แปรงฟันแบบผิด ๆ มาทั้งชีวิต กลับใจมาแปรงฟันแห้งตอนนี้ยังทัน แล้วอย่าลืมสะกิดบอกวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องให้คนข้าง ๆ ด้วยล่ะ
วิธีป้องกันฟันผุด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ที่เราทำได้ ก็คือการแปรงฟันอย่างถูกวิธี และการรักษาสุขอนามัยในช่องปากอย่างถูกต้อง แต่เชื่อไหมคะว่าการแปรงฟันที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้เป็นปัจจัยที่บั่นทอนโครงสร้างฟันได้โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว เพราะการแปรงฟันที่คนส่วนใหญ่ทำกันอยู่นั้นไม่ได้ช่วยให้ฟันของเราได้รับฟลูออไรด์จากยาสีฟันสักเท่าไร หรือเผลอ ๆ อาจแทบจะไม่เหลือฟลูออไรด์เคลือบผิวฟันอยู่เลยก็ได้
แปรงฟันแห้งคืออะไร
การแปรงฟันแห้งเป็นวิธีแปรงฟันที่จะช่วยให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันได้ทำหน้าที่เคลือบผิวฟันของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด โดยการแปรงฟันแห้งก็คือการแปรงฟันแบบไม่ใช่น้ำทั้งก่อนแปรงฟันและหลังแปรงฟัน
แปรงฟันแห้งดีอย่างไร
ปัจจุบันเรามักจะเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์อยู่แล้ว เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ แต่ขนาดใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ฟันก็ยังผุอยู่เหมือนเดิม นั่นก็เป็นเพราะว่าการแปรงฟันแบบบ้วนน้ำจะทำให้ฟลูออไรด์ที่เราควรจะได้จากยาสีฟันถูกชะล้างออกไป
ต่างจากการแปรงฟันแห้งที่จะช่วยให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันมีเวลาเคลือบผิวฟันของเรามากยิ่งขึ้น และหากเราเคลือบผิวฟันด้วยฟลูออไรด์จากการแปรงฟันแห้งทุกวัน ๆ ก็เท่ากับเราได้เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างฟันโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเคลือบฟลูออไรด์กับทันตแพทย์ให้เสียทั้งเงินและเวลาเลย
ขั้นตอนการแปรงฟันแห้ง
- ป้ายยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ยี่ห้อใดก็ได้เพียงเล็กน้อย ลงบนแปรงสีฟันแห้ง (แปรงสีฟันที่ไม่จุ่มน้ำ)
- แปรงฟันได้ทันทีโดยไม่ต้องบ้วนปากก่อน แปรงฟันให้ทั่วถึงนาน 2 นาทีขึ้นไป
- เมื่อแปรงฟันจนทั่วทั้งช่องปากแล้วให้บ้วนยาสีฟันทิ้งโดยไม่ต้องบ้วนปากด้วยน้ำอีก
ทั้งนี้แรก ๆ อาจจะรู้สึกไม่ชินกับการแปรงฟันแห้งนะคะ เพราะการถุยยาสีฟันทิ้งโดยไม่บ้วนน้ำอีกรอบยาสีฟันก็จะหลงเหลืออยู่ในปากเราอยู่ ซึ่งตามหลักเคลือบฟลูออไรด์ฟันถือว่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะการปล่อยให้คราบยาสีฟันผสมฟลูออไรด์หลงเหลืออยู่บนผิวฟัน ฟันเราก็จะได้รับฟลูออไรด์ไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างฟันมากเท่านั้น
แต่ถ้ารู้สึกไม่สะดวกใจ เหมือนมียาสีฟันอยู่เต็มปากไปหมด สามารถจิบน้ำเพียงเล็กน้อยแล้วบ้วนทิ้งไปพร้อมยาสีฟันได้ ทว่าก็ไม่แนะนำให้บ้วนน้ำปริมาณมาก ๆ เหมือนอย่างที่เคยนะคะ เพราะการบ้วนน้ำ 1 รอบจะชะล้างฟลูออไรด์จากยาสีฟันไปครึ่งหนึ่ง และถ้าบ้วนน้ำหลังแปรงฟันรอบที่สอง ฟลูออไรด์จะลดลงเหลือเพียง 1/4 ส่วนเท่านั้น ซึ่งก็เท่ากับว่าฟันเราก็แทบจะไม่ได้รับฟลูออไรด์ไปช่วยป้องกันฟันผุเลย
นอกจากนี้หลังแปรงฟันแห้งแล้วควรปล่อยให้ปากว่างสัก 30 นาที จากนั้นค่อยดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ฟลูออไรด์ได้เคลือบผิวฟันเราได้นานพอจะซึมซาบลงบนผิวฟันและช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
แปรงฟันไม่บ้วนปาก อันตรายไหม
หลายคนกังวลกับสารเคมีที่แฝงอยู่ในยาสีฟัน โดยเฉพาะสาร Sodium Lauryl Sulfate หรือสาร SLS ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง รวมไปถึงยาสีฟันด้วย โดยสารตัวนี้คือสารที่ช่วยให้เกิดฟองในขณะที่เราแปรงฟัน แต่ทั้งนี้จากงานวิจัยพบว่า สาร SLS ไม่ใช่สารก่อมะเร็ง และการจะนำสารชนิดนี้มาใช้ในยาสีฟันหรือเครื่องสำอางชนิดอื่นก็มีเกณฑ์การใช้ตามปริมาณที่กำหนดโดยสากล ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ศ. ทพญ. ดร.สุดาดวง กฤษฎาพงษ์ อาจารย์แพทย์จากภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยผลการวิจัยที่บ่งชี้ว่า การกลืนยาสีฟันลงไปพร้อมน้ำลายในกรณีที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย จะต้องกินยาสีฟันปริมาณที่มากถึง 3 กิโลกรัมถึงจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการแปรงฟันแบบไม่บ้วนน้ำก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพนะคะ
ใครยังไม่เคยลองแปรงฟันแห้ง และคิดในใจว่าแปรงฟันแห้งไม่น่าจะเวิร์ก อย่าเพิ่งตัดสินใจไปก่อนโดยที่ยังไม่ได้ลองนะคะ ลองแปรงฟันแห้งดูสักครั้ง แล้วมาดูกันว่าไปตรวจสุขภาพฟันคราวหน้ายังจะมีฟันผุเพิ่มขึ้นไหม
อ้อ ! ทั้งนี้เรายังมีเกร็ดความรู้ดี ๆ ที่จะช่วยคลายข้อข้องใจให้ด้วยว่า แปรงฟันตอนไหนดี เพราะเรื่องนี้หลายคนก็แปรงฟันแบบผิด ๆ อยู่เหมือนกันนะ
- เวลาไหนไม่ควรแปรงฟัน เพราะอาจทำให้ฟันสึกเร็วกว่าที่ควร !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
อมรินทร์ทีวี, SIRIROJ INTERNATIONAL HOSPITAL, ชัวร์ก่อนแชร์, ฟัน ดี ดี, วารสารวิชาการสาธารณสุข
ดังนั้นเพื่อป้องกันฟันผุด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เราเลยอยากมาแนะนำวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง ด้วยการแปรงฟันแห้ง หรือการแปรงฟันไม่บ้วนน้ำนั่นเองค่ะ
แปรงฟันแห้งคืออะไร
การแปรงฟันแห้งเป็นวิธีแปรงฟันที่จะช่วยให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันได้ทำหน้าที่เคลือบผิวฟันของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด โดยการแปรงฟันแห้งก็คือการแปรงฟันแบบไม่ใช่น้ำทั้งก่อนแปรงฟันและหลังแปรงฟัน
แปรงฟันแห้งดีอย่างไร
ปัจจุบันเรามักจะเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์อยู่แล้ว เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ แต่ขนาดใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ฟันก็ยังผุอยู่เหมือนเดิม นั่นก็เป็นเพราะว่าการแปรงฟันแบบบ้วนน้ำจะทำให้ฟลูออไรด์ที่เราควรจะได้จากยาสีฟันถูกชะล้างออกไป
ต่างจากการแปรงฟันแห้งที่จะช่วยให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันมีเวลาเคลือบผิวฟันของเรามากยิ่งขึ้น และหากเราเคลือบผิวฟันด้วยฟลูออไรด์จากการแปรงฟันแห้งทุกวัน ๆ ก็เท่ากับเราได้เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างฟันโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเคลือบฟลูออไรด์กับทันตแพทย์ให้เสียทั้งเงินและเวลาเลย
ขั้นตอนการแปรงฟันแห้ง
- ป้ายยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ยี่ห้อใดก็ได้เพียงเล็กน้อย ลงบนแปรงสีฟันแห้ง (แปรงสีฟันที่ไม่จุ่มน้ำ)
- แปรงฟันได้ทันทีโดยไม่ต้องบ้วนปากก่อน แปรงฟันให้ทั่วถึงนาน 2 นาทีขึ้นไป
- เมื่อแปรงฟันจนทั่วทั้งช่องปากแล้วให้บ้วนยาสีฟันทิ้งโดยไม่ต้องบ้วนปากด้วยน้ำอีก
ทั้งนี้แรก ๆ อาจจะรู้สึกไม่ชินกับการแปรงฟันแห้งนะคะ เพราะการถุยยาสีฟันทิ้งโดยไม่บ้วนน้ำอีกรอบยาสีฟันก็จะหลงเหลืออยู่ในปากเราอยู่ ซึ่งตามหลักเคลือบฟลูออไรด์ฟันถือว่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะการปล่อยให้คราบยาสีฟันผสมฟลูออไรด์หลงเหลืออยู่บนผิวฟัน ฟันเราก็จะได้รับฟลูออไรด์ไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างฟันมากเท่านั้น
แต่ถ้ารู้สึกไม่สะดวกใจ เหมือนมียาสีฟันอยู่เต็มปากไปหมด สามารถจิบน้ำเพียงเล็กน้อยแล้วบ้วนทิ้งไปพร้อมยาสีฟันได้ ทว่าก็ไม่แนะนำให้บ้วนน้ำปริมาณมาก ๆ เหมือนอย่างที่เคยนะคะ เพราะการบ้วนน้ำ 1 รอบจะชะล้างฟลูออไรด์จากยาสีฟันไปครึ่งหนึ่ง และถ้าบ้วนน้ำหลังแปรงฟันรอบที่สอง ฟลูออไรด์จะลดลงเหลือเพียง 1/4 ส่วนเท่านั้น ซึ่งก็เท่ากับว่าฟันเราก็แทบจะไม่ได้รับฟลูออไรด์ไปช่วยป้องกันฟันผุเลย
นอกจากนี้หลังแปรงฟันแห้งแล้วควรปล่อยให้ปากว่างสัก 30 นาที จากนั้นค่อยดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ฟลูออไรด์ได้เคลือบผิวฟันเราได้นานพอจะซึมซาบลงบนผิวฟันและช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
แปรงฟันไม่บ้วนปาก อันตรายไหม
หลายคนกังวลกับสารเคมีที่แฝงอยู่ในยาสีฟัน โดยเฉพาะสาร Sodium Lauryl Sulfate หรือสาร SLS ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง รวมไปถึงยาสีฟันด้วย โดยสารตัวนี้คือสารที่ช่วยให้เกิดฟองในขณะที่เราแปรงฟัน แต่ทั้งนี้จากงานวิจัยพบว่า สาร SLS ไม่ใช่สารก่อมะเร็ง และการจะนำสารชนิดนี้มาใช้ในยาสีฟันหรือเครื่องสำอางชนิดอื่นก็มีเกณฑ์การใช้ตามปริมาณที่กำหนดโดยสากล ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ศ. ทพญ. ดร.สุดาดวง กฤษฎาพงษ์ อาจารย์แพทย์จากภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยผลการวิจัยที่บ่งชี้ว่า การกลืนยาสีฟันลงไปพร้อมน้ำลายในกรณีที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย จะต้องกินยาสีฟันปริมาณที่มากถึง 3 กิโลกรัมถึงจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการแปรงฟันแบบไม่บ้วนน้ำก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพนะคะ
ใครยังไม่เคยลองแปรงฟันแห้ง และคิดในใจว่าแปรงฟันแห้งไม่น่าจะเวิร์ก อย่าเพิ่งตัดสินใจไปก่อนโดยที่ยังไม่ได้ลองนะคะ ลองแปรงฟันแห้งดูสักครั้ง แล้วมาดูกันว่าไปตรวจสุขภาพฟันคราวหน้ายังจะมีฟันผุเพิ่มขึ้นไหม
อ้อ ! ทั้งนี้เรายังมีเกร็ดความรู้ดี ๆ ที่จะช่วยคลายข้อข้องใจให้ด้วยว่า แปรงฟันตอนไหนดี เพราะเรื่องนี้หลายคนก็แปรงฟันแบบผิด ๆ อยู่เหมือนกันนะ
- เวลาไหนไม่ควรแปรงฟัน เพราะอาจทำให้ฟันสึกเร็วกว่าที่ควร !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
อมรินทร์ทีวี, SIRIROJ INTERNATIONAL HOSPITAL, ชัวร์ก่อนแชร์, ฟัน ดี ดี, วารสารวิชาการสาธารณสุข