อยากนอนทั้งวัน รู้สึกว่านอนเท่าไรก็ไม่พอ เพราะตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น แม้จะนอนนานเกิน 8 ชั่วโมงก็ตาม แต่ยังง่วงนอนบ่อย เช็กหน่อยว่าปกติหรือป่วย
นอกจากปัญหานอนไม่หลับและนอนหลับยากแล้ว การนอนเยอะเกินไปก็นับเป็นปัญหาได้เหมือนกัน ดูได้จากวันไหนที่นอนเยอะ ๆ ตื่นมาแล้วจะปวดหัว เพลีย แถมยังรู้สึกง่วงไปตลอดทั้งวัน บางคนมีอาการหลับนกในวงสนทนาไปเลยก็มี ใครมีอาการนอนเท่าไรก็ไม่พอแบบนี้ลองมาเช็กซิว่าป่วยโรคนอนเกิน หรือ Hypersomnia อยู่หรือเปล่า
โรคนอนเกิน หรือ Hypersomnia จัดเป็นความผิดปกติของการนอนหลับอย่างหนึ่ง โดยมักจะเกิดในคนขี้เซา ปลุกไม่ยอมตื่นง่าย ๆ เหมือนนอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่มสักที ทั้งนี้คนที่มีภาวะนอนเกินมักจะมีอาการตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น ง่วงระหว่างวัน เฉื่อยชา อ้วนง่าย หรือมีอาการหลับได้ทันทีแม้จะนั่งพูดคุยกันอยู่ดี ๆ หรือหลับได้ทั้ง ๆ ที่ยังกินข้าวอยู่ เป็นต้น
นอนเยอะเกินไป สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง
โรคนอนเกินเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
1. อดนอนบ่อย ๆ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอ จนนอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่มสักที
2. นอนกรน ซึ่งมักจะมีภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ ส่งผลให้คุณภาพการนอนไม่ดี เกิดปัญหานอนไม่เต็มอิ่ม
3. Jet lag หรือภาวะนาฬิกาชีวภาพในร่างกายแปรปรวน โดยเฉพาะคนที่เดินทางข้ามประเทศที่มีเวลาต่างจากบ้านเรามาก ๆ บ่อยครั้งหรือเป็นประจำ
4. ฮอร์โมนในร่างกายหรือสารเคมีในร่างกายไม่ปกติ ทำให้ร่างกายนอนมากเกินไป
5. สมองได้รับบาดเจ็บหรือมีโรคเกี่ยวกับทางสมองต่าง ๆ
6. การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึม เป็นต้น
โรคนอนเกินเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
1. อดนอนบ่อย ๆ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอ จนนอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่มสักที
2. นอนกรน ซึ่งมักจะมีภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ ส่งผลให้คุณภาพการนอนไม่ดี เกิดปัญหานอนไม่เต็มอิ่ม
3. Jet lag หรือภาวะนาฬิกาชีวภาพในร่างกายแปรปรวน โดยเฉพาะคนที่เดินทางข้ามประเทศที่มีเวลาต่างจากบ้านเรามาก ๆ บ่อยครั้งหรือเป็นประจำ
4. ฮอร์โมนในร่างกายหรือสารเคมีในร่างกายไม่ปกติ ทำให้ร่างกายนอนมากเกินไป
5. สมองได้รับบาดเจ็บหรือมีโรคเกี่ยวกับทางสมองต่าง ๆ
6. การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึม เป็นต้น
อาการแบบไหนที่เรียกว่านอนเยอะเกินไป !
บางคนสงสัยว่านอนมากขนาดไหนที่จะเรียกว่านอนเยอะเกินไป งั้นเรามาเช็กอาการของโรคนอนเกินเลยดีกว่า
1. ขี้เซา หลับแล้วตื่นยากมาก ๆ
2. มีอาการง่วงระหว่างวัน และมักจะงีบหลับวันละหลายครั้ง
3. เฉื่อยชา สมองล้าเหมือนนอนไม่พอ
4. หัวสมองไม่แล่น ทำงานหรือเรียนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
5. มีอาการหงุดหงิด สับสนเมื่อถูกปลุกในระหว่างที่หลับ
6. นอนได้ทั้งวัน เรียกว่าตื่นมากินแล้วก็นอนต่อได้เลย
7. อ้วนง่ายผิดปกติ แม้จะกินอาหารไม่เยอะก็ตาม
8. ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น อยากนอนต่ออีก แม้ก่อนหน้านี้จะนอนเยอะแค่ไหนก็ตาม
9. คนที่มีอาการหนักอาจงีบหลับในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น หลับในขณะกินข้าว หลับทั้ง ๆ ที่ยังคุยกับบุคคลอื่นอยู่
ถ้ามีอาการดังกล่าวก็ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางให้ไวเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการนอนผิดปกติของเราให้ชัดเจน
บางคนสงสัยว่านอนมากขนาดไหนที่จะเรียกว่านอนเยอะเกินไป งั้นเรามาเช็กอาการของโรคนอนเกินเลยดีกว่า
1. ขี้เซา หลับแล้วตื่นยากมาก ๆ
2. มีอาการง่วงระหว่างวัน และมักจะงีบหลับวันละหลายครั้ง
3. เฉื่อยชา สมองล้าเหมือนนอนไม่พอ
4. หัวสมองไม่แล่น ทำงานหรือเรียนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
5. มีอาการหงุดหงิด สับสนเมื่อถูกปลุกในระหว่างที่หลับ
6. นอนได้ทั้งวัน เรียกว่าตื่นมากินแล้วก็นอนต่อได้เลย
7. อ้วนง่ายผิดปกติ แม้จะกินอาหารไม่เยอะก็ตาม
8. ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น อยากนอนต่ออีก แม้ก่อนหน้านี้จะนอนเยอะแค่ไหนก็ตาม
9. คนที่มีอาการหนักอาจงีบหลับในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น หลับในขณะกินข้าว หลับทั้ง ๆ ที่ยังคุยกับบุคคลอื่นอยู่
ถ้ามีอาการดังกล่าวก็ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางให้ไวเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการนอนผิดปกติของเราให้ชัดเจน
นอนเยอะเกินไป ส่งผลเสียได้มากมายอย่างคาดไม่ถึง !
นอนเยอะ ๆ ใช่ว่าจะดีเสมอไป อย่างการนอนเยอะเกินไปของโรคนอนเกิน ก็ส่งผลเสียให้ร่างกายได้ตามนี้เลย
1. สมองเฉื่อยชา
มีภาวะสมองล้า กลายเป็นคนไม่กระฉับกระเฉง ไม่มีชีวิตชีวา มีอาการเซื่องซึมเพราะรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
2. เสี่ยงโรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม
ด้วยพฤติกรรมนอนหลับเยอะเกินไป ทำให้ร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ไม่มีความคล่องตัว จึงอาจส่งผลเสียให้มีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม มากกว่าปกติ
3. อ้วนง่าย
นอนเยอะ ๆ ใช่ว่าจะดีเสมอไป อย่างการนอนเยอะเกินไปของโรคนอนเกิน ก็ส่งผลเสียให้ร่างกายได้ตามนี้เลย
1. สมองเฉื่อยชา
มีภาวะสมองล้า กลายเป็นคนไม่กระฉับกระเฉง ไม่มีชีวิตชีวา มีอาการเซื่องซึมเพราะรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
2. เสี่ยงโรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม
ด้วยพฤติกรรมนอนหลับเยอะเกินไป ทำให้ร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ไม่มีความคล่องตัว จึงอาจส่งผลเสียให้มีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม มากกว่าปกติ
3. อ้วนง่าย
คนที่ป่วยโรคนอนเกินส่วนมากจะมีพฤติกรรมกินแล้วนอน ไม่ค่อยได้ลุกไปทำกิจกรรมอะไรเท่าไร ทำให้อ้วนง่าย น้ำหนักตัวมากขึ้นแม้จะกินเท่าเดิมก็ตาม
4. เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
งานวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ ชิคาโก เผยว่า คนที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน จะมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าคนทั่วไปถึง 10% และมีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บหน้าอกมากกว่าปกติประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้ผลการศึกษาจาก Nurse’s Health ยังพบว่า ผู้ที่นอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง มีโอกาสเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าคนที่นอนปกติถึง 38%
5. ไม่สดใส ไม่มีชีวิตชีวา
การนอนเยอะเกินไปอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ความเครียดได้ง่าย เพราะพฤติกรรมการนอนของตัวเองอาจส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ
6. สมองทำงานช้าลง
4. เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
งานวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ ชิคาโก เผยว่า คนที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน จะมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าคนทั่วไปถึง 10% และมีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บหน้าอกมากกว่าปกติประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้ผลการศึกษาจาก Nurse’s Health ยังพบว่า ผู้ที่นอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง มีโอกาสเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าคนที่นอนปกติถึง 38%
5. ไม่สดใส ไม่มีชีวิตชีวา
การนอนเยอะเกินไปอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ความเครียดได้ง่าย เพราะพฤติกรรมการนอนของตัวเองอาจส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ
6. สมองทำงานช้าลง
ผลการศึกษาจาก United Kingdom เผยว่า พฤติกรรมการนอนหลับที่มากเกินปกติเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดตีบตัน (Stroke) และอาจส่งผลให้การทำงานของสมองช้าลงกว่าที่ควรจะเป็นด้วยนะคะ
7. ตั้งครรภ์ยากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมนอนน้อยหรือพฤติกรรมนอนเกิน ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การหลั่งฮอร์โมนของร่างกาย ลามไปถึงการตกไข่ของคุณผู้หญิงผิดปกติไป ด้วยเหตุนี้หากเรามีพฤติกรรมนอนเกินหรือนอนน้อยบ่อย ๆ โอกาสที่ร่างกายจะสมบูรณ์พร้อมที่จะมีบุตรก็อาจเป็นไปได้ยาก ที่สำคัญยังอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติอีกต่างหาก
8. เสี่ยงโรคเบาหวาน
7. ตั้งครรภ์ยากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมนอนน้อยหรือพฤติกรรมนอนเกิน ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การหลั่งฮอร์โมนของร่างกาย ลามไปถึงการตกไข่ของคุณผู้หญิงผิดปกติไป ด้วยเหตุนี้หากเรามีพฤติกรรมนอนเกินหรือนอนน้อยบ่อย ๆ โอกาสที่ร่างกายจะสมบูรณ์พร้อมที่จะมีบุตรก็อาจเป็นไปได้ยาก ที่สำคัญยังอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติอีกต่างหาก
8. เสี่ยงโรคเบาหวาน
จากการสำรวจจะพบว่า คนที่นอนมากเกินไปมักจะมีคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดี เช่น อาจจะหลับ ๆ ตื่น ๆ นอนหลับไม่สนิท ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติไป และอาจส่งผลต่อการทำงานของตับอ่อน อวัยวะที่ควบคุมการผลิตอินซูลิน เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลย
9. เสี่ยงโรคซึมเศร้า
ถ้าเรามีภาวะนอนหลับมากเกินไป ง่วงซึมทั้งวัน รวมไปถึงมีอาการเบื่อ ๆ ไม่อยากลุกมาทำอะไรเลยเอาแต่นอน นี่อาจเป็นหนึ่งสัญญาณที่บอกว่าเรามีอาการของโรคซึมเศร้าอยู่ก็ได้ ยิ่งถ้าใครรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า มีความคิดอยากจบ ๆ ชีวิตนี้ไป ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์ด่วนเลยค่ะ
10. เสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
งานวิจัยในปี 2010 พบว่า ผู้ที่นอนหลับทั้งนานเกินไปและน้อยเกินไปมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยผู้ที่นอนหลับนานกว่า 8 ชั่วโมง จะมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่นอนตามปกติถึง 3 เท่า !
