เพจหมอเวร อธิบายประเด็นที่หลายคนข้องใจ เด็กอยู่ในที่มืดเป็นเวลานาน หากเจอไฟฉายส่องจะกระทบต่อดวงตาหรือไม่ มาทำความเข้าใจกัน
ทว่า...หลายคนที่ชมคลิปอาจรู้สึกกังวลที่เห็นทีมกู้ภัยใช้ไฟฉายส่องไปที่หน้าของเด็ก ๆ ที่ติดในถ้ำ ด้วยเกรงว่า อาจทำให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในความมืดมาหลายวันมีปัญหาที่ดวงตาได้ กระปุกดอทคอม จึงนำข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอเวร มาอธิบายให้เคลียร์กันชัด ๆ ว่า ดวงตาของเด็ก ๆ จะเป็นอันตรายหรือมีผลเสียอย่างที่กังวลกันหรือไม่เมื่อถูกแสงไฟฉายดังที่ปรากฏในคลิป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai Navy SEAL
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก หมอเวร อธิบายว่า การใช้ไฟฉายส่องไปโดนดวงตาของน้อง ๆ ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรร้ายแรง อาจจะแค่ตาพร่าไปบ้าง แต่ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องใช้ไฟฉายส่องดูรอบ ๆ เพื่อนับจำนวนน้อง ๆ และตรวจสอบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่
จะขออธิบายประเด็นเรื่องทีมกู้ภัยเผลอเอาไฟฉายส่องตาน้อง ๆ จะมีผลเสียยังไงมั่ง ?
คำตอบคือ...
ไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอกนะ วางใจได้
น้อง ๆ อาจจะมีตาพร่ากันไปบ้าง แต่จังหวะนั้นเข้าใจ จนท. ได้เลย ว่ามีความจำเป็นต้องส่องดูให้รอบๆ เพื่อจะตรวจสอบ และนับจำนวนว่าครบไหม หรือใครมีอาการบาดเจ็บที่หนักหนาหรือเปล่า
ทีนี้ขอขยายความรู้เกี่ยวกับการอยู่ในที่มืดเป็นเวลานานเพิ่มอีกนิด
อาการของคนที่เข้าไปในที่มืดแบบฉับพลัน ปกติตาของเราจะใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเริ่มมองเห็นอะไรในที่ที่มีแสงน้อยได้ชัดขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เวลาเราปิดไฟก่อนนอน ก็ต้องใช้เวลาสัก 3-5 นาทีกว่าสายตาเราจะมองเห็นแสงลาง ๆ หรือเห็นตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องต่าง ๆ ทำให้เวลาเราลุกมาฉี่ตอนดึกโดยไม่เปิดไฟ เราสามารถเดินตรงดิ่งถึงห้องน้ำโดยไม่เดินชนข้าวของได้อย่างปลอดภัย
หรืออีกตัวอย่างนึงเวลาที่เราเดินเข้าโรงหนังหรือโรงละคร เค้าก็ออกแบบการปรับสายตาไว้แล้ว (แต่เราไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก) มันจะเป็นห้องเล็ก ๆ ห้องแรกที่เราเดินผ่านเข้าไปในโรง โดยมีม่านกั้นไว้ เพื่อให้เราค่อย ๆ ปรับสายตาจากสว่างจ้า ค่อย ๆ มาเจอความมืดเลเวลเบา ๆ แล้วเข้าไปเจอความมืดสนิทด้านในต่อไป หากไม่มีการปรับด้วยวิธีแบบนี้ก่อน บางคนอาจมองไม่เห็นอะไรเลย และพลาดเดินตกบันไดได้ ฉะนั้นเกือบทุกที่เลยต้องมีห้องปรับแสงอันนี้ไว้เสมอ
ส่วนวิธีปรับสภาพตาหลังจากการอยู่ที่มืดเป็นเวลานาน การเจอแสงภายนอก (แสงแดดตอนเช้า) แบบทันทีทันใด น้องอาจตาพร่าหรือแสบตาได้ง่าย เพราะค่าความสว่างของแสงแดดมันมากกว่าสปอร์ตไลต์ที่เจ้าหน้าที่มอบให้น้อง ๆ หลายสิบเท่านัก
ปกติทางเทคนิคการใช้ผ้าปิดตาหรือใส่แว่นกันแดดพรางแสงจะช่วยตรงนี้ได้มาก แล้วทีมแพทย์จะค่อย ๆ ปรับความสว่างเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนกว่าตาจะสู้แสงธรรมชาติได้ ทั่วไปมักจะใช้เวลาประมาณวันนิด ๆ สายตาก็คุ้นชินแล้วแหละ
ส่วนกรณีที่น้อง ๆ ได้ไฟฉายจาก จนท. ไปแล้วนั้น อันนี้ถือว่าดีเลย เพราะเป็นการช่วยปรับสายตาน้อง ๆ ให้ค่อย ๆ ชินกับแสดงสว่างเบื้องต้น ทำให้สายตาคุ้นชินกับความมืดแบบสลัว ๆ ไปก่อน ฉะนั้นอาการตาไม่สู้แสงเมื่อออกมาภายนอกจะเบาลงอย่างแน่นอน
ป.ล. ขอบคุณภาพจากหนัง Shawshank Redemption นะจ๊ะ
คนไทยได้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อในที่สุดทีมกู้ภัยพบตัวโค้ชและเด็ก ๆ ทีมฟุตบอลหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย หลังจากระดมกำลังค้นหามานานเกือบ 10 วัน โดยมีภาพที่น่ายินดีปรากฏออกมาผ่านทางคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก Thai Navy SEAL
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai Navy SEAL
ดังเนื้อหาและข้อความทั้งหมดต่อไปนี้
คำตอบคือ...
ไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอกนะ วางใจได้
น้อง ๆ อาจจะมีตาพร่ากันไปบ้าง แต่จังหวะนั้นเข้าใจ จนท. ได้เลย ว่ามีความจำเป็นต้องส่องดูให้รอบๆ เพื่อจะตรวจสอบ และนับจำนวนว่าครบไหม หรือใครมีอาการบาดเจ็บที่หนักหนาหรือเปล่า
ทีนี้ขอขยายความรู้เกี่ยวกับการอยู่ในที่มืดเป็นเวลานานเพิ่มอีกนิด
อาการของคนที่เข้าไปในที่มืดแบบฉับพลัน ปกติตาของเราจะใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเริ่มมองเห็นอะไรในที่ที่มีแสงน้อยได้ชัดขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เวลาเราปิดไฟก่อนนอน ก็ต้องใช้เวลาสัก 3-5 นาทีกว่าสายตาเราจะมองเห็นแสงลาง ๆ หรือเห็นตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องต่าง ๆ ทำให้เวลาเราลุกมาฉี่ตอนดึกโดยไม่เปิดไฟ เราสามารถเดินตรงดิ่งถึงห้องน้ำโดยไม่เดินชนข้าวของได้อย่างปลอดภัย
หรืออีกตัวอย่างนึงเวลาที่เราเดินเข้าโรงหนังหรือโรงละคร เค้าก็ออกแบบการปรับสายตาไว้แล้ว (แต่เราไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก) มันจะเป็นห้องเล็ก ๆ ห้องแรกที่เราเดินผ่านเข้าไปในโรง โดยมีม่านกั้นไว้ เพื่อให้เราค่อย ๆ ปรับสายตาจากสว่างจ้า ค่อย ๆ มาเจอความมืดเลเวลเบา ๆ แล้วเข้าไปเจอความมืดสนิทด้านในต่อไป หากไม่มีการปรับด้วยวิธีแบบนี้ก่อน บางคนอาจมองไม่เห็นอะไรเลย และพลาดเดินตกบันไดได้ ฉะนั้นเกือบทุกที่เลยต้องมีห้องปรับแสงอันนี้ไว้เสมอ
ส่วนวิธีปรับสภาพตาหลังจากการอยู่ที่มืดเป็นเวลานาน การเจอแสงภายนอก (แสงแดดตอนเช้า) แบบทันทีทันใด น้องอาจตาพร่าหรือแสบตาได้ง่าย เพราะค่าความสว่างของแสงแดดมันมากกว่าสปอร์ตไลต์ที่เจ้าหน้าที่มอบให้น้อง ๆ หลายสิบเท่านัก
ปกติทางเทคนิคการใช้ผ้าปิดตาหรือใส่แว่นกันแดดพรางแสงจะช่วยตรงนี้ได้มาก แล้วทีมแพทย์จะค่อย ๆ ปรับความสว่างเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนกว่าตาจะสู้แสงธรรมชาติได้ ทั่วไปมักจะใช้เวลาประมาณวันนิด ๆ สายตาก็คุ้นชินแล้วแหละ
ส่วนกรณีที่น้อง ๆ ได้ไฟฉายจาก จนท. ไปแล้วนั้น อันนี้ถือว่าดีเลย เพราะเป็นการช่วยปรับสายตาน้อง ๆ ให้ค่อย ๆ ชินกับแสดงสว่างเบื้องต้น ทำให้สายตาคุ้นชินกับความมืดแบบสลัว ๆ ไปก่อน ฉะนั้นอาการตาไม่สู้แสงเมื่อออกมาภายนอกจะเบาลงอย่างแน่นอน
ป.ล. ขอบคุณภาพจากหนัง Shawshank Redemption นะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก