แพทย์เผยกรณีศึกษา สาววัย 41 ปี ปวดท้องน้อย ตกขาว 3 เดือน ซื้อยากินเอง ก่อนพบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เป็นหนองในรังไข่ ต้องผ่าตัดถึง 3 ครั้ง
เป็นภาพอาการเจ็บป่วยที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องระวัง หลัง นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat กรณีผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง อายุ 41 ปี มีอาการเป็นไข้ ปวดท้องน้อย และมีตกขาวมาประมาณ 3 เดือน ซื้อยากินเอง หาหมอบ้างบางครั้ง ได้ยาฆ่าเชื้อมากิน กินบ้างหยุดบ้าง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ก่อนถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสิชล แพทย์วินิจฉัยพบว่า ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จึงตัดสินใจให้ยาฆ่าเชื้อเข้าหลอดเลือดดำ และต้องรอดูอาการต่อไป หลังจากแพทย์ให้ยา 7 วัน คนไข้มีไข้ต่ำ ๆ ผลอัลตราซาวด์เหมือนมีน้ำอยู่ในอุ้งเชิงกราน แพทย์เลยตัดสินใจผ่าตัดเปิดช่องท้อง พบมีหนองในท้องน้อย และเนื้อเยื่อรอบ ๆ เปื่อยยุ่ย ไม่สามารถแยกอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานได้ ทำได้แค่ทำความสะอาดระบายหนองออกให้เยอะที่สุด แล้วต่อท่อระบายหนองเอาไว้ และให้ย่าฆ่าเชื้ออีก 14 วัน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นพบว่าท่อที่ระบายหนองที่ผ่าตัดครั้งแรกไม่ยอมปิด มีหนองซึมตลอดเวลา ทีมแพทย์จึงวางแผนรักษาอีกครั้ง
หลังจากนั้นมีการผ่าตัดครั้งที่ 2 เมื่อเปิดช่องท้องก็ยังพบหนองอยู่
แต่ทำได้แค่ทำความสะอาด ระบายหนองออก และพบว่ามีเชื้อดื้อยา
เลยต้องปรับยาไปใช้แบบที่มีราคาแพงมาก
เมื่อคนไข้อาการดีขึ้นจึงให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน
แต่ระหว่างนั้นคนไข้ก็ยังมีอาการปวดท้องน้อยตลอดเวลา
ทีมแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดครั้งที่ 3
ซึ่งการผ่าตัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สามารถเลาะและตัดเอารังไข่ ปีกมดลูก
เนื้อเยื่อ ข้างที่มีการอักเสบรอบ ๆ ที่เป็นหนองออกมาได้
เหลือรังไข่อีกข้างที่ยังปกติดีอยู่
ซึ่งการผ่าตัดต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
เบื้องหลังการผ่าตัด ต้องผ่าก้อนรังไข่ออกเป็นซีก
พบหนองฝังอยู่ในเนื้อรังไข่เต็มไปหมด ซึ่งรังไข่ปกติขนาด 2 เซนติเมตร
แต่ผู้ป่วยรายนี้โตถึง 10 เซนติเมตร
มดลูกที่ตัดออกมาก็มีขนาดโตกว่าปกติกว่าเท่าตัว
ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดกว่า 5 แสนบาท
แต่โชคดีที่ผู้ป่วยรายนี้ใช้สิทธิบัตรทอง จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