เตือนภัยจากกัมมันตภาพรังสี (Momypedia)
หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศญี่ปุ่น ทั้งทรัพย์สิน จิตใจ ชีวิต รวมไปถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
แต่ที่ทำให้หลายคนวิตกกันมากขึ้นคือโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ก็มีมาตรการป้องกันระดับสูงออกมาแล้วเช่นกัน โดยหลังการระบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีการอพยพผู้คนในพื้นที่ออกมากว่า 180,000 คน และดำเนินการจำกัดพื้นที่การแพร่กระจายต่อไป แต่อย่าเพิ่งกังวลไปว่าจะมีการแพร่กระจายมายังประเทศใกล้เคียงรวมถึงบ้านเรา เพราะองค์การอนามัยโลกออกมาประกาศแล้วว่ายังไม่ีมีรายงานการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสียังประเทศอื่น หรือสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศจนมีผลกระทบต่อเรา แต่เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้น เราลองไปทราบถึงอันตรายและทางป้องกันสารกัมมันตรังสีกันหน่อยดีกว่าค่ะ
อันตรายเบื้องต้นจากสารกัมมันตรังสี
ศาสตรจารย์โดนัลด์ โอแลนเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมนิวเคลียร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียออกมาเตือนว่า สารกัมมันตรังสีที่แพร่กระจายออกมาปนเปื้อน เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง หรือเร่งการเกิดมะเร็งในผู้ป่วยบางรายที่อาจจะมีเซลล์มะเร็งอยู่แล้ว แต่ในเบื้องต้นสารกัมมันตรังสีที่มีระดับสูงอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ในทันที แต่ในระยะยาวอาจเกิดการสะสมของฝุ่นกัมมันตภาพหลายปีจนก่อให้เกิดมะเร็งในส่วนอื่น ๆ เช่น มะเร็งกระดูก มะเร็งรังไข่ ลูคีเมีย เป็นต้น
เด็กเล็กและทารกในครรภ์เป็นกลุ่มที่เสี่ยงมากจากการได้รับอันตรายจากสารกัมมันตรังสี ซึ่งในร่างกายของผู้ใหญ่ปกติจะมีกระบวนการรักษาและซ่อมแซมดีเอ็นเอที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือถูกทำลายได้เองหากกระบวนการนั้น เกิดขึ้นไวกว่าการถูกทำลาย แต่เด็กและทารกในครรภ์ เซลล์ในร่างกายมีการแบ่งตัวไวกว่าผู้ใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีในร่างกายก็อาจจะไวกว่ากระบวนการรักษาและซ่อมแซมดีเอ็นเอนั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเด็กที่เกิดออกมาอาจจะมีความผิดปกติ หรือเป็นมะเร็ง
สารกัมมันตรังสีทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้จริงหรือ
ใครที่เคยดูหนังประเภทสัตว์หรือสัตว์ที่ได้รับสารกัมมันตรังสีและกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดออกอาละวาด หยุดความคิดนั่นไว้ก่อนค่ะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับสารกัมมันตรังสีคือ DNA Mutations หรือการเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรม ซึ่งในที่นี้หมายถึง สารกัมมันตรังสีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมในเซลล์ของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และเมื่อเซลล์มีการเปลี่ยนแปลงหรือผิดปกติก็จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ อย่างโรคมะเร็ง โรคผิวหนัง เป็นต้น
การปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในระบบนิเวศ
นอกจากการรับสารกัมมันตรังสีโดยตรงแล้ว ยังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และระบบนิเวศด้วย เช่น การปนเปื้อนในน้ำนมวัว เพราะวัวอาจจะกินหญ้าที่มีฝุ่นกัมมันตภาพปลิวมาตก และส่งผ่านไปยังน้ำนมที่นำมาบริโภค
อีกส่วนหนึ่งที่กำลังเป็นความกังวลอย่างมากคือ บรรดาสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในทะเลและมหาสมุทร เพราะเมื่อฝุ่นกัมมันตภาพที่จับตัวกับความชื้นในอากาศตกลงมาพร้อมฝน ก็จะเกิดการปนเปื้อนฝนในแหล่งน้ำจืดที่ใช้เป็นน้ำดื่ม ทะเลหรือมหาสมุทร รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก็จะได้รับอันตรายไปด้วย ซึ่งจะนำไปอีกหนึ่งความกังวลในเรื่องอาหารทะเลมีอาจการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีไปด้วย
การป้องกัน
การอพยพ – ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีระยะประมาณ 20 กิโลเมตร จะต้องมีการอพยพโดยด่วน เพื่อป้องการการหายใจและสัมผัสฝุ่นกัมมันตภาพในระดับเข้มข้น
หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ – สวมใส่เพื่อป้องกันการหายใจเอาฝุ่นกัมมันตภาพเข้าสู่รางกายโดยตรงในบริเวณที่อาจมีการแพร่กระจายไปถึง
หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่อาจจะมีการปนเปื้อนได้ง่าย - เช่น นมวัว เนื้อสัตว์ น้ำดื่ม ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเสียก่อนว่าปลอดภัยกับการบริโภค
ยาโพแทสเซียม ไอโอไดด์ (Potassium Iodide pills) - เป็นยาที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งไทรอยด์ ในกรณีที่อาจจะได้รับฝุ่นกัมมันตภาพและเกิดอาการของโรคมะเร็งไว แต่ไม่สามารถใช้ป้องกันมะเร็งอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวซึ่งเกิดจากการสะสมสารกัมมันตรังสีเป็นเวลาหลายปี
สำหรับในบ้านเรายังไม่มีการแพร่กระจายมาถึง ดังนั้นยังไม่ต้องวิตกไปค่ะ เรายังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ในส่วนของความเป็นเพื่อนบ้านกับญี่ปุ่น เรายังต้องร่วมส่งกำลังใจ รวมไปถึงการบริจาคเงินหรือสิ่งของตามกำลัง เพื่อไปช่วยเยียวยาเพื่อนบ้านของเรา ทั้งทางรางกายและจิตใจให้กลับมามีกำลังฟื้นฟูประเทศอีกครั้งค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย