Binge Watching คือ การดูซีรีส์รวดเดียวจบ โดยมีพฤติกรรมเสพติดการดูซีรีส์ต่อเนื่องเป็นเวลานานแบบไม่พักผ่อน ซึ่งคำว่า Binge Watching มีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคที่เริ่มมีวิดีโอหรือแผ่นหนังให้เช่า และในยุคที่มีบริการสตรีมมิ่งจัดความบันเทิงให้ดูแบบทั้งซีซั่นหรือทั้งเรื่องรวดเดียวก็ทำให้ Binge Watching กลับมาเป็นคำที่น่าสนใจอีกครั้ง
ทั้งนี้ เหตุผลที่ทำให้เราหยุดดูซีรีส์ไม่ได้ก็เป็นเพราะ Corticotropin-Releasing Hormone หรือ CRH ที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกตื่นเต้น เกิดความสงสัย มีความอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งทางซีรีส์เองก็ใช้ประโยชน์จากฮอร์โมนตัวนี้เช่นกัน ด้วยการตัดจบแบบทิ้งประเด็นไว้ท้ายตอน ทำให้เรารู้สึกอยากดูตอนต่อไปอีกเรื่อย ๆ และเมื่อสมดั่งใจที่อยากดูแล้ว ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนโดพามีนซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้เรารู้สึกฟิน รู้สึกผ่อนคลาย จนสามารถอดหลับอดนอนดูซีรีส์ต่อยันเช้าได้นั่นเอง
เชื่อว่าเราดูซีรีส์กันเกือบทุกคน แต่การดูซีรีส์ของเราจะเข้าข่าย Binge Watching ไหม ลองเช็กพฤติกรรมตามนี้เลย
1. มักจะดูซีรีส์รวดเดียวจบ ข้ามวันข้ามคืน หรือสามารถดูซีรีส์ต่อเนื่องเป็น 10 ตอน ใช้เวลามากกว่า 8 ชั่วโมงต่อเนื่องไปกับการดูซีรีส์
2. ติดซีรีส์จนกินข้าวผิดเวลา หรือนอนผิดเวลา
3. มีสภาพอิดโรยจากการอดนอนเพื่อดูซีรีส์ แต่ก็ยังหยุดดูไม่ได้
4. แม้ไม่ใช่วันหยุดก็ยังดูซีรีส์ยันเช้าได้ และมักจะไปเรียน ไปทำงาน อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าไรนัก
5. ติดซีรีส์มากซะจนมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ น้อยลง ทำกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันลดลง หรือยอมยกเลิกนัดเพื่อจะดูซีรีส์
1. เสี่ยงโรคทางสายตา (Computer Vision Syndrome)
ไม่ว่าจะอาการตาแห้ง ปวดตา ตาล้า สายตาพร่ามัว หรือถ้าดูซีรีส์มาราธอน อาจเสี่ยงกับโรควุ้นในตาเสื่อม และโรคต้อหินเฉียบพลันได้ด้วย
วุ้นในตาเสื่อม อาการเห็นหยากไย่ลอยไปลอยมา ปล่อยไว้อาจอันตรายถึงตาดับ
2. ปวดหัวเรื้อรัง
3. อ่อนเพลียสะสม
4. เสี่ยงโรคกระเพาะ
ยอมรับมาเถอะว่าเวลาติดพันกับซีรีส์ เรามักจะลืมกินข้าว และบางคนอาจรวบมื้อเช้า มื้อกลางวัน มาเป็นมื้อเย็นมื้อเดียว ซึ่งหากกินข้าวไม่เป็นเวลาแบบนี้จะยิ่งเสี่ยงโรคกระเพาะอาหารได้นะ
5. อ้วนขึ้น
6. มีอารมณ์ฉุนเฉียว
7. ออฟฟิศซินโดรม
โดยเฉพาะตรงข้อมือที่ใช้จับสมาร์ตโฟนเวลาดูซีรีส์ รวมไปถึงการอยู่ในท่าเดิม ๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
8. นอนไม่หลับ
การฝึกตัวเองให้นอนไม่เป็นเวลา รวมไปถึงการมีแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์มารบกวนสมอง อาจทำให้มีอาการนอนหลับยาก หรือนอนไม่หลับในอนาคตได้เลยล่ะ
9. ภาวะซึมเศร้าหลังดูซีรีส์จบ
การปลีกตัวดูซีรีส์คนเดียวนาน ๆ และความรู้สึกเสพติดอะไรสักอย่างในชั่วขณะหนึ่ง อาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วยนะคะ อย่างบางคนที่รู้สึกใจหาย รู้สึกเศร้าและโหวง ๆ ในอกเมื่อซีรีส์จบลงไป หรือที่เรียกว่าภาวะ Post-Series Depression (PSD)
ดูซีรีส์จบแล้วใจหาย จิตตก อาจอยู่ในภาวะ Post-Series Depression
จริง ๆ แล้ว Binge Watching ก็มีประโยชน์ตรงที่ช่วยให้เราหลุดจากความเครียด หรือช่วงเวลาที่เราอยากสร้างโลกแห่งความบันเทิงได้ ทว่าเราก็ควร Binge Watching อย่างพอดี ซึ่งเรามีวิธีดูซีรีส์ยังไงไม่ให้ร่างพังมาฝากตามนี้เลย
1. กำหนดเวลาในการดูซีรีส์ เช่น จะดู 2-3 ตอน หรือแบ่งเวลาดูซีรีส์วันละ 2 ชั่วโมง เป็นต้น
2. พักเบรกด้วยการลุกไปดื่มน้ำ ไปเข้าห้องน้ำให้บ่อย หรือเปลี่ยนมาอ่านหนังสือ ออกไปเดินซื้อของบ้าง
3. พยายามอย่าดูซีรีส์ข้ามคืน คอยเตือนตัวเองเสมอว่าถึงเวลานอนต้องนอน
4. พยายามเลิกดูซีรีส์ในช่วงกลาง ๆ เรื่อง พยายามอย่าดูจนจบตอน เพื่อหลีกเลี่ยงอารมณ์อยากดูต่อ
5. พักสายตาบ่อย ๆ โดยทุก ๆ 30-40 นาที ให้ละสายตาจากหน้าจอ
6. ขยับตัวบ่อย ๆ จะนั่งบ้างนอนบ้างก็ได้ แค่อย่าปักหลักอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ
7. วางแผนทำอย่างอื่นแทนการดูซีรีส์บ้าง เช่น วางแผนไปเที่ยว วางแผนช้อปปิ้ง เป็นต้น
8. หาเพื่อนนั่งดูด้วยกัน จะได้ไม่เหงา และอาจจะได้พูดคุยกัน ลดเวลาจ้องจอนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน ๆ ไปได้
9. ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าซีรีส์คือความบันเทิงที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งก็ไม่ได้ห้ามถ้าอยากจะดูซีรีส์ หนัง หรือรายการทีวีที่ชอบ แต่ก็อยากให้ดูกันอย่างพอเหมาะพอดี ไม่มากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลเพชรเวช
health.clevelandclinic