มะม่วงมหาชนก ผลไม้ที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนใจ จนใคร ๆ ต้องซื้อกลับบ้าน สามารถกินต้านโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ด้วยนะคะ
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก](http://img.kapook.com/u/2017/wanchalerm/Health_01_60/m2_1.jpg)
มีงานวิจัยมากมายพบว่าผักและผลไม้หลายชนิดมีสารที่ช่วยป้องกันโรคร้ายอย่างมะเร็งได้
อย่างเช่น ส้ม แอปเปิล มะเขือเทศ องุ่น มะละกอ มะขามป้อม
และผลไม้ตระกูลเบอร์รี แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น
เพราะล่าสุดงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดเผยว่า มะม่วงมหาชนก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ช่วยต้านโรคร้ายอย่างมะเร็งและลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก]()
มะม่วงมหาชนก ประวัติความเป็นมา
มะม่วงชื่อสง่างามแถมสีสันยังจัดว่าน่ากินพันธุ์นี้ได้รับพระราชทานชื่อมาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมะม่วงมหาชนกเป็นพันธุ์ที่ได้จากต้นที่ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มะม่วงพันธุ์ซันเซท กับพันธ์ุหนังกลางวัน ที่สวนของอาจารย์ประพัฒน์ สิทธิสังข์ อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยคุณเดช ทิวทอง ได้นําไปทดลองปลูกไว้ที่สวนในอําเภอลี้ จังหวัดลําพูน ภาคเหนือตอนบน เป็นที่แรก นับเป็นต้นกำเนิดของมะม่วงมหาชนกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มะม่วงมหาชนกมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Mahachanok หรือ Rainbow Mango ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Mangifera indica L. โดยมะม่วงมหาชนกมีแคลอรีต่อ 1/4 ผล หรือน้ำหนัก 65 กรัม อยู่ที่ประมาณ 51-55 กิโลแคลอรี และในปริมาณ 1/4 ผลของมะม่วงมหาชนก จะมีปริมาณน้ำตาลประมาณ 10.9 กรัม หรือราว ๆ 2.7 ช้อนชา ซึ่งถือว่าหวานมากเลยทีเดียว
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก](http://img.kapook.com/u/2017/wanchalerm/Health_01_60/m1_1.jpg)
มะม่วงชื่อสง่างามแถมสีสันยังจัดว่าน่ากินพันธุ์นี้ได้รับพระราชทานชื่อมาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมะม่วงมหาชนกเป็นพันธุ์ที่ได้จากต้นที่ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มะม่วงพันธุ์ซันเซท กับพันธ์ุหนังกลางวัน ที่สวนของอาจารย์ประพัฒน์ สิทธิสังข์ อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยคุณเดช ทิวทอง ได้นําไปทดลองปลูกไว้ที่สวนในอําเภอลี้ จังหวัดลําพูน ภาคเหนือตอนบน เป็นที่แรก นับเป็นต้นกำเนิดของมะม่วงมหาชนกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มะม่วงมหาชนกมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Mahachanok หรือ Rainbow Mango ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Mangifera indica L. โดยมะม่วงมหาชนกมีแคลอรีต่อ 1/4 ผล หรือน้ำหนัก 65 กรัม อยู่ที่ประมาณ 51-55 กิโลแคลอรี และในปริมาณ 1/4 ผลของมะม่วงมหาชนก จะมีปริมาณน้ำตาลประมาณ 10.9 กรัม หรือราว ๆ 2.7 ช้อนชา ซึ่งถือว่าหวานมากเลยทีเดียว
สรรพคุณของมะม่วงมหาชนกไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ค่ะ เพราะถูกยืนยันประโยชน์โดยงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เห็นสีสันแปลกตาของมะม่วงมหาชนกตอนสุก จนนำไปสู่การศึกษาเกี่ยวกับสารอาหารที่มีอยู่ในมะม่วงมหาชนกเพื่อนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ เนื่องจากเล็งเห็นว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในปัจจุบันต้องการกินอาหารจากธรรมชาติ ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์และสามารถป้องกันโรคได้มากขึ้นกว่าอดีต
โดยการศึกษาชิ้นนี้เป็นผลงานของโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) ที่ร่วมมือกับนายรัฐพล เมืองเอก นักศึกษาปริญญาเอกจากคณะเกษตรศาสตร์ และ ผศ. ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท อาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้ทำการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดสีแดง และปริมาณแอนโทไซยานินในผลมะม่วงมหาชนกแล้วพบว่า เมื่อฉีดสารเมทิลจัสโมเนตที่ความเข้มข้น 80 ไมโครลิตรต่อมิลลิลิตรเข้าไปในผลมะม่วงมหาชนก จะสามารถปรับปรุงคุณภาพ เช่น วิตามินซี ปริมาณน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส ซูโครส และพบการเพิ่มขึ้นของปริมาณแคโรทีนอยด์ เท่ากับ 1.43 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัมของน้ำหนักสด มากกว่าการไม่ฉีดพ่นสารดังกล่าว
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก](http://img.kapook.com/u/2017/wanchalerm/Health_01_60/m5_1.jpg)
อีกทั้งการใช้สารเมทิลจัสโมเนตและอีทีฟอนจะมีผลในการเพิ่มระดับของแคโรทีนอยด์ระหว่างการสุกแก่มากกว่ามะม่วงที่ไม่ใช้สาร 50% โดยพบมากที่สุดในช่วงวันที่ 5-6 ของการเก็บรักษา (ระยะพร้อมรับประทาน) อีกทั้งการประยุกต์ใช้สารเมทิลจัสโมเนตและอีทีฟอนยังสามารถควบคุมกระบวนการสุกและปรับปรุงคุณภาพทางโภชนาการของผลมะม่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น แต่นักวิจัยยังศึกษาและพบว่า มะม่วงมหาชนกที่ได้รับแสงร่วมกับการฉีดสารเมทิลจัสโมเนต ความเข้มข้น 80 ไมโครลิตรต่อมิลลิลิตร ที่อายุผล 90 วัน จะทำให้เปลือกของมะม่วงมีพื้นที่สีแดงเพิ่มมากขึ้นประมาณ 25% แถมยังมีปริมาณแอนโทไซยานินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก](http://img.kapook.com/u/2017/wanchalerm/Health_01_60/m3_1.jpg)
![มะม่วงมหาชนก มะม่วงมหาชนก](http://img.kapook.com/u/2017/wanchalerm/Health_01_60/m4_1.jpg)
นอกจากนี้ ผศ. ดร.พีระศักดิ์ ยังให้ข้อมูลถึงสารต้านอนุมูลอิสระในพืชอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจ คือ สารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ให้สีแดง สีม่วง หรือสีน้ำเงินกับพืช โดยสารชนิดนี้จะช่วยยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีในระบบทางเดินอาหาร ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงโรคหัวใจ รวมทั้งลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดในสมองได้ และก็แน่นอนค่ะว่า สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ก็พบได้ในมะม่วงมหาชนกซึ่งเป็นมะม่วงพันธุ์ที่เปลือกผลเมื่อแก่หรือสุกจะมีผิวสีแดงม่วงหรือเหลืองเข้มปนแดงด้วยเช่นกัน
สรุปได้ว่าในมะม่วงมหาชนกมีสารแคโรทีนอยด์และสารแอนโทไซยานินที่ช่วยต้านโรคมะเร็งและลดความเสี่ยงโรคหัวใจอยู่ จึงทำให้การกินมะม่วงมหาชนกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคทั้งสองได้ อีกทั้งผลของการวิจัยนี้ยังสามารถช่วยให้มะม่วงมหาชนกเป็นที่ต้องการของตลาด ช่วยเหลือเกษตรกร และสร้างมูลค่าให้กับมะม่วงมหาชนกได้มากขึ้นด้วยค่ะ
ภาพจาก มหาวิทยาลัยนเรศวร, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
![](http://img.kapook.com/image/Logo/krobkruakao_logo.jpg)
มหาวิทยาลัยนเรศวร
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
คุณค่าทางโภชนาการในผลไม้ กรมอนามัย
ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ไทย กรมอนามัย