โครงการพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีอยู่มากมายแทบนับไม่ถ้วน และหนึ่งในโครงการพระราชดำริด้านสาธารณสุขไทย ที่ทางกระปุกดอทคอมอยากนำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักอีกหนึ่งโครงการก็คือ สถาบันราชประชาสมาสัย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยผู้ป่วยโรคเรื้อน พร้อมทั้งควบคุมโรคเรื้อนไม่ให้ระบาดไปสร้างความเจ็บป่วยให้พสกนิกรไทยได้อีก
สถาบันราชประชาสมาสัยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2493 โดยจุดกำเนิดของการก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัยก็เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อนและควบคุมโรคเรื้อนไม่ให้เกิดกับพสกนิกรไทยอีกต่อไป เนื่องจากในช่วงต้นรัชกาลที่ 9 เกิดโรคระบาดอย่างโรคเรื้อน โรคอหิวาตกโรค และโรคโปลิโอ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหรือก่อให้เกิดความพิการทางร่างกาย
ครั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทราบเรื่องและทอดพระเนตรเห็นผู้ป่วยโรคเรื้อนในที่สาธารณะ จึงมีพระราชดำริว่า จะต้องเร่งรีบช่วยเหลืออย่างจริงจัง หลังจากนั้นพระองค์ก็มีพระราชดำริให้กระทรวงสาธารณสุขจัดตั้งสถาบันราชประชาสมาสัย ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ป่วยโรคเรื้อนดีขึ้นเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับที่มาของชื่อสถาบัน "ราชประชาสมาสัย" ซึ่งเป็นชื่อพระราชทาน อันมีความหมายลึกซึ้งว่า "พระมหากษัตริย์และประชาชน ย่อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน"
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างอาคารสถาบันราชประชาสมาสัย โดยมีเงินสมทบจากราชวงศ์ ข้าราชบริพาร และประชาชน เพื่อช่วยก่อสร้างอาคารสถาบันราชประชาสมาสัยจนแล้วเสร็จ และในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร สถาบันราชประชาสมาสัยอย่างเป็นทางการ
หน้าที่สำคัญของสถาบันราชประชาสมาสัย คือ การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน ตลอดจนค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ความรู้เรื่องการป้องกันและการรักษาโรคเรื้อน รวมไปถึงให้บริการด้านการฟื้นฟูร่างกายและการฝึกอาชีพแก่ผู้ป่วยโรคเรื้อน จนในที่สุดการควบคุมโรคเรื้อนไม่ให้ระบาดในประเทศไทยก็สำเร็จไปด้วยดี โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ก็พบว่าอัตราการระบาดของโรคเรื้อนลดน้อยลงเป็น 0.11 ต่อจำนวนประชากร 10,000 คน นับว่าโรคเรื้อนไม่เป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขของไทยอีกต่อไป
ในเวลาต่อมา สถาบันราชประชาสมาสัยได้ขยายบริการทางด้านสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กล่าวคือ มีการพัฒนาด้านบุคลากร เครื่องมือ เทคโนโลยี และสถานที่ เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยในหลากหลายโรค รวมไปถึงได้เพิ่มบริการตรวจรักษาโรคแก่ประชนทั่วไป โดยในปัจจุบัน สถาบันราชประชาสมาสัย เป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางที่รักษาโรคเรื้อน (โรคผิวหนังเนื้อชา) และรับรักษาโรคทั่วไป เช่น เบาหวาน โรคตา ภูมิแพ้ โรคข้อและกระดูก โรคผิวหนัง ฯลฯ ภายใต้การดูแลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันราชประชาสมาสัยตั้งอยู่ที่ ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากสถาบันราชประชาสมาสัยแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขยังได้ขอพระราชทานพระบรมราชชานุญาต นำเงินพระราชทานที่คงเหลือจากการก่อสร้างอาคารสถาบันราชประชาสมาสัย มาจัดตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการทำงานกำจัดโรคเรื้อน ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิใช้นามว่า "มูลนิธิราชประชาสมาสัย" และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมป์
โดยในการปฏิบัติงานของมูลนิธิฯ ได้น้อมนำพระราชปณิธานในการสนับสนุนการดำเนินงานทุกด้าน นับตั้งแต่ด้านการแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษาบุตรผู้ป่วย ตลอดจนการสงเคราะห์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยพิการ ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิน้อมนำพระราชปณิธาน เป็นหลักในการปฏิบัติงาน สนับสนุนงานของสถาบันราชประชาสมาสัย และกระทรวงสาธารณสุขตลอดมา
นอกจากนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทอดพระเนตรเห็นเด็กจำนวนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อน และทางการได้รับมาดูแลแยกไว้ พระองค์ก็ทรงมีพระราชดำรัสว่า เด็กเหล่านี้ควรมีที่เรียน และทรงมีพระราชดำริให้สร้างโรงเรียนราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อรับบุตรผู้ป่วยที่ทางการเลี้ยงแยกจากบิดามารดาที่ป่วยเป็นโรคเรื้อน ตั้งแต่วัยแรกเกิด ให้เข้ามาเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่มีพระราชดำริให้สร้างสถาบันรัชประชาสมาสัย ไม่เพียงแต่ช่วยพลิกฟื้นชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อนที่เคยได้รับความเจ็บป่วยจากอาการของโรคให้มีอาการดีขึ้นเท่านั้น แต่ในด้านจิตใจของผู้ป่วยโรคเรื้อนก็เสมือนได้อยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ด้วยเช่นกัน เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ตรัสและเยี่ยมเยียนราษฎรที่ป่วยเป็นโรคเรื้อนอย่างใกล้ชิด ไม่ต่างจากครั้งเสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎร ณ ที่ไหน ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนอยู่ร่วมกับบุคคลทั่วไปได้อย่างสบายใจขึ้น ไม่โดนดูถูก โดนรังเกียจ เหมือนในอดีต
อีกทั้งเมื่อมีหน่วยงานอย่างสถาบันรัชประชาสมาสัย ให้ความรู้เรื่องโรคเรื้อน มีการรักษา พร้อมด้วยวิธีป้องกันโรคเรื้อนอย่างจริงจัง ก็ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจโรคเรื้อนมากขึ้นด้วย...เราทุกคนล้วนโชคดี ที่ได้อยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน พระผู้เสด็จสู่สวรรค์คาลัย สถิตในดวงใจคนไทยตราบนิจนิรันดร์
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
สถาบันราชประชาสมาสัย
สำนักงาน กปร.
เฟซบุ๊กมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
โรงเรียนราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์