จากกรณีที่ชายวัย 63 ปี ถูกแมวข่วนจนแผลติดเชื้อหนักตั้งแต่น่องจนถึงต้นขา เพราะไม่ได้ดูแลทำความสะอาดและไม่ไปพบแพทย์ในทันที จนหวิดถูกตัดขานั้น (อ่านข่าว : แชร์เตือนภัย ลุงหวิดถูกตัดขา หลังถูกแมวข่วนจนแผลติดเชื้อลุกลามหนัก)
ทั้งนี้จากการวินิจฉัยพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคเนคโครไทซิ่ง แฟสซิไอติส (Necrotizing fasciitis) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "โรคเนื้อเน่า" จัดเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังอย่างรุนแรง โรคเนื้อเน่ามักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดร่วมกัน เช่น เชื้อสเตรปโตคอคคัส กลุ่มเอ (Streptococcus group A) เชื้อเคลปซิลล่า (Klebsiella) เชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium) ที่ทำให้เกิดโรคบาดทะยัก เชื้ออีโคไล ( E. coli) เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) และเชื้อแอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas hydrophila) เป็นต้น โดยเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ สเตรปโตคอคคัส กลุ่มเอ (Streptococcus group A) โดยจะปวดแผลมาก แผลอักเสบบวมแดง ร้อนอย่างรวดเร็ว และอาการปวดจะรุนแรงแม้มีบาดแผลเล็ก ๆ ก็ตาม ผิวหนังที่บาดแผลมีสีคล้ำ ม่วง ดำ หรือมีถุงน้ำเกิดขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ รวมทั้งมีไข้สูง หากได้รับการตรวจรักษาที่รวดเร็ว โดยผ่าตัดเอาเนื้อที่เน่าตายออก และให้ยาปฏิชีวนะ จะลดอัตราตายและพิการลงได้
อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ป่วยรายนี้ อาจจะต้องรับการผ่าตัดอีกครั้งหากมีเนื้อตายเพิ่ม และหากหายดีแล้วแพทย์จะทำการศัลยกรรมปลูกถ่ายผิวหนังเพื่อที่จะปิดแผล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ภาพจาก ThaiPBS, รายการเรื่องเล่าเช้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
pr.moph.go.th, ครอบครัวข่าว 3, ThaiPBS