x close

อูย..ย..! ปวดหลัง

 ปวดหลัง

อูย..ย..! ปวดหลัง
(momypedia)
โดย: พริบพราย

         คุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะมีอาการปวดหลังเป็นประจำหรือเปล่าคะ แล้วคุณก็มักจะสงสัยทุกทีว่าคุณยังไม่แก่สักหน่อย ทำไมถึงปวดหลังได้ขนาดนี้ ลองมาสำรวจดูกันหน่อยดีกว่า ว่าอะไรคือจำเลยที่ทำให้เราปวดหลัง

         อูย!! ปวดหลังไปหมด กระดูกกระเดี้ยวเหมือนจะหัก เอ๊ะแต่เราก็ยังไม่ได้แก่มากนี่นา แล้วทำไมถึงได้ปวดนู่ ปวดนี่ เป็นคนแก่ไปได้

         แหม...ใครๆ ก็มีอาการปวดหลังกันได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ก็กิจวัตรประจำวันของเราที่เป็นทั้ง หญิงเก่งทำงานนอกบ้าน และหญิงแกร่งผู้บริหารงานในบ้านดูแลลูกๆ เนี่ย เป็นเหตุให้เราปวดหลังละค่ะใน 24 ชั่วโมง เรามีกิจวัตรประจำวันอย่างไรกันบ้าง เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนกันเลยเป็นยังไงคะ
 
ตื่นนอน

         เริ่มตั้งแต่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น คุณเป็นจอมเร่งรีบทุกๆ เช้า คุณจึงดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงด้วยความว่องไว แต่หารู้ไม่ แผ่นหลังที่น่าสงสารของคุณตกอกตกใจทุกเช้า กล้ามเนื้อหลังปรับตัวไม่ทันอาจเกิดการอักเสบขึ้นได้ ทำให้เกิดการปวดหลัง ท่าทางการลุกขึ้นที่เหมาะ ควรจะนอนตะแคงข้างก่อนแล้วค่อยๆ ลุก การลุกอย่างรวดเร็วหรือนอนหงายแล้วลุกขึ้นเลย ทำให้หลังของเราต้องออกแรงมากค่ะ

แปรงฟัน ทำกับข้าว ล้างจาน

         กลายมาเป็นเรื่องเดียวกันได้ค่ะ ถ้าอาการปวดหลังถามหา เพราะเวลาที่เราแปรงฟัน ทำกับข้าว ล้างจาน หรือต้องยืนทำงานบ้านอยู่กับที่ ทำให้เราต้องยืนเข่าตรงหลัง ตรงนานๆ กล้ามเนื้อหลังจะตึง ก่อให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่าย วิธีง่ายๆ ก็คือหาม้านั่งเตี้ยๆ ไว้ยืนพักเท้า สลับซ้ายขวา ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังหย่อนลงมาหน่อย สบายขึ้นเยอะเชียวค่ะ

หยิบของจากพื้น

         ควรจะย่อเข่าลง แล้วค่อยๆ ยกของหนักขึ้นจากพื้นค่ะ เพื่อไม่ต้องใช้แรงที่หลังมากเกินไป หากไม่ระวังกล้ามเนื้อหลังใช้แรงมากๆ อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบได้ง่าย

         สวมรองเท้าส้นสูง เป็นกรรมของผู้หญิงเราเองค่ะที่ผูกติดกับแฟชั่นรองเท้าส้นสูง จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปแล้วว่า การใส่รองเท้าไม่มีส้น(หรือส้นสูงไม่ถึงนิ้ว)นั้น ไม่เหมาะกับกระโปรงทำงานแบบสุภาพ ทั้งๆ ที่รองเท้าแบบนี้ดีต่อหลังของเราอย่างยิ่ง การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการปวดหลังของเราก็ได้ค่ะ ถ้าลดส้นให้เตี้ยลงมาเหลือ 1 นิ้วครึ่งหรือ 2 นิ้ว หลังของเราจะอยู่ในท่าปกติ การสวมใส่รองเท้าส้นสูง หลังของเราอยู่ในลักษณะแอ่นมาข้างหน้า เพื่อพยายามพยุงความสมดุลในการยืน ไม่ให้เราล้ม
 
นั่งทำงาน

         เวลานั่งทำงานเพลินๆ ทีไร ล่วงเลยไปหลายชั่วโมงทุกที หรือไม่งานก็รัดตัวจนไม่มีสิ่งใดสามารถแกะคุณออกไปจากเก้าอี้ได้ใช่ไหมคะ ท่านั่งนานๆ จะมีแรงกดไปที่หมอนรองกระดูกของกระดูกสันหลังมากกว่าท่าเดินเสียอีก หรือเมื่อนั่งนานไปบั้นท้ายของเรายิ่งไหลลง ไหลลง จะทำให้หลังเราโก่งได้ค่ะ

