12 ท่าออกกำลังกายใน 7 นาที การันตีว่าเวิร์กจริง !

          วิธีออกกำลังกาย 12 ท่านี้เปรียบเสมือนการออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพที่สุด ในขณะที่ใช้เวลาน้อยเท่าที่จะน้อยได้ ด้วยอุปกรณ์เพียงน้ำหนักตัวของคุณ เก้าอี้ และผนังสักที่เท่านั้น !

ท่าออกกำลังกาย

          การออกกำลังกายจำเป็นไหมที่ต้องใช้เวลานาน ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกายและเห็นผลมากที่สุด จุดนี้ตอบเลยว่าไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ยืนยันได้จากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน American College of Sports Medicine’s Health & Fitness Journal ฉบับเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่บันทึกไว้ว่า การออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูง สามารถช่วยเบิร์นแคลอรีได้ในเวลาที่สั้นกว่า และมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันจากการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้ก็เป็นวิธีออกกำลังกายที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อว่า HIIT หรือ High-Intensity Interval Training นั่นเอง

          แต่วันนี้กระปุกดอทคอมก็ไม่ได้มาแนะนำกันเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เพราะเรามีท่าออกกำลังกาย 12 สไตล์ ที่ออกแบบโดย Chris Jordan หัวหน้าศูนย์ออกกำลังกายและทีมวิจัยจาก Human Performance Institute แห่งรัฐออร์แลนโด ร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์สุขภาพจากมหาวิทยาลัย McMaster ซึ่งการันตีมาแล้วว่า 12 ท่าออกกำลังกายต่อไปนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาที แต่ให้พลานุภาพในการฟิตเฟิร์มร่างกายได้เทียบเท่าการวิ่งหรือปั่นจักรยานเป็นชั่วโมง ๆ เพราะเป็นท่าที่ช่วยบริหารได้ตั้งแต่กล้ามเนื้อส่วนบน กล้ามเนื้อส่วนล่าง และกล้ามเนื้อกลางลำตัวเลยทีเดียว

          อ้อ...แต่ต้องอธิบายกันก่อนค่ะว่า 12 ท่านี้แต่ละท่าใช้เวลา 30 วินาที (หรือราว ๆ นับเลข 1-10 ช้า ๆ ในใจ) พัก 10 วินาที ในท่าที่ต้องสลับทำทีละข้าง ก็ทำให้ครบข้างละ 30 วินาที พัก 10 วินาทีเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็สามารถเพิ่มรอบได้ราว ๆ 2-3 รอบ หากคิดว่ารอบเดียวเบาไป เอาล่ะ ! มาเริ่มออกกำลังกายกันเลย


ท่าออกกำลังกาย

1. Jumping Jack

          ท่าเบสิกของการบริหารร่างกาย หรือท่ากระโดดตบที่แสนคุ้นเคย ที่ช่วยทั้งเบิร์นไขมันและบริหารกล้ามเนื้อไหล่ รวมทั้งกล้ามเนื้อขาไปในตัว

          - ยืนกางขาเท่าความกว้างของสะโพก

          - วางแขนไว้ที่ข้างลำตัว

          - กระโดดโดยแยกเท้าออกให้ความกว้างเท่ากับหัวไหล่

          - ยกมือทั้งสองข้างขึ้นให้สัมผัสกันเหนือศีรษะ จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น

          - ทำให้ครบ 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

2. Wall Sit

          ดูเหมือนเป็นท่าทำง่าย แต่เอาจริง ๆ ก็เหนื่อยไม่ใช่เล่น ทว่าหากทำท่านี้แล้วจะช่วยลดต้นขาด้านในและช่วยเบิร์นไขมันที่ก้นได้ ก็นับว่าคุ้มที่จะเหนื่อย

          - ยืนตรงและพิงผนังไว้

          - ค่อย ๆ ลดตัวลงพร้อมกับยื่นขาออกไป 90 องศา ให้เหมือนท่าตอนนั่งเก้าอี้

          - วางมือไว้บนต้นขา ค้างท่านาน 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

3. Push Up

          ท่าวิดพื้นที่สาว ๆ หลายคนบอกว่าโหด แต่ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อหัวไหล่ หน้าอก เบิร์นไขมันส่วนเกินรอบขอบบรา และเป็นท่าที่ช่วยเบิร์นไขมันได้สุดยอดจริง ๆ

          - อยู่ในท่าแพลงก์ ยืดแขนจนสุด

          - ค่อย ๆ ลดระดับแขนลงมาให้ลำตัวขนานกับพื้นเป็นเส้นตรงมากที่สุด ให้หัวไหล่ ขา สะโพก อยู่ในระนาบเดียวกัน

          - ค้างท่าไว้ 30 วินาที ก่อนกลับคืนท่าเดิม พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

4. Crunch

          ถ้าถามว่าท่าออกกำลังกายท่าไหนช่วยลดหน้าท้องได้ หนึ่งในนั้นต้องมีท่า Crunch อยู่ด้วยแน่ ๆ ค่ะ เพราะท่านี้เป็นท่าที่เราต้องใช้กล้ามหน้าท้องโดยตรง ได้เกร็งหน้าท้องรัว ๆ ไป อะ...เริ่ม !

          - นอนราบไปกับพื้น ตั้งเข่าขึ้นทำมุม 45 องศา ใช้เท้าช่วยทรงตัว

          - ยืดแขนตรง ขนานไปกับหน้าขา

          - ยกลำตัวส่วนบนขึ้นให้หัวไหล่อยู่ในระดับเดียวกับเข่า

          - ค้างท่า 30 วินาที แล้วกลับคืนสู่ท่าเริ่มต้น พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

5. Step-Up

          ท่าออกกำลังกายที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ใครอยากกระชับส่วนนี้ให้เฟิร์ม เตรียมเก้าอี้สักตัวแล้วมาเริ่มกันเลย

          - ตั้งเก้าอี้ให้มั่น แล้วยืนหันหน้าเข้าหาเก้าอี้

          - ยกเท้าขวาขึ้นวางบนเก้าอี้ ทรงตัวให้ดี

          - ทรงตัวบนเก้าอี้ให้ดี จากนั้นยกลำตัวขึ้นมายืนบนเก้าอี้

          - กลับสู่ท่าเริ่มต้นโดยก้าวเท้าซ้ายลงจากเก้าอี้ แต่ยังทรงตัวเท้าขวาไว้บนเก้าอี้

          - สลับทำให้ครบทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย
 
6. Squat

          ท่าออกกำลังกายลดก้นที่แสนจะคุ้นเคยท่านี้นอกจากจะฟิตเฟิร์มก้นให้เราได้แล้ว ยังเป็นอีกท่าที่ช่วยเบิร์นแคลอรีได้พอประมาณเลยทีเดียวนะ

          - ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างให้กว้างเท่าช่วงไหล่ งอเข่าเล็กน้อย

          - ค่อย ๆ ย่อตัวลงในท่าสควอท (ท่าเหมือนลงไปนั่งเก้าอี้) หายใจเข้า พร้อมกับยืดแขนเหยียดตรงมาข้างหน้าในระหว่างที่เราย่อตัวลงด้วย

          - ค้างท่าไว้ 30 วินาที ยืดตัวขึ้น หายใจออก กลับสู่ท่าเริ่มต้น   

ท่าออกกำลังกาย

7. Triceps Dip

          ต้นแขนใครใหญ่ แขนใครย้วยเชิญท่านี้เลยค่ะ อาศัยแค่เก้าอี้ตัวเดียวกับบอดี้เวทของเราเองก็เนรมิตแขนสวยได้ดั่งใจ โดยเฉพาะคนที่มีไขมันสะสมใต้ท้องแขนเยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแน่ใจว่าเก้าอี้ตั้งอย่างมั่นคงพอ เช็กความปลอดภัยให้ดีก่อนออกกำลังกายด้วยนะคะ

          - ย่อตัวลง ใช้ส้นเท้าพยุงน้ำหนักตัว วางมือทั้งสองข้างลงบนขอบเก้าอี้หรือโซฟาก็ได้

          - ย่อตัวลงอีกให้แขนที่วางอยู่บนเก้าอี้ตั้งตรง ข้อศอกทำมุม 90 องศากับพื้น (ศอกเสมอกับหัวไหล่)

          - ค้างท่า 30 วินาที แล้วค่อย ๆ ยืดตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น

          - พัก 10 วินาทีก่อนเริ่มท่าใหม่

ท่าออกกำลังกาย

8. Plank

          ถ้าบอกว่าท่านี้มีประโยชน์อนันต์ก็คงไม่เว่อร์เท่าไร เพราะนอกจากจะช่วยลดหน้าท้องได้แล้ว ยังช่วยแก้อาการปวดหลัง ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย รวมไปถึงช่วยปรับบุคลิกภาพของเราให้ดูดีขึ้นได้อีกด้วย

          - นอนคว่ำ เหยียดตัวตรง เกร็งคอ และศีรษะลอยจากพื้น 

          - ตั้งศอกทั้ง 2 ข้างกับพื้น ค่อย ๆ ยันตัวขึ้น โดยให้ศอกทั้ง 2 ข้างห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่

          - ยกสะโพกขึ้น เกร็งลำตัวและคอให้อยู่ในระนาบเดียวกัน ค้างท่าไว้ 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

9. High Knees

          ท่านี้ก็เหมือนกับการวิ่งอยู่กับที่นั่นแหละ แต่แค่ยกเข่าให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและขาให้เฟิร์มยิ่งขึ้นไปอีก !

          - ยืนตรงในท่าที่สบาย

          - ยกแขนทั้ง 2 ข้าง ขนานกับพื้น เริ่มต้นวิ่งอยู่กับที่ ขณะที่วิ่งพยายามยกเข่าสูงให้แตะกับมือที่ยื่นออกมา หรือยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

          - พยายามสับขาให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้ โดยทำข้างละ 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

10. Lunge

          อีกหนึ่งท่าออกกำลังกายสไตล์บอดี้เวท ที่ช่วยกระชับต้นขาให้ฟิตเปรี๊ยะในท่าง่าย ๆ แถมยังช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพกและหน้าขาได้อีกด้วย

          - ยืนตรง แยกขาออกเท่าสะโพก ยกมือเท้าเอว

          - ยกเข่าขวาตั้งฉากแล้วก้าวขาขวาออกไปทางด้านหน้า โดยที่หลังยังตรงและงอเข่าซ้ายเล็กน้อย ให้ขาขวาทำมุม 90 องศากับพื้น

          - ยกขาขวากลับคืนสู่ท่าเริ่มต้น จากนั้นสลับทำอีกข้าง ข้างละ 30 วินาที พัก 10 วินาทีก่อนเริ่มท่าใหม่


ท่าออกกำลังกาย

11. Push-Up With Rotation

          ท่าวิดพื้นขั้นกว่าที่จะเปิดโอกาสให้เราได้ใช้กำลังแขนและกล้ามหน้าท้องเพิ่มขึ้น โดยมีวิธีดังนี้

          - นอนคว่ำในท่าวิดพื้นปกติ

          - หมุนตัวพร้อมกับยกแขนข้างหนึ่งออกไปทางด้านข้างจนร่างกายเป็นรูปตัว "T" วางแนวนอน

          - ค้างท่าไว้ 30 วินาที จากนั้นกลับคืนสู่ท่าเริ่มต้น และสลับทำอีกด้านให้ครบ 30 วินาที พัก 10 วินาที

ท่าออกกำลังกาย

12. Side Plank

          อีกหนึ่งท่าแพลงก์ที่ถ้าอยากได้พุงยุบ หลังตรง บุคลิกดีขึ้นก็ต้องลอง ซึ่งท่าแพลงก์สไตล์นี้จะช่วยให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อทรงตัวให้นิ่งมากกว่าท่าแพลงก์เบสิก

          - นอนตะแคงซ้าย ใช้แขนและข้อศอกยันตัวขึ้นโดยให้สะโพกยังวางอยู่กับพื้น

          - ค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้น ตามด้วยเหยียดแขนข้างขวาตรงขึ้นไปข้างบน

          - เกร็งคอ ลำตัว และสะโพกให้อยู่ในระนาบเดียวกัน ค้างท่าไว้ 30 วินาที คลายท่า แล้วสลับข้างอีก 30 วินาที พัก 10 วินาที

          นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบบ่นว่ามีเวลาออกกำลังกายน้อยหรือไม่ค่อยมีเวลาจะออกกำลังกาย ซึ่งหากใครออกกำลังกายจบไป 1 ยกแล้วจะเพิ่มรอบเป็น 2-3 รอบก็แล้วแต่ความต้องการเลยนะคะ หรือหากจะแบ่งเวลาไปออกกำลังกายแนวอื่นเพื่อความหลากหลายในการเบิร์นบ้างก็ได้เช่นกัน






ขอบคุณข้อมูลจาก
New York Times
Greatist
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
12 ท่าออกกำลังกายใน 7 นาที การันตีว่าเวิร์กจริง ! อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 14:08:21 78,051 อ่าน
TOP
x close