นอนเยอะเกินไป แก้ได้ไหมนะ
จริง ๆ แล้วโรคนอนเกินสามารถรักษาได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมการนอนหลับ แต่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุของการนอนเกินที่เราเป็น จะได้รักษาได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
ปรับพฤติกรรมการนอนให้มีคุณภาพ เราทำได้ไม่ยากเลย
ใครอยากลองนอนให้มีคุณภาพ เรามีเคล็ดลับนอนหลับเพื่อสุขภาพที่ดีมาบอกต่อ
10. เสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
งานวิจัยในปี 2010 พบว่า ผู้ที่นอนหลับทั้งนานเกินไปและน้อยเกินไปมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยผู้ที่นอนหลับนานกว่า 8 ชั่วโมง จะมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่นอนตามปกติถึง 3 เท่า !
นอนเยอะเกินไป แก้ได้ไหมนะ
จริง ๆ แล้วโรคนอนเกินสามารถรักษาได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมการนอนหลับ แต่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุของการนอนเกินที่เราเป็น จะได้รักษาได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
ปรับพฤติกรรมการนอนให้มีคุณภาพ เราทำได้ไม่ยากเลย
ใครอยากลองนอนให้มีคุณภาพ เรามีเคล็ดลับนอนหลับเพื่อสุขภาพที่ดีมาบอกต่อ
* ควรรับประทานอาหารก่อนเวลาเข้านอน 4 ชั่วโมง และงดอาหารหนัก ๆ ย่อยยาก เช่น เนื้อ อาหารไขมันสูง ซึ่งจะทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาย่อยอาหารเหล่านี้นาน
* งดน้ำอัดลม แป้งขัดขาว เบเกอรี่ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ ทำให้ง่วงซึมตลอดทั้งวัน
* งดใช้เครื่องมือสื่อสารก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวเข้าสู่ช่วงนอนหลับพักผ่อน
* ไม่เอาเรื่องเครียดมาใส่สมอง ควรทำตัวให้ผ่อนคลาย ที่สำคัญคืออย่าหอบงานมาทำที่บ้านจนดึกดื่น
* จัดห้องนอนให้โปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทดี แสงไฟไม่จ้าจนเกินไป ให้เหมาะสมกับการนอน และควรทำความสะอาดหมอน ผ้าห่ม เครื่องนอนต่าง ๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ
* ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของร่างกาย และช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด
* พยายามเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- 10 ข้อดีของการนอนก่อน 4 ทุ่ม รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน !
* งดน้ำอัดลม แป้งขัดขาว เบเกอรี่ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ ทำให้ง่วงซึมตลอดทั้งวัน
* งดใช้เครื่องมือสื่อสารก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวเข้าสู่ช่วงนอนหลับพักผ่อน
* ไม่เอาเรื่องเครียดมาใส่สมอง ควรทำตัวให้ผ่อนคลาย ที่สำคัญคืออย่าหอบงานมาทำที่บ้านจนดึกดื่น
* จัดห้องนอนให้โปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทดี แสงไฟไม่จ้าจนเกินไป ให้เหมาะสมกับการนอน และควรทำความสะอาดหมอน ผ้าห่ม เครื่องนอนต่าง ๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ
* ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของร่างกาย และช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด
* พยายามเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- 10 ข้อดีของการนอนก่อน 4 ทุ่ม รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน !
* พยายามนอนหลับและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน เป็นการรีเซตนาฬิกาของชีวิตใหม่
* ดื่มนมอุ่น ๆ 1 แก้วก่อนนอน เพื่อให้สมองสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสมองที่ช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น
* เปิดเพลงคลอเบา ๆ หรือฟังเสียงธรรมชาติก่อนนอน ให้คลื่นเสียงช่วยกล่อมให้นอนหลับสบาย
* ทำสมาธิ หรือสวดมนต์ก่อนนอน สัก 5-10 นาที จะช่วยให้จิตใจสงบ ทำให้หลับสนิท
ไม่น่าเชื่อว่าแค่ชอบนอน นอนเยอะเกินไป จะส่งผลต่อสุขภาพมากมายขนาดนี้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
โรงพยาบาลสมิติเวช
โรงพยาบาลพญาไท
Reader’s digest
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
โรงพยาบาลสมิติเวช
โรงพยาบาลพญาไท
Reader’s digest