ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น ในแบบที่เราเองยังรู้สึกว่ากลิ่นประจำเดือนเหม็นเค็ม เหม็นคาว หรือเหม็นเน่า สัญญาณเหล่านี้สาว ๆ อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะอาจมีความผิดปกติในอวัยวะภายในร่างกายของเราก็เป็นได้
ประจำเดือนแบบไหน ไม่ผิดปกติ
ลักษณะของประจำเดือนปกติจะเป็นเลือดสีแดงคล้ำ และเป็นน้ำข้นคล้ายเมือก โดยไม่มีลิ่มเลือดปนอยู่ นอกจากกรณีประจำเดือนมาก ๆ ก็อาจมีลิ่มเลือดปนอยู่บ้างนิดหน่อย ประจำเดือนโดยปกติแล้วจะไม่มีลักษณะช้ำเลือดช้ำหนอง มีกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นปกติ
ทั้งนี้ประจำเดือนมักจะมามากในวันแรกหรือวันที่สอง แล้วปริมาณเลือดประจำเดือนจะลดน้อยลง และโดยส่วนใหญ่ประจำเดือนจะมาประมาณ 3-7 วัน และโดยเฉลี่ยแล้วปริมาณเลือดประจำเดือนที่ไหลออกมาจากช่องคลอดจะกะได้คร่าว ๆ ประมาณ 50-250 มิลลิลิตร ต่อการมีประจำเดือนแต่ละครั้ง
ซึ่งจริง ๆ แล้วเราสามารถสังเกตความมาก-น้อยของประจำเดือนได้จากผ้าอนามัยด้วยค่ะ โดยผ้าอนามัย 1 แผ่นจะซับเลือดได้มากถึง 30-40 มิลลิลิตร (ผ้าอนามัยชุ่มไปด้วยประจำเดือน) ซึ่งหากใน 1 วัน สาว ๆ ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ชุ่มเลือดมากกว่า 6 แผ่น นั่นก็ถือว่าเข้าข่ายประจำเดือนมามาก ซึ่งอาจจะไม่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะการที่ประจำเดือนมามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกันค่ะ ทั้งความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย สภาพจิตใจ (ความเครียด ความกังวล) หรือหากประจำเดือนมาน้อยมาก มาแบบแค่เปื้อนผ้าอนามัยนิดหน่อย 1-2 วันก็หมด ก็อาจไม่ผิดปกติเช่นกัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังที่เราได้กล่าวไป
ทว่าหากประจำเดือนมาก พร้อมทั้งมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น รู้สึกแสบคันช่องคลอด หรือได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณบอกถึงโรคทางกายก็เป็นได้
ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น เสี่ยงเป็นอะไรบ้าง
ประจำเดือนตามปกติแล้วจะมีกลิ่นคาวเลือดพอให้รู้สึกได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ แต่ในบางคนอาจจะได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นคาวผิดปกติไป บ้างได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นเค็ม บ้างก็ได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นเน่า ซึ่งการที่ประจำเดือนมีกลิ่น อาจเป็นสัญญาณบอกโรคเหล่านี้ก็ได้
1. เชื้อราในช่องคลอด
หากเลือดประจำเดือนที่ออกมามีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ อาจหมายถึงอาการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด โดยเฉพาะหากสังเกตว่าประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวตลอดช่วงรอบเดือน และมีอาการคันภายในช่องคลอด อีกทั้งก่อนหรือหลังเป็นประจำเดือนก็มีตกขาวสีเหลืองเข้มลักษณะเหมือนแป้งเปียกออกมาจากช่องคลอดด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาการติดเชื้ออาจลุกลามจนทำให้มดลูกอักเสบได้นะคะ
2. การติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูก
หากได้กลิ่นประจำเดือน ตกขาว หรือสังเกตได้ว่าน้องสาวมีกลิ่นเหม็นเค็ม นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกถึงอาการติดเชื้อในช่องคลอด หรือการติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิบางชนิดที่ปากมดลูก ซึ่งเคสนี้ก็ควรรีบรักษานะคะ เพราะเชื้อโรคอาจลุกลามทำให้เกิดอาการมดลูกอักเสบ หรือโรคที่ร้ายแรงกว่านั้นได้
3. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
อาการมีเลือดออกซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ก็ได้ พร้อมกับมีกลิ่นเหม็นเค็ม เหม็นอับ ๆ มีหนองปน หรือกลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมกับอาการแสบอวัยวะเพศขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นได้ว่านี่คือสัญญาณที่ส่อถึงการติดเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ และอาจเป็นหนึ่งอาการที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคใดโรคหนึ่งก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือคู่นอนของเรามีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ และคนที่ไม่สวมถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคอะไรบ้างที่คู่รักต้องระวัง
4. มะเร็งปากมดลูก
สำหรับคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์หรือวัยใกล้หมดประจำเดือนแล้วพบว่า มีอาการเลือดออกหลังการร่วมเพศ รวมทั้งมีเลือดออกจากช่องคลอด (อาจไม่ใช่ประจำเดือนหรือเป็นประจำเดือนก็ได้) ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 10 วัน พร้อมทั้งประจำเดือนหรือเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าและอาจมีเศษเนื้อปนออกมากับเลือดด้วย ให้สงสัยถึงโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. มะเร็งปากช่องคลอด
หากมีอาการคันปากช่องคลอด ร่วมกับมีแผลหรือก้อนเนื้อที่ปากช่องคลอด และเลือดที่ออกจากช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นเน่า เคสนี้ให้เดาถึงโรคมะเร็งปากช่องคลอดไว้ก่อน และควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
6. มะเร็งในช่องคลอด
ในเคสนี้เลือดที่ออกมามักจะไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ แต่เป็นเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด โดยจะเริ่มจากมีตกขาวกลิ่นเหม็น มีเลือดปนกับตกขาวออกมาด้วย หลังจากนั้นหากรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ (เกิดแผลในช่องคลอด) จะมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดโดยที่แยกไม่ได้ว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ แต่จะสังเกตได้ว่าเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเหมือนเลือดปนหนอง ซึ่งหากไม่รีบรักษา เซลล์มะเร็งอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้
7. มะเร็งมดลูก
กลิ่นเหม็นจากเลือดที่คิดว่าเป็นประจำเดือนในเคสนี้ก็ไม่ใช่เลือดประจำเดือนเช่นกันค่ะ เนื่องจากโรคมะเร็งมดลูกมักพบได้บ่อยในหญิงสูงอายุ ซึ่งเป็นวัยหมดประจำเดือนแล้ว แต่กลับพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอด ลักษณะเลือดนั้นมีสีช้ำเลือดช้ำหนองและมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ซึ่งหากญาติผู้ใหญ่ใครมีอาการในลักษณะนี้ ก็อย่านิ่งนอนใจ รีบพาไปพบสูตินรีแพทย์โดยไวดีกว่า
เลือดที่ออกมาจากช่องคลอดอาจเป็นประจำเดือนที่ผิดปกติ หรืออาจเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม หากพบความผิดปกติอย่างกลิ่นประจำเดือนเหม็น หรือความผิดปกติอื่น ๆ ก็ขอให้รีบไปตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุของอาการที่แท้จริงจะดีกว่านะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
การควบคุมและป้องกันโรค สถาบันพลศึกษาเขตสุพรรณบุรี
ความผิดปกติของประจำเดือนไม่ว่าจะในรูปแบบไหน
ถ้าเกิดขึ้นกับเราเมื่อไรก็คงไม่สบายใจแน่นอนอยู่แล้วจริงไหมคะ
ยิ่งหากประจำเดือนผิดปกติให้สังเกตได้ อย่างเช่น ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น ในแบบประจำเดือนเหม็นเค็ม หรือกลิ่นประจำเดือนเหม็นคาวจนเกินไป สาว ๆ
ก็ควรต้องเอะใจกันไว้หน่อยค่ะ เพราะกลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติ
อาจเป็นสัญญาณถึงสุขภาพภายในร่างกายของเราที่ไม่ปกติเช่นกัน
เกิดเป็นผู้หญิงทั้งที ชีวิตนี้ต้องมีประจำเดือนกันอยู่แล้วค่ะ เพราะประจำเดือนก็คือเลือดปกติที่ออกจากโพรงมดลูก เนื่องจากมีการหลุดลอกของโพรงมดลูกตามธรรมชาติในทุก ๆ 24-32 วัน (รอบเดือน) อันเป็นกลไกการทำงานปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ของร่างกายเรา
โดยประจำเดือนจะเริ่มมีในช่วงวัย 10 ขวบ - 18 ปี (บางคนมาช้า บางคนมาเร็ว ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกาย รวมทั้งกรรมพันธุ์) กระทั่งอายุประมาณ 45-55 ปี ก็จะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
ประจำเดือน เรื่องธรรมดาของผู้หญิง
เกิดเป็นผู้หญิงทั้งที ชีวิตนี้ต้องมีประจำเดือนกันอยู่แล้วค่ะ เพราะประจำเดือนก็คือเลือดปกติที่ออกจากโพรงมดลูก เนื่องจากมีการหลุดลอกของโพรงมดลูกตามธรรมชาติในทุก ๆ 24-32 วัน (รอบเดือน) อันเป็นกลไกการทำงานปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ของร่างกายเรา
โดยประจำเดือนจะเริ่มมีในช่วงวัย 10 ขวบ - 18 ปี (บางคนมาช้า บางคนมาเร็ว ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกาย รวมทั้งกรรมพันธุ์) กระทั่งอายุประมาณ 45-55 ปี ก็จะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
ลักษณะของประจำเดือนปกติจะเป็นเลือดสีแดงคล้ำ และเป็นน้ำข้นคล้ายเมือก โดยไม่มีลิ่มเลือดปนอยู่ นอกจากกรณีประจำเดือนมาก ๆ ก็อาจมีลิ่มเลือดปนอยู่บ้างนิดหน่อย ประจำเดือนโดยปกติแล้วจะไม่มีลักษณะช้ำเลือดช้ำหนอง มีกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นปกติ
ทั้งนี้ประจำเดือนมักจะมามากในวันแรกหรือวันที่สอง แล้วปริมาณเลือดประจำเดือนจะลดน้อยลง และโดยส่วนใหญ่ประจำเดือนจะมาประมาณ 3-7 วัน และโดยเฉลี่ยแล้วปริมาณเลือดประจำเดือนที่ไหลออกมาจากช่องคลอดจะกะได้คร่าว ๆ ประมาณ 50-250 มิลลิลิตร ต่อการมีประจำเดือนแต่ละครั้ง
ซึ่งจริง ๆ แล้วเราสามารถสังเกตความมาก-น้อยของประจำเดือนได้จากผ้าอนามัยด้วยค่ะ โดยผ้าอนามัย 1 แผ่นจะซับเลือดได้มากถึง 30-40 มิลลิลิตร (ผ้าอนามัยชุ่มไปด้วยประจำเดือน) ซึ่งหากใน 1 วัน สาว ๆ ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ชุ่มเลือดมากกว่า 6 แผ่น นั่นก็ถือว่าเข้าข่ายประจำเดือนมามาก ซึ่งอาจจะไม่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะการที่ประจำเดือนมามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกันค่ะ ทั้งความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย สภาพจิตใจ (ความเครียด ความกังวล) หรือหากประจำเดือนมาน้อยมาก มาแบบแค่เปื้อนผ้าอนามัยนิดหน่อย 1-2 วันก็หมด ก็อาจไม่ผิดปกติเช่นกัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังที่เราได้กล่าวไป
ทว่าหากประจำเดือนมาก พร้อมทั้งมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น รู้สึกแสบคันช่องคลอด หรือได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณบอกถึงโรคทางกายก็เป็นได้
ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น เสี่ยงเป็นอะไรบ้าง
ประจำเดือนตามปกติแล้วจะมีกลิ่นคาวเลือดพอให้รู้สึกได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ แต่ในบางคนอาจจะได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นคาวผิดปกติไป บ้างได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นเค็ม บ้างก็ได้กลิ่นประจำเดือนเหม็นเน่า ซึ่งการที่ประจำเดือนมีกลิ่น อาจเป็นสัญญาณบอกโรคเหล่านี้ก็ได้
1. เชื้อราในช่องคลอด
หากเลือดประจำเดือนที่ออกมามีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ อาจหมายถึงอาการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด โดยเฉพาะหากสังเกตว่าประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวตลอดช่วงรอบเดือน และมีอาการคันภายในช่องคลอด อีกทั้งก่อนหรือหลังเป็นประจำเดือนก็มีตกขาวสีเหลืองเข้มลักษณะเหมือนแป้งเปียกออกมาจากช่องคลอดด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาการติดเชื้ออาจลุกลามจนทำให้มดลูกอักเสบได้นะคะ
2. การติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูก
หากได้กลิ่นประจำเดือน ตกขาว หรือสังเกตได้ว่าน้องสาวมีกลิ่นเหม็นเค็ม นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกถึงอาการติดเชื้อในช่องคลอด หรือการติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิบางชนิดที่ปากมดลูก ซึ่งเคสนี้ก็ควรรีบรักษานะคะ เพราะเชื้อโรคอาจลุกลามทำให้เกิดอาการมดลูกอักเสบ หรือโรคที่ร้ายแรงกว่านั้นได้
อาการมีเลือดออกซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ก็ได้ พร้อมกับมีกลิ่นเหม็นเค็ม เหม็นอับ ๆ มีหนองปน หรือกลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมกับอาการแสบอวัยวะเพศขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นได้ว่านี่คือสัญญาณที่ส่อถึงการติดเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ และอาจเป็นหนึ่งอาการที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคใดโรคหนึ่งก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือคู่นอนของเรามีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ และคนที่ไม่สวมถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคอะไรบ้างที่คู่รักต้องระวัง
สำหรับคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์หรือวัยใกล้หมดประจำเดือนแล้วพบว่า มีอาการเลือดออกหลังการร่วมเพศ รวมทั้งมีเลือดออกจากช่องคลอด (อาจไม่ใช่ประจำเดือนหรือเป็นประจำเดือนก็ได้) ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 10 วัน พร้อมทั้งประจำเดือนหรือเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าและอาจมีเศษเนื้อปนออกมากับเลือดด้วย ให้สงสัยถึงโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. มะเร็งปากช่องคลอด
หากมีอาการคันปากช่องคลอด ร่วมกับมีแผลหรือก้อนเนื้อที่ปากช่องคลอด และเลือดที่ออกจากช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นเน่า เคสนี้ให้เดาถึงโรคมะเร็งปากช่องคลอดไว้ก่อน และควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ในเคสนี้เลือดที่ออกมามักจะไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ แต่เป็นเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด โดยจะเริ่มจากมีตกขาวกลิ่นเหม็น มีเลือดปนกับตกขาวออกมาด้วย หลังจากนั้นหากรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ (เกิดแผลในช่องคลอด) จะมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดโดยที่แยกไม่ได้ว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ แต่จะสังเกตได้ว่าเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเหมือนเลือดปนหนอง ซึ่งหากไม่รีบรักษา เซลล์มะเร็งอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้
7. มะเร็งมดลูก
กลิ่นเหม็นจากเลือดที่คิดว่าเป็นประจำเดือนในเคสนี้ก็ไม่ใช่เลือดประจำเดือนเช่นกันค่ะ เนื่องจากโรคมะเร็งมดลูกมักพบได้บ่อยในหญิงสูงอายุ ซึ่งเป็นวัยหมดประจำเดือนแล้ว แต่กลับพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอด ลักษณะเลือดนั้นมีสีช้ำเลือดช้ำหนองและมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ซึ่งหากญาติผู้ใหญ่ใครมีอาการในลักษณะนี้ ก็อย่านิ่งนอนใจ รีบพาไปพบสูตินรีแพทย์โดยไวดีกว่า
เลือดที่ออกมาจากช่องคลอดอาจเป็นประจำเดือนที่ผิดปกติ หรืออาจเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม หากพบความผิดปกติอย่างกลิ่นประจำเดือนเหม็น หรือความผิดปกติอื่น ๆ ก็ขอให้รีบไปตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุของอาการที่แท้จริงจะดีกว่านะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
การควบคุมและป้องกันโรค สถาบันพลศึกษาเขตสุพรรณบุรี