ไม่ใช่แค่ว่า "มันก็จะดีขึ้นหน่อย ๆ" เหมือนคำยอดฮิตที่ชอบพูดกัน
แต่... "มันจะดีขึ้นอย่างมาก ๆ" จนคุณต้องทึ่ง เมื่อเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แต่หลายคนอาจยังใจไม่แข็งพอต่อการลด ละ เลิก ในช่วงที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้ โอกาสดีมาถึงแล้ว ถึงฤดูกาลเข้าพรรษาแล้ว
ลองใจแข็ง ๆ ดู แล้ววางขวดวางแก้ว "พักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์"
รับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ ! ว่าสุขภาพตับ จะดีขึ้นเห็น ๆ คอนเฟิร์ม !
รู้หรือไม่ว่า การดื่มสุราเป็นสาเหตุของ 200 โรคและการบาดเจ็บ ข้อมูลที่น่าสะพรึงซึ่งมาจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลกมากถึง 3.3 ล้านคนต่อปี หรือทุก 10 วินาที จะมีคนตาย 1 คน ขณะที่คนไทยมีสถิติการตายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุก ๆ 20 นาที หรือคิดเป็นจำนวนประมาณปีละ 26,000 คน
น่าตกใจไหมล่ะ ?
แต่ที่แน่ยิ่งกว่าแน่ก็คือว่า การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อตับโดยตรง และเป็นที่มาของโรคที่รุนแรงหลายโรค ซึ่งถ้าโชคร้าย อาจลุกลามบานปลาย ถึงขั้นรักษาไม่หาย และเสียชีวิต
ไล่ตั้งแต่โรค "ไขมันสะสมในตับ" ที่มักไม่มีอาการใด ๆ ปรากฏ และถ้าหยุดดื่มเหล้า ตับจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ แต่ถ้าไม่เลิก ไขมันที่สะสมในตับนี้ก็จะนำไปสู่โรคที่รุนแรงขึ้นตามลำดับ
นั่นก็คือ "ตับอักเสบ" ที่แรก ๆ อาจจะไม่แสดงอาการเลย หรืออาจจะมีแค่เพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สังเกต เช่น รู้สึกจุกแน่นที่บริเวณชายโครงด้านขวา ไม่ค่อยมีแรงหรือเหนื่อยง่าย ตรวจพบเอนไซม์ตับสูงขึ้น ซึ่งในระยะต้นอาจจะยังฟื้นฟูได้ ถ้าหยุดสุรานานพอ แต่ถ้าตับอักเสบเริ่มรุนแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็ อาการต่อไปนี้ พึงระวังให้ดี เช่น เป็นดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง บางครั้งอาจมีอาการทางสมอง สับสน วุ่นวาย ไปจนถึงหมดสติ หรือเกิดภาวะตับวาย
และสุดท้าย โรคที่พูดได้ว่าเป็นอันตรายอย่างสูงสุดของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็คือ "ตับแข็ง" ที่ถ้าเป็นแล้ว หากเลิกดื่มได้ ก็จะช่วยป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อตับเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้ายังฝืนดื่มต่อไป อัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตจะยิ่งสูงตามไปด้วย จากอาการตับวาย
และเหนืออื่นใดเลยก็คือ นอกจากตับแข็ง ยังมีโรคมะเร็งตับอีกอย่างที่น่ากลัว หลังจากตับแข็งทั้งก้อนแล้ว ก็สามารถพัฒนาไปเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด นับเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้นอีกนับร้อยเท่า
วิธีการที่ง่ายที่สุด ก็คือการ "พักตับ" ซึ่งหมายถึงการ "พักดื่ม"
ให้โอกาส "ตับ" ได้รักษาตัวเอง หรือถ้าเลิกดื่มได้เลย ก็จะยิ่งทำให้ตับดียิ่งขึ้นไปอีกในระยะยาว
ถามว่า วาระโอกาสไหนล่ะ จะเหมาะสมดีงามเท่ากับช่วงฤดูกาล "เข้าพรรษา" 3 เดือนนี้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หลายต่อหลายคน ได้ใช้โอกาสนี้ในการ "พักตับ" ละเลิกจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วชีวิตดีขึ้น
ตัวอย่างดี ๆ ก็มีให้เห็นกันชัด ๆ จากข้อมูลโครงการ "งดเหล้าเข้าพรรษา" ซึ่งจัดทำโดย "นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์" หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลน่าน ซึ่งได้ทำการสำรวจผ่านโครงการรณรงค์ "ลด ละ เลิก ดื่มเหล้า" ด้วยการตรวจเอนไซนม์ตับของกลุ่มคนทำงานในสถานประกอบการจังหวัดน่าน จำนวน 3,752 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 17–65 ปี โดยเริ่มตรวจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556-2558 พบว่าผู้ชายวัยทำงานมีเอนไซม์ตับสูงผิดปกติถึงร้อยละ 33.6 โดยสาเหตุเกิดจากการดื่มสุรามากเกินไป
และคุณหมอก็ได้พบกับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง !
เพราะเมื่อแนะนำให้ผู้ที่เริ่มมีภาวะตับอักเสบ งดเหล้าเข้าพรรษา ผลการตรวจเอนไซม์ตับซ้ำ พบว่า ผู้ที่งดเหล้าเข้าพรรษา จะมีเอนไซม์ตับดีขึ้น กลับมาเป็นปกติใน 3 เดือน 100% แต่ผู้ที่ไม่ถึงกับงดเหล้า แต่ลดการดื่มลงแบบความเสี่ยงต่ำ จะมีระดับเอนไซม์ตับกลับมาเป็นปกติได้ถึง 72.7 % และกลับมามีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
รู้อย่างนี้แล้ว "เข้าพรรษา" ที่จะมาถึงนี้ เรามา "เลิกดื่ม" เพื่อ "พักตับ" กันดีกว่า
เพื่อให้ตับได้ "ฟื้นฟู" และ "รักษาตัวเอง"
ทั้งนี้ก็ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน
หากแต่เพื่อตัวเราเอง รวมทั้งคนที่เรารัก
ก่อนที่จะสายเกินไป...
เข้าพรรษานี้ พักตับ พักดื่ม ให้ตับฟื้นฟู
ปรึกษาเรื่องพักดื่มได้ที่ โทร. 1413
www.stopdrink.com