         ทางแก้ก็คือ เตือนตัวเองเสมอว่า อย่านั่งนิ่งๆ นานเกิน 1 ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินไปดื่มน้ำ หรือถ้าจะคุยโทรศัพท์ เราลุกขึ้นยืนคุยบ้าง จะได้เปลี่ยนท่าทาง

นั่งรถ

         หากต้องเดินทางไกลๆ ควรแวะพักระหว่างทางเพื่อไม่ต้องนั่งหลังแข็งนานเกินไป หรือถ้าเราขับรถเอง รถติดเป็นเวลานานๆ เราคงลุกหนีไปไหนไม่ได้ ควรขยับเขยื้อน หลังไหล่บ้าง การขับรถก็ควรนั่งหลังตรงชิดพนัก เบาะนั่งควรอยู่ห่างจากพวงมาลัยพอสมควร ไม่ยืดยาวจนเหมือนกับนอนขับ

นอน

         การนอนบนที่นอนนุ่มนิ่มมากๆ แทนที่จะชวนให้คุณฝันหวาน กลับทำให้คุณปวดหลัง เพราะกระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมตลอดคืน ไม่จำเป็นต้องนอนหินนอนกระดานกันหรอกนะคะ เอาเป็นว่าแค่ที่นอนที่ไม่ยุบตัวลงไปเวลาเรานอนก็พอแล้วค่ะ บางคนปวดหลังมานานแค่เปลี่ยนที่นอนก็หายแล้ว

         นอกจากกิจวัตรประจำวันแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกค่ะ ก่อนอื่นเรามาพูดถึงเรื่องความอ้วนกันก่อน ถ้าเราอ้วนขึ้น แปลว่าเราต้องแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้น หลังของเราต้องรับแรงเพิ่ม ผู้หญิงตั้งครรภ์จึงมักมีปัญหาปวดหลังบ่อยๆ ภายหลังจากคลอดแล้วควรควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนขึ้นมากไปนะคะ คนอ้วนมีโอกาสปวดหลังได้มากกว่าคนผอมค่ะ

มีสูตรคำนวณหาค่าเฉลี่ยระหว่างน้ำหนักและส่วนสูงที่เหมาะสมมาฝากค่ะ

         น้ำหนักตัว(กก.) = ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ส่วนสูง (ม.)

        
ข้อสำคัญค่าเฉลี่ยควรอยู่ระหว่าง 20-24.9 ค่ะ

        
สมมติ น้ำหนัก 50 กก. ส่วนสูง 150 ซม.(1.5 ม.) วิธีคำนวณคือ 50 = 2.2 1.5

         ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ปวดหลังได้อีก เช่น การปวดประจำเดือน อาจทำให้ปวดร้าวไปถึงหลังได้ หรืออาจมาจากการเป็นนิ่วในไต ซึ่งการปวดที่มาจากสาเหตุอื่นๆ นั้น ใช้วิธีสังเกตได้โดยดูว่าการปวดหลังนั้นสัมพันธ์กับอาการอื่นไหม เช่น ปัสสาวะทีไรปวดทุกที ก็อาจเชื่อมโยงกับนิ่วในไตได้ หรือการทำอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วเกิดอาการปวดหลังเสมอ เราต้องหัดสังเกตให้ดีค่ะ

         นอกจากนี้แล้ว การปวดหลังอาจจะเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของกระดูกสันหลัง เช่น กระดูกสันหลังคด หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับรากประสาท ข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกพรุน ฯลฯ

         น.อ. (พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ มีข้อแนะนำเมื่อเกิดอาการปวดหลังดังนี้ค่ะ

         1.ถ้าเกิดอาการปวดรุนแรงมากควรลงนอนพักในท่าที่สบายๆ อาการจะทุเลาลง ท่านอนพักที่สะโพกและเข่างอ จะลดความตึงของกล้ามเนื้อหลัง

         2.การปวดอย่างปัจจุบันทันด่วน ใช้ประคบด้วยความเย็น จะเป็นผ้าห่อน้ำแข็ง หรือเจลแบบโคลด์แพ็กประคบ ถ้ายังไม่ดีขึ้นในเบื้องต้นให้กินยาแก้ปวด จะช่วยได้ในเบื้อง ต้น

         3.ถ้าปวดไม่รุนแรงมาก สามารถนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้

         คุณหมอยังแนะนำว่า ถ้ากล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้องเราแข็งแรงแล้ว จะเป็นตัวช่วยพยุงน้ำหนักให้หลังของเรา ลดโอกาสปวดหลังได้ดีทีเดียวค่ะ

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อูย..ย..! ปวดหลัง อัปเดตล่าสุด 11 สิงหาคม 2552 เวลา 18:50:59 5,167 อ่าน
TOP