สิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 40 ช่วงวัยนี้ต้องเริ่มใส่ใจสุขภาพ และถ้าอยากเฮลธ์ตี้แม้อายุจะแตะเลข 4 ลองทำตามนี้ดูก่อน
ถ้าอีกไม่กี่ปีอายุก็ใกล้จะแตะเลข 4 แล้วก็อย่าขาดอาหารเช้าแม้เพียง 1 วันเชียวค่ะ เพราะอาหารเช้าไม่เพียงแต่ช่วยเติมพลังให้ร่างกายมีแรงไปทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เท่านั้น แต่การรับประทานอาหารจะช่วยปลุกระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้พร้อมปฏิบัติงานอย่างเต็มที่
อีกทั้งนักโภชนาการยังบอกด้วยว่า การรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้ระบบเผาผลาญมีพลังในการเบิร์น แถมยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในร่างกายเป็นปกติ ไม่ต่ำจนเกิดอาการหิวจุบจิบในระหว่างวัน ซึ่งก็หมายความว่าอาหารเช้าจะช่วยลดความอ้วนได้นั่นเอง
สายตาเป็นอวัยวะอันดับแรก ๆ ที่มักจะเสื่อมไวกว่าใครเพื่อน ยิ่งในยุคโลกแห่งเทคโนโลยีเช่นทุกวันนี้ด้วยแล้ว พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างจากทั้งการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน หรือแม้แต่การเล่นมือถือและแท็บเล็ตเกือบตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยผลักดันให้สายตาเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพมากขึ้น ดังนั้นเมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติกับดวงตาแม้เพียงน้อยนิด ก็ต้องรีบไปตรวจเช็กให้เรียบร้อย อย่ามัวรอเวลาจนปัญหาสุขภาพตานั้น ๆ เกินเยียวยาหรืออยู่ในขั้นที่รักษายากไปแล้ว
3. ถึงเวลาตรวจสุขภาพชุดใหญ่
อายุอยู่เลข 3 มาหลายปีจนจวบจะถึงเลข 4 อยู่รอมร่อ ถือว่าได้เวลา ของการตรวจสุขภาพให้ครบถ้วน โดยเฉพาะระดับน้ำตาลในเลือด ปริมาณคอเลสตอรอล ความดันโลหิต หรือแม้กระทั่งน้ำหนักตัว ยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยได้ตรวจเช็กมาเลยตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่ามัวชะล่าใจกับเรื่องปัญหาสุขภาพเชียวนะคะ เพราะแม้แต่คนที่ดูแข็งแรงดี ยังฟิต ๆ แม้อายุเกือบ 40 แล้ว แต่บางคนก็มีโรคภัยแอบแฝงอยู่ในร่างกาย
ฉะนั้นแม้จะไม่รู้สึกเจ็บป่วย แต่หากคุณกำลังมีอายุใกล้ 40 ในเร็ว ๆ นี้ ก็ควรพาตัวเองไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสักที เผื่อมีจุดบกพร่องด้านสุขภาพตรงไหน จะได้หาทางออกได้ทัน
อย่างที่บอกว่าร่างกายภายนอกของบางคนอาจจะดูแข็งแรงดี แต่เราไม่มีทางรู้ได้หรอกว่ามีปัญหาอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า โดยเฉพาะโรคหรืออาการผิดปกติที่แฝงมากับพันธุกรรม ดังนั้นปลีกเวลามาสืบประวัติสุขภาพของคนในครอบครัวดูสักนิดก็จะดี อย่างมีใครเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคเลือดบ้าง ควรจะรู้ให้ครบถ้วน เพื่อที่เราจะได้ป้องกันความเสี่ยงของโรคเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ
รู้ไหมว่าตั้งแต่อายุเข้าสู่เลข 4 ตั้งแต่ปีแรก นั่นก็ถึงเวลาที่กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะค่อย ๆ เสื่อมสลายไปปีละ 1 มวลกล้ามเนื้อ ฉะนั้นไม่ต้องรออะไรกันอีกต่อไป มาออกกำลังกายฟิตกล้ามเนื้อกันดีกว่า โดยอาจจะเริ่มจากโยคะท่าง่าย ๆ ว่ายน้ำ วิ่ง หรือออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานก็เหมาะ เอ้า ! เริ่มเลย
อายุมากขึ้นสุขภาพกระดูกก็เสื่อมความเข็งแรงลงเป็นเรื่องธรรมดา เราจึงต้องเสริมความเข็งแกร่งให้กระดูกด้วยวิตามินดีและแคลเซียมนั่นเองนะคะ โดยแหล่งแคลเซียมก็หาได้จากปลาตัวเล็กตัวน้อย ผักใบเขียว นม เป็นต้น ส่วนวิตามินดีก็หาได้จากนม แซลมอน ถั่วชนิดต่าง ๆ และธัญพืชแทบทุกชนิด
7. มิตรที่ดีคือไฟเบอร์
ระบบเผาผลาญในร่างกายเดินสวนทางกับอายุของเรา อายุมากขึ้น แต่ระบบเผาผลาญจะทำงานได้ช้าลง ระบบขับถ่ายก็เช่นกัน ข้อนี้เป็นความจริงที่ต้องยอมรับค่ะ ฉะนั้นไฟเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพวัยทำงานที่อายุอยู่ในช่วง 30 ปีขึ้นไป ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้ก็สามารถหาได้จากผักผลไม้ ธัญพืช โฮลเกรน เมล็ดพืช เป็นต้น
โปรตีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติเติมเต็มประสิทธิภาพของระบบประสาทและสมอง นักโภชนาการจึงแนะนำให้คนวัยทำงานรับประทานโปรตีน เช่น ไข่ ปลา คีนัว อย่างน้อยวันละ 2 มื้อ โปรตีนจะได้เข้าไปช่วยลดความเครียด และบำรุงสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
ยอมรับมาซะดี ๆ ว่าอายุอานามก็ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นกันแล้ว ดังนั้นจะมัวมานั่งดริ๊งก์หรือสังสรรค์ปาร์ตี้คงไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไร โดยเฉพาะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่ ถ้าเลิกได้จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้างมาก ๆ
การได้พบเจอและพูดคุยกับเพื่อน ๆ เป็นประจำจะช่วยให้ทั้งร่างกายและสมองเกิดความตื่นตัวอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนประเด็นที่แต่ละคนเจอมา ก่อให้เกิดการโต้ตอบ ชวนกันคิด หรือบางโอกาสอาจมีกิจกรรมสนุก ๆ ทำร่วมกัน ได้ทั้งความเพลิดเพลิน และได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ไปอีกทาง
โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงฮวบฮาบ รวมทั้งมีอาการผมร่วงมากผิดปกติ ให้สงสัยปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ไว้ก่อน แล้วรีบไปตรวจสุขภาพโดยด่วน เนื่องจากพออายุมากขึ้น ฮอร์โมนในร่างกายจะเริ่มแกว่ง ดังนั้นต่อมไทรอยด์ที่มีหน้าที่ควบคุมระดับฮอร์โมนของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติจึงต้องทำงานหนัก และอาจแสดงความผิดปกติให้เห็นในช่วงวัยนี้
12. นั่งสมาธิ สงบจิตสงบใจ
รู้กันดีอยู่แล้วว่าความเครียดส่งผลต่อสุขภาพของเราได้หลายด้าน ทั้งโรคอ้วน โรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือดในสมอง และอีกสารพัด ซึ่งก็คงดีกว่าแน่ ๆ หากเราสามารถควบคุมความเครียดไม่ให้เกินระดับจนอาจทำร้ายเราได้ อย่างการนั่งสมาธิก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เรามีสติฉุกคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวตได้อย่างเข้าใจมากขึ้น
อายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อสุขภาพก็ย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เราก็ไม่จำเป็นจะต้องทำให้ตัวเองดูแก่ลงไปอีกจริงไหมคะ อย่างการดูแลสุขภาพข้างต้นก็น่าจะช่วยให้เรายังคงฟิตและเฟิร์ม แม้จะอายุจะเลยเถิดไปถึงเลขไหน ๆ แล้วก็ตาม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Prevention
Live Science