สาเหตุของอาการคันรูทวาร มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งเรื่องของอาหารการกิน การรักษาความสะอาด ไปจนโรคที่เป็นอยู่ ได้แก่
1. ขาดสุขลักษณะที่ดี เช่น ล้างก้นไม่สะอาดหลังถ่ายอุจจาระ เช็ดก้นไม่แห้งก่อนสวมกางเกงชั้นใน
2. การใส่กางเกงที่คับ รัดรูป เสี่ยงต่อความอับชื้น
3. ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน ที่อาจทำให้เกิดความอับชื้นที่ทวารหนักตลอดเวลา
4. การใช้กระดาษชำระเช็ดรูทวารแรงเกินไปจนทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ รูทวารหนักระคายเคือง
5. กินอาหารรสจัด อาหารที่มีเครื่องเทศ อาหารที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ ซึ่งมีฤทธิ์ระคายเคือง และอาจกระตุ้นอาการคันทวารหนัก
6. อาการแพ้หรือการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ เช่น กระดาษชำระ สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า แป้ง น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยาเหน็บ รวมถึงการระคายเคืองที่เกิดจากกางเกงชั้นใน หรือผ้าอนามัย เป็นต้น
7. การกินยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด หรือยารักษาสิวบางตัว ที่มีฤทธิ์ทำลายแบคทีเรียเจ้าถิ่น ทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีเติบโตและคุกคามผิวหนังของเราได้
8. ความเครียดที่อาจทำให้ภูมิตก และส่งผลให้เชื้อโรคหรือแบคทีเรียอาละวาดได้
9. สารปนเปื้อนในอุจจาระ ที่มักจะมาพร้อมอาการท้องเสียหรือการถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าปกติ
10. เหงื่อออกมาก ทำให้ทวารอับชื้นตลอดเวลา
11. มีอาการภูมิแพ้ ทำให้มีผื่นขึ้น
12. โรคผิวหนังจากการติดเชื้อรา ยีสต์ หรือไวรัสที่ก่อโรค เช่น หูดหงอนไก่ เริม เซ็บเดิร์ม หรือโรคสะเก็ดเงิน
13. การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักแล้วติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
14. ท้องผูกเรื้อรัง หรือกลั้นอุจจาระไม่อยู่ ทำให้มีอุจจาระไหลซึมออกมารอบปากทวารหนัก
15. โรคริดสีดวงทวารหนัก
16. การติดเชื้อจากพยาธิเข็มหมุดหรือพยาธิเส้นด้าย
17. ฝีคัณฑสูตร
18. โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น เบาหวาน ดีซ่าน ไทรอยด์ โรคไต
19. อาการข้างเคียงของโรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว
อาการคันก้นเกิดจากหลายสาเหตุ อาการคันรูทวารก็จะแตกต่างอยู่บ้างเหมือนกัน เช่น หากเกิดจากการระคายเคืองจะมีอาการคันยุบยิบ ๆ รอบรูทวารหนัก บางรายคันมากจนต้องลงมือเกาก้น ส่วนอาการคันรูทวารจากพยาธิเข็มหมุดมักจะคันรูทวารโดยเฉพาะตอนกลางคืน รวมไปถึงอาจมีอาการปวดท้อง เบื่ออาหาร คันช่องคลอด หรือตกขาวมากขึ้น เมื่อพยาธิชอนไชผ่านทางเยื่อบุลำไส้
ส่วนคนที่มีอาการคันริดสีดวงทวาร หรือคันรูทวารจากฝีคัณฑสูตร จะมีอาการบวมบริเวณทวารหนักหรือแก้มก้น และมักจะคันร่วมกับเจ็บรอบ ๆ รูทวารหนักตลอดเวลา นอกจากนี้อาจพบเลือดและน้ำเหลืองไหลออกมาจากทวารหนัก หรือพบว่ามีหนองหรือเลือดปนมากับอุจจาระ และบางรายอาจมีไข้สูง ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน
เนื่องจากมีปัจจัยมากมายที่ทำให้เราคันก้น หรือคันรูทวารหนัก ดังนั้น วิธีรักษาอาการคันรูทวารก็ควรรักษาที่ต้นเหตุ อย่างถ้าเกิดจากความอับชื้น ไม่สะอาด ก็ต้องรักษาความสะอาดให้มากขึ้น หรืออาจปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ว่าสามารถกินยาแก้คัน หรือใช้ยาทาแก้คันได้ไหม ถ้าอาการคันเกิดเพราะการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็ลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ดู
ส่วนคนที่มีอาการคันรูทวารจากยาที่กินอยู่ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเรื่องการปรับเปลี่ยนยา แต่หากตรวจพบพยาธิเข็มหมุดหรือพยาธิเส้นด้าย ก็ควรรับประทานยาถ่ายพยาธิที่เภสัชกรหรือแพทย์เป็นคนสั่งจ่าย และสำหรับคนที่คันรูทวารจากโรคริดสีดวงทวารหนัก หรือโรคอื่นที่เป็นอยู่ ก็จำเป็นต้องรักษาโรคหลักที่เป็นอยู่ก่อน
อย่างไรก็ตาม หากพบแผลที่รูทวารหรือมีอาการคันก้นมาก ๆ ร่วมกับแสบ หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบไปตรวจรักษากับแพทย์โดยเร็วนะคะ
ไม่อยากเกาก้นจนเสียบุคลิก มาป้องกันอาการคันทวารหนักตามนี้ดีกว่า
* รักษาความสะอาดให้ดี
* ซับทวารหนักให้แห้งก่อนสวมกางเกง
* หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดแน่นจนเกินไป
* เลือกชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อป้องกันความอับชื้น
* ไม่เช็ดก้นด้วยทิชชูแห้งแรง ๆ แต่หากไม่มีสายชำระแนะนำให้ใช้ทิชชูเปียกทำความสะอาดทวารหนักแทน
* ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรืออาหารประเภทนม อาหารที่ย่อยยาก ที่อาจกระตุ้นอาการท้องเสียหรือทำให้ถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าปกติ
* เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดทวารหนัก หรือผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สวมใส่
* รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน
* รับประทานอาหารสุก ร้อน สะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิ
* พยายามอย่าเครียด
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
โรงพยาบาลเวชธานี
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน