหวแน่นอนค่ะ












สำหรับวิธีการลดน้ำหนักของเธอคนนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกหลักการที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน แค่ทำอย่างมีเป้าหมาย และมีความตั้งใจ เชื่อเถอะว่าคุณเองก็สามารถมีวันนี้เหมือนกับเธอคนนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Ski~On~Ice สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม