รู้สึกเกลียดชังคนแปลกหน้า ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมกับเรา อาจเข้าข่าย Xenophobia
Xenophobia คืออะไร
Xenophobia แปลว่า ความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ โดยคำว่า Xenophobia มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “xenos” ที่แปลว่าคนแปลกหน้าหรือชาวต่างชาติ และคำว่า “phobos” ที่หมายถึงความกลัว ความรู้สึกเกลียดอะไรบางอย่าง เมื่อสองคำนี้มารวมกันจึงเป็นคำว่า Xenophobia ซึ่งหมายถึง ความเกลียดกลัวชาวต่างชาตินั่นเอง
![Xenophobia Xenophobia]()
![Xenophobia Xenophobia]()
![Xenophobia Xenophobia]()
![Xenophobia Xenophobia](http://img.kapook.com/u/2018/sireeporn/s4_1.jpg)
เห็นชาวต่างชาติแล้วรู้สึกแปลก ๆ มีทั้งความไม่ไว้ใจ หวาดระแวง หรือรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก อาการที่เป็นอยู่จะเรียกว่าไม่ปกติไหมลองมาเช็กกันหน่อยค่ะ พร้อมกับทำความเข้าใจภาวะ Xenophobia คืออะไรกันแน่
Xenophobia แปลว่า ความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ โดยคำว่า Xenophobia มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “xenos” ที่แปลว่าคนแปลกหน้าหรือชาวต่างชาติ และคำว่า “phobos” ที่หมายถึงความกลัว ความรู้สึกเกลียดอะไรบางอย่าง เมื่อสองคำนี้มารวมกันจึงเป็นคำว่า Xenophobia ซึ่งหมายถึง ความเกลียดกลัวชาวต่างชาตินั่นเอง
ทั้งนี้ความหมายของคำว่า Xenophobia ยังใช้อธิบายถึงภาวะความเกลียดชังหรือกลัวผู้ที่มีชาติพันธุ์ที่แตกต่างจากตัวเองอย่างเห็นได้ชัด (ซึ่งมักจะหมายถึงชนกลุ่มน้อย) ทว่าในทางจิตวิทยาคำว่า Xenophobia แปลว่า อาการหรือภาวะกลัวหรือเกลียดคนแปลกหน้า ชาวต่างชาติ คนเชื้อชาติอื่น ศาสนาอื่น คนที่มีวัฒนธรรมต่างไปจากตนเอง รวมไปถึงคนที่ใช้ภาษาอื่นและมีอุปนิสัยที่แตกต่างจากตนเองอย่างสิ้นเชิงด้วย
![Xenophobia Xenophobia](http://img.kapook.com/u/2018/sireeporn/P1_50.jpg)
Xenophobia สาเหตุคืออะไร
นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่า อาการกลัวชาวต่างชาติเกิดจากความคิดที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตนเองเป็น โดยเฉพาะในแง่ของวัฒนธรรมที่คุ้นชินมาตั้งแต่เกิด ทั้งนี้นักจิตวิทยายังมองถึงสาเหตุสำคัญของอาการ Xenophobia ซึ่งก็คือความคิดหรือการมองคนที่แตกต่างกับเราในแง่ร้าย โดยเฉพาะในแง่ของการก่ออาชญากรรม ก่อให้เกิดความรู้สึกกลัว หวาดระแวง เกลียดชัง จนถึงขั้นมีสภาวะจิตใจผิดปกติไป ยกตัวอย่างเช่น มองว่าชาวมุสลิมเป็นผู้ก่อการร้าย หรือนับถือศาสนาที่ส่งเสริมให้ฆ่าคนนอกรีต หรือมองว่าชาวจีนเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีมารยาท ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง แต่สำหรับคนที่มีภาวะ Xenophobia จะคิดและเชื่ออะไรทำนองนี้อย่างปักใจ
นอกจากนี้ Xenophobia ยังอาจเกิดจากสภาวะทางสังคม เช่น มีการแย่งงานของต่างด้าว หรือชาวต่างชาติ หรือแม้แต่การเหยียดสีผิว ความรู้สึกดูถูก เหยียดหยามชาวต่างชาติก็อาจพัฒนาให้เป็นโรค Xenophobia ได้เช่นกัน
นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่า อาการกลัวชาวต่างชาติเกิดจากความคิดที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตนเองเป็น โดยเฉพาะในแง่ของวัฒนธรรมที่คุ้นชินมาตั้งแต่เกิด ทั้งนี้นักจิตวิทยายังมองถึงสาเหตุสำคัญของอาการ Xenophobia ซึ่งก็คือความคิดหรือการมองคนที่แตกต่างกับเราในแง่ร้าย โดยเฉพาะในแง่ของการก่ออาชญากรรม ก่อให้เกิดความรู้สึกกลัว หวาดระแวง เกลียดชัง จนถึงขั้นมีสภาวะจิตใจผิดปกติไป ยกตัวอย่างเช่น มองว่าชาวมุสลิมเป็นผู้ก่อการร้าย หรือนับถือศาสนาที่ส่งเสริมให้ฆ่าคนนอกรีต หรือมองว่าชาวจีนเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีมารยาท ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง แต่สำหรับคนที่มีภาวะ Xenophobia จะคิดและเชื่ออะไรทำนองนี้อย่างปักใจ
นอกจากนี้ Xenophobia ยังอาจเกิดจากสภาวะทางสังคม เช่น มีการแย่งงานของต่างด้าว หรือชาวต่างชาติ หรือแม้แต่การเหยียดสีผิว ความรู้สึกดูถูก เหยียดหยามชาวต่างชาติก็อาจพัฒนาให้เป็นโรค Xenophobia ได้เช่นกัน
![Xenophobia Xenophobia](http://img.kapook.com/u/2018/sireeporn/P2_45.jpg)
Xenophobia อาการเป็นอย่างไร
ลองมาเช็กอาการ Xenophobia กันค่ะว่า ถ้ามีภาวะโรคนี้แล้วจะสังเกตอาการได้อย่างไร
1. รู้สึกเครียดและกดดันเมื่อต้องอยู่กับคนต่างชาติ ต่างภาษา หรือเมื่ออยู่ในต่างประเทศ
2. มีความวิตกกังวลและหวาดระแวงเมื่อต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ
3. อาจมีพฤติกรรมวางอำนาจหรือทำตัวเหนือกว่าชาวต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด
4. ไม่ใว้ใจชาวต่างชาติ มีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติ และอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวใส่ชาวต่างชาติอย่างไร้เหตุผล
5. มีความรู้สึกว่าไม่อยากให้ชาวต่างชาติหรือคนที่ตัวเองกลัวได้รับการยอมรับในสังคม
ลองมาเช็กอาการ Xenophobia กันค่ะว่า ถ้ามีภาวะโรคนี้แล้วจะสังเกตอาการได้อย่างไร
1. รู้สึกเครียดและกดดันเมื่อต้องอยู่กับคนต่างชาติ ต่างภาษา หรือเมื่ออยู่ในต่างประเทศ
2. มีความวิตกกังวลและหวาดระแวงเมื่อต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ
3. อาจมีพฤติกรรมวางอำนาจหรือทำตัวเหนือกว่าชาวต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด
4. ไม่ใว้ใจชาวต่างชาติ มีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติ และอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวใส่ชาวต่างชาติอย่างไร้เหตุผล
5. มีความรู้สึกว่าไม่อยากให้ชาวต่างชาติหรือคนที่ตัวเองกลัวได้รับการยอมรับในสังคม
นอกจากนี้ในพื้นที่ที่มีภาวะ Xenophobia อย่างแพร่หลาย อาจมีสถานการณ์หรือการใช้ความรุนแรงกับชาวต่างชาติ เช่น มีการขับไล่ออกนอกประเทศ การไม่ให้งาน หรือมีการกีดกันทางเศรษฐกิจ สังคม และการใช้ชีวิตด้วยค่ะ
![Xenophobia Xenophobia](http://img.kapook.com/u/2018/sireeporn/P3_38.jpg)
Xenophobia แตกต่างจากการเหยียดสีผิวอย่างไร
แม้ Xenophobia และการเหยียดสีผิวจะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันนะคะ โดยการเหยียดสีผิวจะมีความรู้สึกในทางลบกับคนที่มีสีผิว สีผม สีตาที่ต่างจากเรา ทว่า Xenophobia จะมีความรู้สึกในแง่ลบกับคนที่ต่างชนชาติ ต่างความเชื่อ ต่างวัฒนธรรมกับเรา เช่น ผู้ที่เกิดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ อาจดูถูกชาวเอเชียที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เป็นต้น
Xenophobia รักษาอย่างไร
โรคกลัวชนิดนี้มีความแตกต่างและความยากไปกว่าโรคกลัวชนิดอื่น ๆ เนื่องจากคนที่มีภาวะ Xenophobia มักจะมีความเกลียด-กลัวที่หยั่งรากฝังลึก จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือดูแล
ที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยต้องรู้ตัวและเปิดใจยอมรับการรักษา และยอมก้าวไปเรียนรู้โลกใบใหม่ด้วยตัวเองอย่างสมัครใจด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
![](data:image/jpeg;base64,/9j/4AAQSkZJRgABAAEAYABgAAD//gAfTEVBRCBUZWNobm9sb2dpZXMgSW5jLiBWMS4wMQD/2wCEAAUFBQgFCAwHBwwMCQkJDA0MDAwMDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0BBQgICgcKDAcHDA0MCgwNDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDQ0NDf/EAaIAAAEFAQEBAQEBAAAAAAAAAAABAgMEBQYHCAkKCwEAAwEBAQEBAQEBAQAAAAAAAAECAwQFBgcICQoLEAACAQMDAgQDBQUEBAAAAX0BAgMABBEFEiExQQYTUWEHInEUMoGRoQgjQrHBFVLR8CQzYnKCCQoWFxgZGiUmJygpKjQ1Njc4OTpDREVGR0hJSlNUVVZXWFlaY2RlZmdoaWpzdHV2d3h5eoOEhYaHiImKkpOUlZaXmJmaoqOkpaanqKmqsrO0tba3uLm6wsPExcbHyMnK0tPU1dbX2Nna4eLj5OXm5+jp6vHy8/T19vf4+foRAAIBAgQEAwQHBQQEAAECdwABAgMRBAUhMQYSQVEHYXETIjKBCBRCkaGxwQkjM1LwFWJy0QoWJDThJfEXGBkaJicoKSo1Njc4OTpDREVGR0hJSlNUVVZXWFlaY2RlZmdoaWpzdHV2d3h5eoKDhIWGh4iJipKTlJWWl5iZmqKjpKWmp6ipqrKztLW2t7i5usLDxMXGx8jJytLT1NXW19jZ2uLj5OXm5+jp6vLz9PX29/j5+v/AABEIADEAbwMBEQACEQEDEQH/2gAMAwEAAhEDEQA/APsugAoAKACgAoAM0BsFABQAUAFABQBXe4jjYRswVm+6CcE/QU7FqLacktEWKRAUAFABQAZoAKAMHXtcg0C2NzPk5IVUX7zseij3NXGPNodmGw88VP2dPTu+xxEPj64iYSXlmYrViAZEkVygJ4LqOQPX0rb2emh7Ussik406ic107+h2er+IbXR7MX0h3o2AgXq5b7oX61ioNux49HCzr1PYrRre/Q4yLx/cxsJbyzaK1JwXSRXZATwXUcgevpW3srK57Msrik4wqpzS2tv6HpsE6TossZBRwGBHcHkVz2sfNSi4Nxlo1oWKRJVvLgWcLzkEiNGbA6naCcCmld2NaceeUYbXaX3nlXhrUx4u1WO/mZFa2iYpCm4lQ5wC5Py7sdh0rokuVaH0uLo/UKDoJX5mnzafgev1zHyoUAFADZHEalm4Cgk/QU12KScmord6HKaN4tstZinnhJWG1dkZ24B29SParcWtD0a2Bq4dwjJe9NXSMeXx2RGbq3srie0XOZlAAwOrBTyR3zVcnQ6o5dr7OdWEaj+y979i7Jq+k6/pyagyC5hBBVdpLB+gG0c7s8Ucri7GPsK+Eq+xvyPvtocJquo6VDkahp8lpBKfLM6uPl3cAuFPy/iK2UWup7lChX+OhWjKaV+WzOk1nUdM0qygt2ga/ghiEq4wSkQ4EhJxn8OazSd7nnUaVatVnLnVObdvV9hdTt/D7aUdXlTZbvHu3pkNhug4PUnjkUle9hUnio4j6vF3qJ7M0tP12Cz0+1SyhmuPNiDRR/xbB/eY8DHvScdTmq0JTrT9tKMLP3n0v6DtI8bQ6hfNpdzDJZXajcI5MfMPVSODQ4WV0OtgJUqSxFOSnTfWPT1G6j4vMJZbe1kuY1yrNlUBI6hQ3LfhRGHYdDBc9nKpGD6Xv+hheGvFemXN4ttpNmySzEm4IUL5JB5Env6Yq5RaWrO/F4KtSp8+Jq3S+DX4vQ9ZrmPlgoAKAKV+QLeUnj5G/kaqO6N6P8SH+JfmfPfhHT5rrw9qlquY5WeRwDwSuSQQPRscHvXW90fe42pBYrDvdW5X5Nl/QdVudXihFlK4igtnW6hxiNAqEBTx98kZ69Kp6O5hiqEMPUcqi96VSLg+r1RneEbuWw8JalPAdskUkhQ/3T0yPfmk9ZHRmEIzx1CL2aV/vKV1ZaddeFGlXcb1EWSRmL7mJPU7uGHuKNUzanOpSzBwSXs7NJLpp+B2Wt2UM3g2O4Zf3sdqu1gSCMjpx1HseKzi7SseVQm1mc4L4XN6HK3muW154Nj0y33SXGxF2qjEbgc4zjGR7VXLaVz0o0JUsynXnZQ1690e1+D1EGi2pfAKwjJ9MdfyrCfxOx8Zj254qqo7OWh5Vd38V/43tZYCSnlbc4IyRnOM9R7iuhK0T6enTdLK6kZ781/QdBPa33ia9j1Zi0UO1IV+YIhb/d4UknqaS0WgpwlSwVGWHS5nrJ6X0LnwxtktNY1SGP7qSADPXGfWlUd4ozzibnh8NKW7ie6VyHxAUAFAFe4gW4jaJ/uuCD9CKa0LjJ05KS3Wpzml+F4dMEoDySGddhLnlUAICjHpmtHN7ndUxc6koyaS5Xf5jdC8JWnh61ls7bcVuGdmZjlvn68+2eKTk27l4jHVMTOFSpvC1vkV9L8D2Gk2E2mJvkguixcOcn5uuKOZ3uXWzCrWqwryspQ2sUV+HtkLR7KSSaRJEEYLN8yIDkKvHAzVOozd5pV9p7ZJKWvTe5uXHhi2uNLGjMX8gIEyD82B7+tRzWdzjjjKkK7xcbc7dypH4NtILCLT4C8QtzlJFIDg9yTjBJHBzVc7vc0lj6s6sq8tXLddDdstMisrVbJcmNVK89SDnOfrk1DetzglVlOp7Xre5zen+CLSwvhqBeSaWNSsQkOVjU9lH+NaOelj0amYVKlJ4dWUW7u3Vi3Xgezub57/AHSIZ9vnRq2Ek2nK7h9RQptKwRzCpGkqNk1H4W91fsXdF8KWuh3dxe25cveNucMcgfQdqlyurGOIxk8TCFKe0FZHV1meaFABQAUAFABQAUAFABQAdKACgAoAKACgAoAKACgAoAKACgAoAKACgAoAKACgAoAKACgAoA//2Q==)
เฟซบุ๊ก ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat
psychologenie
verywellmind
แม้ Xenophobia และการเหยียดสีผิวจะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันนะคะ โดยการเหยียดสีผิวจะมีความรู้สึกในทางลบกับคนที่มีสีผิว สีผม สีตาที่ต่างจากเรา ทว่า Xenophobia จะมีความรู้สึกในแง่ลบกับคนที่ต่างชนชาติ ต่างความเชื่อ ต่างวัฒนธรรมกับเรา เช่น ผู้ที่เกิดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ อาจดูถูกชาวเอเชียที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เป็นต้น
Xenophobia รักษาอย่างไร
โรคกลัวชนิดนี้มีความแตกต่างและความยากไปกว่าโรคกลัวชนิดอื่น ๆ เนื่องจากคนที่มีภาวะ Xenophobia มักจะมีความเกลียด-กลัวที่หยั่งรากฝังลึก จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือดูแล
ที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยต้องรู้ตัวและเปิดใจยอมรับการรักษา และยอมก้าวไปเรียนรู้โลกใบใหม่ด้วยตัวเองอย่างสมัครใจด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat
psychologenie
verywellmind