หัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดขึ้นได้กับทุกวัย แม้แต่ในคนที่ดูแข็งแรงดีก็ตาม แล้วอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดจากอะไรได้บ้าง อยากให้ทุกคนรู้จักภาวะนี้กันสักนิด
ขึ้นชื่อว่าโรคหัวใจ หรือภาวะหัวใจทำงานผิดปกติ ยังไงก็ดูอันตรายต่อชีวิต ที่สำคัญโรคที่เกี่ยวกับหัวใจยังไม่ค่อยจะมีสัญญาณแจ้งเตือนแบบชัด ๆ นึกจะเกิดก็เกิดปุบปับ จนเป็นเหตุให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตกะทันหัน อย่างอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นภาวะที่เกิดได้กับทุกคนโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะมีอายุน้อย มีร่างกายแข็งแรงก็ตาม หากรู้ไม่เท่าทัน ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Arrhythmia ก็อันตรายถึงชีวิตได้เหมือนกัน ดังนั้นเราลองมาเช็กอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพื่อประเมินอาการตัวเองในเบื้องต้นดีกว่า
หัวใจเต้นผิดจังหวะ คืออะไร
หัวใจเต้นผิดจังหวะ จะแบ่งออกได้ 3 ภาวะ คือ หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นเร็ว และหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ อาการดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยกันทั้งนั้น และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดได้กับทุกวัย อันตรายกับทุกคน
หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจากอะไร
หัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดจากกระแสไฟฟ้าบางตำแหน่งในหัวใจผิดปกติ หรือมีการลัดวงจรของไฟฟ้าในหัวใจ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่เกิดกระแสไฟฟ้าผิดปกติ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ก็สามารถจำแนกได้ ดังนี้
* ภาวะหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจรั่ว ผนังหัวใจหนาผิดปกติ หรือภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น
* เกิดจากหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายและเกิดการเต้นที่ผิดปกติตามมา
* โรคหรือภาวะผิดปกติประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ อิเล็กโทรไลต์ในร่างกายผิดปกติ เป็นต้น
* ผลข้างเคียงจากยาหรือสารบางชนิด เช่น ยาที่มีส่วนประกอบของแอมเฟตามีน หรือคาเฟอีนที่อยู่ในชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
* ความผิดปกติของเกลือแร่บางอย่าง
* ความเครียด ความวิตกกังวล
* การอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการเป็นยังไง
หัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถเกิดได้ทันทีทันใดโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าหัวใจมีความผิดปกติอยู่ แต่เมื่อถูกกระตุ้น เช่น เครียดจัด อ่อนเพลียมาก ๆ ก็อาจเกิดอาการขึ้นมาได้ ทั้งนี้ เรายังพอสังเกตภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ได้จากอาการ ดังนี้
- เจ็บหน้าอก
- วิงเวียน
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- หัวใจเต้นช้าผิดปกติ
- หน้ามืด ตาลาย
- ใจสั่น
- หายใจติดขัด
- เป็นลม หมดสติ
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจทำให้มีเลือดตกค้าง และเกิดลิ่มเลือดขึ้นในช่องหัวใจ ซึ่งลิ่มเลือดอาจหลุดไปอุดตันเส้นเลือดแดงในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะผิดปกติในบริเวณที่อุดตันได้เฉียบพลัน
- วิงเวียน
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- หัวใจเต้นช้าผิดปกติ
- หน้ามืด ตาลาย
- ใจสั่น
- หายใจติดขัด
- เป็นลม หมดสติ
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจทำให้มีเลือดตกค้าง และเกิดลิ่มเลือดขึ้นในช่องหัวใจ ซึ่งลิ่มเลือดอาจหลุดไปอุดตันเส้นเลือดแดงในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะผิดปกติในบริเวณที่อุดตันได้เฉียบพลัน
ทั้งนี้ หากเจอผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถ้ารีบทำการ CPR และใช้เครื่อง AED กระตุ้นหัวใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มากกว่า 50%
หัวใจเต้นผิดจังหวะ รักษาได้ไหม
วิธีรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยมากแพทย์จะพยายามรักษาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น หากเกิดจากโรคหัวใจอื่น ๆ ที่เป็นอยู่ก่อน แพทย์ก็จะทำการรักษาที่ต้นเหตุ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะก็มีแนวทางในการรักษาอยู่หลายทางเลือก ดังนี้
* รักษาด้วยยา
ยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะเป็นยาที่ช่วยควบคุมจังหวะของหัวใจ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของอาการได้ แต่จะไม่สามารถรักษาให้หายขาด
* ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
จะเป็นการฝังเครื่องมือเล็ก ๆ ไว้ใต้ผิวหนัง บริเวณกระดูกไหปลาร้า เพื่อตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจ จากนั้นก็จะสอดสายนำไฟฟ้าไปยังหัวใจ เพื่อควบคุมและกระตุ้นให้หัวใจเต้นตามอัตราที่เหมาะสม
* การใช้ไฟฟ้ากระตุกเพื่อปรับการเต้นของหัวใจ (Cardioversion)
วิธีนี้มักจะใช้รักษาอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยแพทย์จะใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ จากเครื่องส่ง แปะบริเวณหน้าอกของคนไข้ เพื่อให้กระแสไฟฟ้านั้นช่วยปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ
* การใช้สายสวน (Ablation Therapy)
จัดเป็นวิธีรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ค่อนข้างได้ผลดี และอาจช่วยให้โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิดหายขาดได้ โดยวิธีนี้จะเป็นการรักษาต่อเนื่องจากการตรวจระบบการนำไฟฟ้าในหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สอดสายสวนไปยังตำแหน่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุของความผิดปกติได้ จากนั้นแพทย์จะปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงเป็นจุดเล็ก ๆ เพื่อทำลายเนื้อเยื่อหัวใจที่เป็นสาเหตุของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
* การฝังเครื่องกระตุกหัวใจ (Implantable Cardioverter Defibrillator)
แพทย์จะใช้วิธีนี้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงหัวใจห้องล่างเต้นผิดปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายต่อชีวิต โดยเมื่อหัวใจเต้นช้าเกินไป เครื่องมือที่ฝังไว้ในร่างกายคนไข้จะทำหน้าที่กระตุ้นหัวใจ แต่เมื่อหัวใจเต้นเร็ว เครื่องมือจะปล่อยพลังงานไฟฟ้าในระดับที่เหมาะสมเพื่อกระตุกหัวใจให้กลับมาเต้นในจังหวะปกติ
* จี้ด้วยคลื่นไฟฟ้า
วิธีนี้ก็สามารถรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะให้หายขาดได้ โดยแพทย์จะทำการเจาะเส้นเลือดบริเวณต้นขาของคนไข้ แล้วสอดสายสวนหัวใจเข้าไปหาตำแหน่งไฟฟ้าในหัวใจที่ลัดวงจร จากนั้นจะปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ เข้าไปทำให้อุณหภูมิที่ปลายสวนหัวใจสูงขึ้น จาก 37 องศาเซลเซียส เป็น 50-60 องศาเซลเซียส เพื่อทำลายไฟฟ้าหัวใจที่เกิดการลัดวงจรในขณะนั้น เรียกว่าเป็นการรักษาที่ต้นเหตุเลยทีเดียว
หัวใจเต้นผิดจังหวะ ป้องกันได้นะ
ในกรณีที่เราไม่ได้เป็นโรคหัวใจใด ๆ มาก่อน เราก็สามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลความเสี่ยงโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ตามนี้เลย
- พยายามอย่ากินอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง หรือช็อกโกแลต มากเกินไป
- งดสูบบุหรี่
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่เครียด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- งดสูบบุหรี่
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่เครียด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปี
อย่างไรก็ตาม ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นภัยเงียบที่อาจเกิดขึ้นกับเราและคนที่เรารักเมื่อไรไม่รู้ได้ ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดี อย่าหักโหมกับการเรียน การงานจนอดหลับอดนอนด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก